ครม.ร่วม เห็นชอบเชื่อมเส้นทางรถไฟจากไทยไปพนมเปญ

กรุงพนมเปญ 7 ก.ย.-นายกรัฐมนตรีไทย- กัมพูชา แถลงร่วมเห็นพ้องปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตร  เชื่อมเส้นทางรถไฟจากไทยไปพนมเปญ  ดูแลผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย ให้ดีที่สุด และทำแรงงานกัมพูชาให้ถูกกฏหมาย ทั้งสองประเทศจะก้าวไปข้างหน้า ไม่มีความหวาดระแวงต่อกัน 


เมื่อเวลา 11.00 น. ณ อาคารสันติภาพ สำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการระหว่างไทยและกัมพูชา ครั้งที่ 3 Joint Cabinet Retreat (JCR) ทางฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วย สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา  และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ทั้งสองประเทศ ได้เป็นสักขีพยาน การลงนามเอกสาร 2 ฉบับ ได้แก่ 1 แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 และ 2 ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย – กัมพูชา ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันต่อไป 


จากนั้นมีการแถลงร่วมกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าประเทศไทยยินดี ให้ความช่วยเหลือ ปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร  ส่วนการเปิดจุดผ่านแดนนั้น คณะกรรมการเจบีซี จะเร่งรัดให้เร็วขึ้น  นอกจากนี้ทั้งสองประเทศ จะมีความร่วมมือมากขึ้นในด้านการปราบปรามยาเสพติด ที่ไทยยินดีช่วยตั้งศูนย์แก้ปัญหายาเสพติด ร่วมมือกันทั้งด้านการป้องกัน การปราบปรามและการฟื้นฟู สำหรับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะแรงงานด้านประมง จากประเทศกัมพูชานั้น จะต้องคัดแยกให้ถูกต้องตามกฎหมาย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องความเชื่อมโยงนั้น ไทยและกัมพูชาจะร่วมมือกันโดยในส่วนของรถไฟ จะก่อสร้างทางเพื่อเชื่อมไปถึงกรุงพนมเปญโดยเร็ว ซึ่งถือเป็นเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์  เชื่อมไทยกับประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และมีข้อตกลงจะดูแลผู้ประกอบการทั้ง 2 ฝ่ายให้ดีที่สุด ตามมาตรการที่เหมาะสม ทั้งสองประเทศจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งในภูมิภาค และอยู่บนพื้นฐานการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่มีความหวาดระแวง บนผลประโยชน์ที่เท่าเทียม  

ทางด้านสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า การหารือเป็นเข็มทิศชี้ทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกัมพูชาและไทย เกือบทุกบริบทที่หยิบยกมาหารือ และเห็นชอบกันนั้น ทางด้านเศรษฐกิจ ทั้ง 2 ประเทศ มุ่งเน้นเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน  ทางการไทยตกลงรับซื้อสินค้าเกษตรกรของกัมพูชามากขึ้น ขณะที่การเชื่อมโยงระหว่างกันเป็นประเด็นหลัก และเห็นชอบเปิดด่านถาวร อีก 4 แห่ง ส่วนปัญหายาเสพติดและการค้ามนุษย์ก็เป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายหยิบยกมาหารือกัน โดยจะริเริ่มให้มีหมู่บ้านสีขาว ปลอดยาเสพติด นอกจากนี้อยากให้คนงานกัมพูชา เข้าทำงานในไทยอย่างถูกกฎหมาย ไม่ถูกหลอก


ด้านพล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมร่วมว่า ไทยกำลังดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20  ปี และ Thailand 4.0  รัฐบาลกัมพูชาก็ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์จตุโกณ ที่มีความ สำคัญสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขยายเครือข่ายความเชื่อมโยงด้านการคมนาคม การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน การสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็ก SMEs และกลุ่ม Start up  

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่เป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศ โดยขณะนี้ไทยส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาสายอาชีวะ ซึ่งจะผลิตแรงงานที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ สำหรับการพัฒนาประเทศนั้น ไทยยึดนโยบาย Thailand +1 และเน้นความร่วมมือที่เป็นหุ้นส่วนและเดินหน้าไปด้วยกัน และต้องร่วมกันแก้ปัญหาที่มีอยู่ โดยไม่สร้างปัญหาในวันข้างหน้า 

“นายกรัฐมนตรีหวังว่าการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการกระชับความร่วมมือและแนวทางสร้างผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนของประเทศทั้งสอง” พล.ท.วีรชน กล่าว

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า โอกาสนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ที่ผ่านมามีความร่วมมือกันอย่างดียิ่ง ในทุกระดับ ทั้งระดับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม   ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และแม่ทัพภาค รวมทั้งกลไกทวิภาคี คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC และ RBC 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งดูแลด้านความมั่นคงชายแดนในส่วนของประชาชนในท้องถิ่นโดยตรง ทำงานอย่างบูรณาการเสริมสร้างพื้นที่ชายแดนให้มีความสงบสุข สองประเทศมีเสถียรภาพ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นบนพื้นฐานของความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ดังนั้น ขอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งจัดทำรายชื่อผู้ประสานงาน สำหรับช่องทางการสื่อสารเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน หรือ hotline ในทุกระดับการบังคับบัญชาเพื่อการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนได้อย่างทันท่วงที

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าด้านการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูง สถิติการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนรวมถึงเหตุการณ์ปะทะอันสืบเนื่องมาจากการลักลอบตัดไม้ดังกล่าวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงขอให้สองฝ่ายจัดการประชุมคณะกรรมการระดับชาติสองฝ่ายในโอกาสแรกเพื่อหารือแนวทางป้องกันปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบและยั่งยืน  เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นการขยายความร่วมมือในรูปแบบใหม่ ขอเสนอให้สองฝ่ายช่วยกันรักษาความสะอาดบริเวณลำคลอง โดยอาจเริ่มต้นจากพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสำคัญ อันจะช่วยเสริมสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามสำหรับผู้สัญจรข้ามแดนและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย              

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]