“ปกรณ์วุฒิ” โต้ไม่เคยทำตัวเป็นฝ่ายแค้น ขอเปิดใจคำติติง

รัฐสภา 13 ก.ย.- “ปกรณ์วุฒิ” โต้นายกฯ ไม่เคยทำตัวเป็นฝ่ายแค้น ยังไม่พอใจคำชี้แจงนายกฯ บอกไม่ต้องตอบเองก็ได้ ควรมอบ รมต.ตอบให้ชัดเจน ซัดกลับตลอด 1 ปีที่ผ่านมา “บิ๊กอ้วน” พูดเรื่องวาทกรรมเยอะที่สุด คาดเป็นคนมีปม ขอเปิดใจคำติติงเสนอด้วยความหวังดี


นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงภาพรวมการแถลงนโยบายของรัฐบาล เมื่อวานนี้ว่า ในส่วนของการจัดการเวลายังคงอยู่ในกรอบที่ได้แบ่งไว้ แต่เนื่องจากเมื่อวานได้ใช้เวลาอภิปราย นานกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงเชื่อว่าวันนี้น่าจะปิดการประชุมได้ในช่วงประมาณ 23.00 น. ส่วนเนื้อหาการอภิปรายของฝ่ายค้านก็เป็นที่น่าพอใจ เพียงแต่เป็นห่วงบรรยากาศในที่ประชุม เพราะเมื่อวานนี้มีการประท้วงหลายรอบ โดยบอกว่าไม่อยากให้พูดถึงเรื่องในอดีต ทั้งที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และพรรคร่วมรัฐบาลก็พูดมาโดยตลอดว่ารัฐบาลปัจจุบันสืบทอดนโยบายมาจากรัฐบาลเดิมแต่พอฝ่ายค้านพูดถึงรัฐบาลเดิมกลับถูกประท้วง รวมถึงกังวลกับกรณีที่มีการเบลอหน้า บุคคลภายนอก ในสไลด์ ประกอบการอภิปราย ทั้งที่เป็นบุคคลสาธารณะและเป็นอดีตรัฐมนตรี รัฐบาลที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นบุคคลสาธารณะ ดูเป็นเหมือนการไม่ให้เกลียดกับบุคคลดังกล่าว อีกทั้งประชาชนเลือกผู้แทนมาเพื่อให้พูดถึงปัญหาที่กระทบต่อชีวิตประชาชน ดังนั้นการเคร่งครัดไม่ให้พูดถึงบุคคลภายนอกเลยจะทำให้สภาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

ส่วนที่หลายคนมองว่าฝ่ายค้าน ไม่กล้าที่จะค้างกับพรรคเพื่อไทยเพราะหลายประเด็นสำคัญไม่มีการพูดถึง โดยเฉพาะประเด็น ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอาจเข้าข่ายครอบงำนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หากติดตามการทำงานของฝ่ายค้านจะรู้ว่ามีการตรวจสอบทุกเรื่องมาโดยตลอดแต่ทุกอย่างยืนอยู่บนหลักการ หากเป็นเรื่อง ที่เห็นตรงกันแล้วยังค้านก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ส่วนประเด็นของนางสาวแพทองธารเมื่อวานนี้มีสมาชิกหลายคนพูดถึงและถูกประท้วง ซึ่งนั่นคือประเด็นที่ตอนกังวลว่าการพูดถึงบุคคลภายนอกไม่ได้เลยจะเป็นปัญหา แต่ส่วนตัวก็เห็นด้วยกับเที่ยวรัฐมนตรีหลายคนพูดว่า ไม่ว่าคำแนะนำของใครก็ตามหากเป็นประโยชน์และรัฐบาลหยุดใช้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ประชาชนและเพื่อนสมาชิกก็มีสิทธิ์จะวิพากษ์วิจารณ์ได้


ส่วนที่เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีขอฝ่ายค้านอย่าเป็นฝ่ายแทนนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าหากติดตามการทำงานของฝ่ายค้านมาตลอด 1 ปี นายกรัฐมนตรีคงจะรู้ว่าเราไม่ได้ทำตัวเป็นฝ่ายแค้น เพราะไม่รู้ว่าเราไปทำตัวเป็นฝ่ายแค้นตอนไหน และไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนบอกให้นายกรัฐมนตรีพูดแบบนี้ จึงขอให้เปิดใจให้กว้างและลองฟัง จะพบว่าเรามีทั้งคำแนะนำและข้อติติงที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ พร้อมกันนี้นายปกรณ์วุฒิ ยังยืนยันว่าในสภาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา คนที่พูดเรื่องวาทกรรมบ่อยที่สุดคือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงไม่มั่นใจว่าติดใจหรือมีปมอะไรกับเรื่องนี้หรือไม่ เพราะฝ่ายค้านแทบจะไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าไม่มีอคติกับเราก็คงจะรับรู้ได้ว่า เพราะติดอิงหลายอย่างเสนอด้วยความหวังดี และสามารถทำงานร่วมกันได้ในเรื่องที่เห็นตรงกัน

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าเนื่องจากการแถลงนโยบายเมื่อวานนี้ ตามข้อบังคับการประชุมกำหนดให้ต้องอ่าน คำแถลงตามเอกสาร จึงไม่ สามารถประเมินและให้คะแนนนางสาวแพทองธาร ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนการชี้แจงข้อซักถาม เป็นลักษณะการตอบแบบกว้างๆ ส่วนตัวจึงมองว่านายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องตอบเองทุกเรื่องสามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงให้ชัดเจน ดีกว่าจะลุกขึ้นมาพูดในหลักการกว้างๆตามที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ เพราะพรรคประชาชนขอให้สส. ตั้งคำถามให้ชัดว่าอยากจะทราบข้อมูลในส่วนนี้ จึงคาดหวังมีคำตอบที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน ซึ่งภาพรวมเมื่อวานนี้ คำตอบที่ได้ก็ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจจึงรอวันนี้เพราะรัฐมนตรีหลายคนรับปากว่าจะมาชี้แจงเพิ่มเติม

ประธานวิปฝ่ายค้านระบุว่าหลังจากอภิปรายนโยบายรัฐบาลแล้ววางแผนที่จะอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในสมัยประชุมสภานี้ แต่จะพิจารณาอีกครั้งเพราะขณะนี้มีเหตุการณ์ใหญ่ๆเกิดขึ้น จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่หากมีเนื้อหาสาระเพียงพอก็พร้อมที่จะอภิปราย


ส่วนกรณีคลิปหลุดเสียงการสนทนาคล้ายคนในบ้านป่าที่ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาเตรียมตัวสำหรับการอภิปรายนโยบายรัฐบาลจึงยังไม่ได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าว ในส่วนของเรื่องจริยธรรมพรรคประชาชนยืนยันมาตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้หลักการที่เป็นนามธรรมและมอบอำนาจให้กับคนไม่กี่คนมาเป็นผู้ตัดสิน ส่วนโทษเองก็ควรเป็นไปตามสัดส่วนที่เหมาะสม แต่ในกรณีนี้หากมีเรื่องทุจริต หรือการใช้อำนาจรัฐ เข้าไปเกี่ยวข้อง เราก็พร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ

นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าพรรคพลังประชารัฐ อยู่ในพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลแต่ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลครั้งนี้มีการจัดสรรเวลาให้ในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นของฝ่ายใด แต่หลังจากนี้จะต้อง หาความชัดเจน .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]