“ปกรณ์วุฒิ” โต้ไม่เคยทำตัวเป็นฝ่ายแค้น ขอเปิดใจคำติติง

รัฐสภา 13 ก.ย.- “ปกรณ์วุฒิ” โต้นายกฯ ไม่เคยทำตัวเป็นฝ่ายแค้น ยังไม่พอใจคำชี้แจงนายกฯ บอกไม่ต้องตอบเองก็ได้ ควรมอบ รมต.ตอบให้ชัดเจน ซัดกลับตลอด 1 ปีที่ผ่านมา “บิ๊กอ้วน” พูดเรื่องวาทกรรมเยอะที่สุด คาดเป็นคนมีปม ขอเปิดใจคำติติงเสนอด้วยความหวังดี


นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงภาพรวมการแถลงนโยบายของรัฐบาล เมื่อวานนี้ว่า ในส่วนของการจัดการเวลายังคงอยู่ในกรอบที่ได้แบ่งไว้ แต่เนื่องจากเมื่อวานได้ใช้เวลาอภิปราย นานกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงเชื่อว่าวันนี้น่าจะปิดการประชุมได้ในช่วงประมาณ 23.00 น. ส่วนเนื้อหาการอภิปรายของฝ่ายค้านก็เป็นที่น่าพอใจ เพียงแต่เป็นห่วงบรรยากาศในที่ประชุม เพราะเมื่อวานนี้มีการประท้วงหลายรอบ โดยบอกว่าไม่อยากให้พูดถึงเรื่องในอดีต ทั้งที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และพรรคร่วมรัฐบาลก็พูดมาโดยตลอดว่ารัฐบาลปัจจุบันสืบทอดนโยบายมาจากรัฐบาลเดิมแต่พอฝ่ายค้านพูดถึงรัฐบาลเดิมกลับถูกประท้วง รวมถึงกังวลกับกรณีที่มีการเบลอหน้า บุคคลภายนอก ในสไลด์ ประกอบการอภิปราย ทั้งที่เป็นบุคคลสาธารณะและเป็นอดีตรัฐมนตรี รัฐบาลที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นบุคคลสาธารณะ ดูเป็นเหมือนการไม่ให้เกลียดกับบุคคลดังกล่าว อีกทั้งประชาชนเลือกผู้แทนมาเพื่อให้พูดถึงปัญหาที่กระทบต่อชีวิตประชาชน ดังนั้นการเคร่งครัดไม่ให้พูดถึงบุคคลภายนอกเลยจะทำให้สภาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

ส่วนที่หลายคนมองว่าฝ่ายค้าน ไม่กล้าที่จะค้างกับพรรคเพื่อไทยเพราะหลายประเด็นสำคัญไม่มีการพูดถึง โดยเฉพาะประเด็น ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอาจเข้าข่ายครอบงำนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หากติดตามการทำงานของฝ่ายค้านจะรู้ว่ามีการตรวจสอบทุกเรื่องมาโดยตลอดแต่ทุกอย่างยืนอยู่บนหลักการ หากเป็นเรื่อง ที่เห็นตรงกันแล้วยังค้านก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ส่วนประเด็นของนางสาวแพทองธารเมื่อวานนี้มีสมาชิกหลายคนพูดถึงและถูกประท้วง ซึ่งนั่นคือประเด็นที่ตอนกังวลว่าการพูดถึงบุคคลภายนอกไม่ได้เลยจะเป็นปัญหา แต่ส่วนตัวก็เห็นด้วยกับเที่ยวรัฐมนตรีหลายคนพูดว่า ไม่ว่าคำแนะนำของใครก็ตามหากเป็นประโยชน์และรัฐบาลหยุดใช้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ประชาชนและเพื่อนสมาชิกก็มีสิทธิ์จะวิพากษ์วิจารณ์ได้


ส่วนที่เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีขอฝ่ายค้านอย่าเป็นฝ่ายแทนนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าหากติดตามการทำงานของฝ่ายค้านมาตลอด 1 ปี นายกรัฐมนตรีคงจะรู้ว่าเราไม่ได้ทำตัวเป็นฝ่ายแค้น เพราะไม่รู้ว่าเราไปทำตัวเป็นฝ่ายแค้นตอนไหน และไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนบอกให้นายกรัฐมนตรีพูดแบบนี้ จึงขอให้เปิดใจให้กว้างและลองฟัง จะพบว่าเรามีทั้งคำแนะนำและข้อติติงที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ พร้อมกันนี้นายปกรณ์วุฒิ ยังยืนยันว่าในสภาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา คนที่พูดเรื่องวาทกรรมบ่อยที่สุดคือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงไม่มั่นใจว่าติดใจหรือมีปมอะไรกับเรื่องนี้หรือไม่ เพราะฝ่ายค้านแทบจะไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าไม่มีอคติกับเราก็คงจะรับรู้ได้ว่า เพราะติดอิงหลายอย่างเสนอด้วยความหวังดี และสามารถทำงานร่วมกันได้ในเรื่องที่เห็นตรงกัน

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าเนื่องจากการแถลงนโยบายเมื่อวานนี้ ตามข้อบังคับการประชุมกำหนดให้ต้องอ่าน คำแถลงตามเอกสาร จึงไม่ สามารถประเมินและให้คะแนนนางสาวแพทองธาร ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนการชี้แจงข้อซักถาม เป็นลักษณะการตอบแบบกว้างๆ ส่วนตัวจึงมองว่านายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องตอบเองทุกเรื่องสามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงให้ชัดเจน ดีกว่าจะลุกขึ้นมาพูดในหลักการกว้างๆตามที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ เพราะพรรคประชาชนขอให้สส. ตั้งคำถามให้ชัดว่าอยากจะทราบข้อมูลในส่วนนี้ จึงคาดหวังมีคำตอบที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน ซึ่งภาพรวมเมื่อวานนี้ คำตอบที่ได้ก็ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจจึงรอวันนี้เพราะรัฐมนตรีหลายคนรับปากว่าจะมาชี้แจงเพิ่มเติม

ประธานวิปฝ่ายค้านระบุว่าหลังจากอภิปรายนโยบายรัฐบาลแล้ววางแผนที่จะอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในสมัยประชุมสภานี้ แต่จะพิจารณาอีกครั้งเพราะขณะนี้มีเหตุการณ์ใหญ่ๆเกิดขึ้น จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่หากมีเนื้อหาสาระเพียงพอก็พร้อมที่จะอภิปราย


ส่วนกรณีคลิปหลุดเสียงการสนทนาคล้ายคนในบ้านป่าที่ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาเตรียมตัวสำหรับการอภิปรายนโยบายรัฐบาลจึงยังไม่ได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าว ในส่วนของเรื่องจริยธรรมพรรคประชาชนยืนยันมาตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้หลักการที่เป็นนามธรรมและมอบอำนาจให้กับคนไม่กี่คนมาเป็นผู้ตัดสิน ส่วนโทษเองก็ควรเป็นไปตามสัดส่วนที่เหมาะสม แต่ในกรณีนี้หากมีเรื่องทุจริต หรือการใช้อำนาจรัฐ เข้าไปเกี่ยวข้อง เราก็พร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ

นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าพรรคพลังประชารัฐ อยู่ในพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลแต่ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลครั้งนี้มีการจัดสรรเวลาให้ในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นของฝ่ายใด แต่หลังจากนี้จะต้อง หาความชัดเจน .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]