“ชูศักดิ์” รับเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา

รัฐสภา 12 ก.ย.-“ชูศักดิ์” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รับเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ควบคู่การแก้ไขทั้งฉบับ ชี้หลายมาตราต้องถูกปรับ ยกตัวอย่างใช้เสียงข้างมากล้ม นายกฯ ถาม ยุติธรรมหรือไม่ ยืนยันแม้รัฐบาลไม่กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ต้องทำโดยเร็ว

ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาเรื่องด่วน ครม. แถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ว่า จากการรับฟังเห็นว่ามีข้อซักถามที่เป็นประเด็นสำคัญ 2 เรื่องว่า 1. ทำไมไม่จัดเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นนโยบายเร่งด่วน 2. ความไม่ชัดเจนของนโยบาย ว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับในแบบไหนอย่างไร


และจากการฟัง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ที่พูดถึงและเปรียบเทียบการแถลงนโยบายของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร และรัฐบาลอื่นๆ โดยเฉพาะนโยบายน.ส.ยิ่งลักษณ์สมัยนั้นที่ระบุว่ามีรายละเอียดกำหนดจำนวนเงิน วัน เวลา สถานที่ ว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ ซึ่งตนก็มีส่วนร่วมในการจัดทำนโยบายขณะนั้นซึ่งเป็นการจัดทำนโยบายตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ซึ่งมีบทบัญญัติตามมาตรา 75 มาตรา 76 ระบุชัดเจนว่า รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภา ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า จะทำอะไร อย่างไร เมื่อไหร่ ดังนั้นการทำนโยบายขณะนั้นจึงมีความชัดเจนว่าจะได้ 300 บาท เมื่อไหร่ ปีแรกทำอะไร แต่กับรัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ.2560 บทบัญญัติที่กล่าวมานั้นได้ยกเลิกไปแล้ว มีเพียงระบุว่า การจัดทำนโยบายตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องแถลงแหล่งที่มาของเงินรายได้ ว่าจะเอามาจากไหน และเอากรอบยุทธศาสตร์ชาติมากำหนดไว้ ซึ่งกรอบยุทธศาสตร์ก็เกิดจากรัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้นการแถลงนโยบายของรัฐบาลนี้ ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 นี่เป็นความรู้ว่าทำไมถึงทำเช่นนี้

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับคำถามว่าทำไมไม่กำหนดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน ขอชี้แจง โดยให้ย้อนไปที่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีการวิจารณ์กันว่านโยบายยืดเยื้อไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไร จะทำอย่างไร โดยเขียนว่า “จะแก้ ปัญหาความเห็นต่าง ในเรื่องรัฐธรรมนูญเพื่อให้คนไทยมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยยึดรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่แก้ไขหมวด 1 หมวด 2 โดยรัฐบาลจะหารือแนวทางในการทำประชามติ” แต่มาถึงรัฐบาลน.ส.แพรทองธารเขียนไว้สั้นๆ ว่าจะเร่งรัดทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเร็วที่สุด โดยยึดโยงกับประชาชนและหลักการประชาธิปไตย จริงอยู่ว่าไม่ได้เป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ตนก็พอใจ ว่า 1. มีการเร่งรัด 2. ระบุว่า โดยเร็วที่สุด


อย่างไรก็ตาม นโนบายของรัฐบาลทั้ง 2 จะเห็นว่า สมัยนายเศษฐา ยังไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุดจะตรารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขึ้นมาได้โดยวิธีการใด เพราะขณะนั้นมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2564 วินิจฉัยว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ฉบับปี 2560 เกิดจากการทำประชามติของประชาชน ดังนั้นการจะทำฉบับใหม่อีก ต้องถามประชาชนด้วยว่า จะจัดทำฉบับใหม่หรือไม่ ถ้าจัดทำ ก็ต้องถามประชาชนอีกครั้งว่า จะเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลนายเศรษฐาเห็นว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าท้ายสุดจะจัดทำอย่างไร โดยเฉพาะมีการเถียงกันมากว่าจะทำประชามติกี่ครั้ง ตนจึงได้สอบถามประธานรัฐสภา โดยเสนอเป็นร่างเข้ามา ฝ่ายกฎหมายสภาบอกเป็นการทำฉบับใหม่ ดังนั้นตนจึงถามศาลรัฐธรรมนูญ ท้ายที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ บอกว่ายังไม่มีข้อขัดแย้ง ไม่รับวินิจฉัย ดังนั้นนายเศรษฐา จึงใช้ความรอบคอบ โดยตั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานกรรมการศึกษา และจนตอนนี้ได้ข้อสรุปว่า 1. ทำประชามติ 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ถามว่า สมควรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ครั้งที่ 2 ถามหลังการแก้มาตรา 256 มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แล้ว และ ครั้งที่ 3 ถามประชาชนว่าจะเห็นชอบกับรัฐธรรมนญฉบับใหม่หรือไม่

ดังนั้นโดยเหตุนี้ รัฐบาลเลยเขียนไว้สั้นๆ ว่ารัฐธรรามนูญฉบับใหม่จะไปอย่างไร ซึ่งก็เราคิดว่า จะเดินตามนี้ แต่จะเดินตามนี้ได้ รัฐสภาต้องทำความเข้าใจร่วมกัน และร่วมกันผลักดัน นอกจากนี้ยังต้องแก้ไจให้เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเราทราบดีว่า ที่มาที่ไปของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่เรียกกันว่า รัฐธรรมนูญปราบโกง แต่ส่วนตัวดูแล้วว่ามีบทบัญญัติหลายมตราที่เป็นปัญหา สามารถตีความเกินเลยไปจากปกติที่ควรรจะเป็น ที่เห็นชัด เช่น มาตรา 160 (4) (5) คำว่า มีความซื่อสัตยุ์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ถามว่า วิญญูชนจะรู้ว่าอะไรคือประจักษ์ หรือคือการไม่เคยทำผิดมาเลยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หรืออะไรคือพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนประมวลจรยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งเราทราบดีว่า ท้ายสุดจะเอาตั้งแต่อายุเท่าไหร่ก็ไม่ได้กำหนด จะเอาตั้งแต่แรกเกิด หรือ 7 ขวบ แค่เตะฟุตบอลโกงเขา เป็นต้น ก็ไม่มีข้อจำกัด

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พริษฐ์ วัชรสินธุ เคยมาคุยกับเรา กับเลขาธิการพรรค และประธานวิป ว่าระหว่างรอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะแก้ไขรายมาตรา บางประเด็นที่คิดว่า มีความจำเป็น เพื่อประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินไม่ให้เกิดปัญหาการตีความล้นเกิน ซึ่งเราคิดและเห็นด้วยว่า ควรทำ แต่ที่ดีที่สุดคือให้สส. พรรคการเมืองทั้งหลายช่วยกันทำ ซึ่งทางพรรคประชาชนก็เสนอร่างมาแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้เสนอบรรจุ ส่วนเราก็ยกร่างมาพอสมควรว่า ควรแก้อะไรบ้าง


“เช่น การวินิจฉัยให้คนใดคนหนึ่งออกจากตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น สส., สว. หรือรัฐมนตรี การใช้เสียงข้างมากเท่านั้นจะถือว่ายุติธรรมหรือไม่ เช่น 1 เสียงก็สามารถเอานายกฯ ออกจากตำแหน่งได้ ในอดีตก็เคยมีเสียงเอกฉันท์ หรืออย่างน้อยเสียง 2 ใน 3 หรือ 4 น 5 ดังนั้นเห็นด้วยว่า แก้รัฐธรรมนูญรายประเด็นพร้อมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับควบคู่กันไป จะทำให้บ้านเมืองเรามีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น” นายชูศักดิ์ กล่าว

โดยสรุปเรามีเจตนาแน่วแน่ว่าจะเร่งรัดจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเราทราบดีว่าต้องแก้กฎหมายประชามติซึ่งผ่านสภาฯ แล้ว อยู่ที่วฒิสภา หลังเสร็จก็ประกาศใช้ หลังมีกฎหมายประชามติ ก็จะเริ่มถามประชาชนว่า สมควรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เป็นการเริ่มนับหนึ่ง รัฐธรรมนูญประชาชนตามนโยบายรัฐบาลที่ประกาศ ดังนั้นเรายินดีเร่งรัด จัดทำ ให้ได้รัฐธรรมนูญบับใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน