“ชูศักดิ์” รับเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา

รัฐสภา 12 ก.ย.-“ชูศักดิ์” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รับเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ควบคู่การแก้ไขทั้งฉบับ ชี้หลายมาตราต้องถูกปรับ ยกตัวอย่างใช้เสียงข้างมากล้ม นายกฯ ถาม ยุติธรรมหรือไม่ ยืนยันแม้รัฐบาลไม่กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ต้องทำโดยเร็ว

ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาเรื่องด่วน ครม. แถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ว่า จากการรับฟังเห็นว่ามีข้อซักถามที่เป็นประเด็นสำคัญ 2 เรื่องว่า 1. ทำไมไม่จัดเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นนโยบายเร่งด่วน 2. ความไม่ชัดเจนของนโยบาย ว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับในแบบไหนอย่างไร


และจากการฟัง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ที่พูดถึงและเปรียบเทียบการแถลงนโยบายของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร และรัฐบาลอื่นๆ โดยเฉพาะนโยบายน.ส.ยิ่งลักษณ์สมัยนั้นที่ระบุว่ามีรายละเอียดกำหนดจำนวนเงิน วัน เวลา สถานที่ ว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ ซึ่งตนก็มีส่วนร่วมในการจัดทำนโยบายขณะนั้นซึ่งเป็นการจัดทำนโยบายตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ซึ่งมีบทบัญญัติตามมาตรา 75 มาตรา 76 ระบุชัดเจนว่า รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภา ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า จะทำอะไร อย่างไร เมื่อไหร่ ดังนั้นการทำนโยบายขณะนั้นจึงมีความชัดเจนว่าจะได้ 300 บาท เมื่อไหร่ ปีแรกทำอะไร แต่กับรัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ.2560 บทบัญญัติที่กล่าวมานั้นได้ยกเลิกไปแล้ว มีเพียงระบุว่า การจัดทำนโยบายตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องแถลงแหล่งที่มาของเงินรายได้ ว่าจะเอามาจากไหน และเอากรอบยุทธศาสตร์ชาติมากำหนดไว้ ซึ่งกรอบยุทธศาสตร์ก็เกิดจากรัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้นการแถลงนโยบายของรัฐบาลนี้ ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 นี่เป็นความรู้ว่าทำไมถึงทำเช่นนี้

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับคำถามว่าทำไมไม่กำหนดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน ขอชี้แจง โดยให้ย้อนไปที่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีการวิจารณ์กันว่านโยบายยืดเยื้อไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไร จะทำอย่างไร โดยเขียนว่า “จะแก้ ปัญหาความเห็นต่าง ในเรื่องรัฐธรรมนูญเพื่อให้คนไทยมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยยึดรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่แก้ไขหมวด 1 หมวด 2 โดยรัฐบาลจะหารือแนวทางในการทำประชามติ” แต่มาถึงรัฐบาลน.ส.แพรทองธารเขียนไว้สั้นๆ ว่าจะเร่งรัดทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเร็วที่สุด โดยยึดโยงกับประชาชนและหลักการประชาธิปไตย จริงอยู่ว่าไม่ได้เป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ตนก็พอใจ ว่า 1. มีการเร่งรัด 2. ระบุว่า โดยเร็วที่สุด


อย่างไรก็ตาม นโนบายของรัฐบาลทั้ง 2 จะเห็นว่า สมัยนายเศษฐา ยังไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุดจะตรารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขึ้นมาได้โดยวิธีการใด เพราะขณะนั้นมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2564 วินิจฉัยว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ฉบับปี 2560 เกิดจากการทำประชามติของประชาชน ดังนั้นการจะทำฉบับใหม่อีก ต้องถามประชาชนด้วยว่า จะจัดทำฉบับใหม่หรือไม่ ถ้าจัดทำ ก็ต้องถามประชาชนอีกครั้งว่า จะเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลนายเศรษฐาเห็นว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าท้ายสุดจะจัดทำอย่างไร โดยเฉพาะมีการเถียงกันมากว่าจะทำประชามติกี่ครั้ง ตนจึงได้สอบถามประธานรัฐสภา โดยเสนอเป็นร่างเข้ามา ฝ่ายกฎหมายสภาบอกเป็นการทำฉบับใหม่ ดังนั้นตนจึงถามศาลรัฐธรรมนูญ ท้ายที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ บอกว่ายังไม่มีข้อขัดแย้ง ไม่รับวินิจฉัย ดังนั้นนายเศรษฐา จึงใช้ความรอบคอบ โดยตั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานกรรมการศึกษา และจนตอนนี้ได้ข้อสรุปว่า 1. ทำประชามติ 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ถามว่า สมควรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ครั้งที่ 2 ถามหลังการแก้มาตรา 256 มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แล้ว และ ครั้งที่ 3 ถามประชาชนว่าจะเห็นชอบกับรัฐธรรมนญฉบับใหม่หรือไม่

ดังนั้นโดยเหตุนี้ รัฐบาลเลยเขียนไว้สั้นๆ ว่ารัฐธรรามนูญฉบับใหม่จะไปอย่างไร ซึ่งก็เราคิดว่า จะเดินตามนี้ แต่จะเดินตามนี้ได้ รัฐสภาต้องทำความเข้าใจร่วมกัน และร่วมกันผลักดัน นอกจากนี้ยังต้องแก้ไจให้เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเราทราบดีว่า ที่มาที่ไปของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่เรียกกันว่า รัฐธรรมนูญปราบโกง แต่ส่วนตัวดูแล้วว่ามีบทบัญญัติหลายมตราที่เป็นปัญหา สามารถตีความเกินเลยไปจากปกติที่ควรรจะเป็น ที่เห็นชัด เช่น มาตรา 160 (4) (5) คำว่า มีความซื่อสัตยุ์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ถามว่า วิญญูชนจะรู้ว่าอะไรคือประจักษ์ หรือคือการไม่เคยทำผิดมาเลยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หรืออะไรคือพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนประมวลจรยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งเราทราบดีว่า ท้ายสุดจะเอาตั้งแต่อายุเท่าไหร่ก็ไม่ได้กำหนด จะเอาตั้งแต่แรกเกิด หรือ 7 ขวบ แค่เตะฟุตบอลโกงเขา เป็นต้น ก็ไม่มีข้อจำกัด

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พริษฐ์ วัชรสินธุ เคยมาคุยกับเรา กับเลขาธิการพรรค และประธานวิป ว่าระหว่างรอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะแก้ไขรายมาตรา บางประเด็นที่คิดว่า มีความจำเป็น เพื่อประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินไม่ให้เกิดปัญหาการตีความล้นเกิน ซึ่งเราคิดและเห็นด้วยว่า ควรทำ แต่ที่ดีที่สุดคือให้สส. พรรคการเมืองทั้งหลายช่วยกันทำ ซึ่งทางพรรคประชาชนก็เสนอร่างมาแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้เสนอบรรจุ ส่วนเราก็ยกร่างมาพอสมควรว่า ควรแก้อะไรบ้าง


“เช่น การวินิจฉัยให้คนใดคนหนึ่งออกจากตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น สส., สว. หรือรัฐมนตรี การใช้เสียงข้างมากเท่านั้นจะถือว่ายุติธรรมหรือไม่ เช่น 1 เสียงก็สามารถเอานายกฯ ออกจากตำแหน่งได้ ในอดีตก็เคยมีเสียงเอกฉันท์ หรืออย่างน้อยเสียง 2 ใน 3 หรือ 4 น 5 ดังนั้นเห็นด้วยว่า แก้รัฐธรรมนูญรายประเด็นพร้อมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับควบคู่กันไป จะทำให้บ้านเมืองเรามีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น” นายชูศักดิ์ กล่าว

โดยสรุปเรามีเจตนาแน่วแน่ว่าจะเร่งรัดจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเราทราบดีว่าต้องแก้กฎหมายประชามติซึ่งผ่านสภาฯ แล้ว อยู่ที่วฒิสภา หลังเสร็จก็ประกาศใช้ หลังมีกฎหมายประชามติ ก็จะเริ่มถามประชาชนว่า สมควรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เป็นการเริ่มนับหนึ่ง รัฐธรรมนูญประชาชนตามนโยบายรัฐบาลที่ประกาศ ดังนั้นเรายินดีเร่งรัด จัดทำ ให้ได้รัฐธรรมนูญบับใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]