“รอมฎอน” อภิปรายคดีตากใบ เปิดภาพ “ทักษิณ” บอกอยากให้เป็นบทเรียน

รัฐสภา 12 ก.ย.-“รอมฎอน” อภิปรายคดีตากใบ เปิดภาพ “ทักษิณ” บอกอยากให้เป็นบทเรียน “นายกฯ อิ๊งค์” ด้าน สส.เพื่อไทย ลุกประท้วงทันที ขณะที่ “วันนอร์” ปรามไม่ให้เอ่ยบุคคลอื่น กำชับอย่าพูดถึงอดีต ก่อน “จิรัฏฐ์” ลุกถามกวนเมื่อวานนี้นับเป็นอดีตหรือไม่ ด้าน “นุชนาถ” สส.ศรีสะเกษ ทนไม่ไหว ถามประธานปล่อยให้คนอภิปรายทุบโต๊ะได้ไง นึกว่าตีกลอง เตรียมลุกเต้นแล้ว

ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระการแถลงนโยบายรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายเรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้หัวข้อว่า “โอกาสของลูกสาว อากาศของประชาชน” ความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้เป็นมรดกที่ตกทอดมาสู่รุ่นเราผ่านมารัฐมนตรีมา 9 คน และนางสาวแพทองธารจะเป็นคนที่ 10 ซึ่งในคำแถลงนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่มีการระบุถึงการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ แต่ในคำแถลงของรัฐบาลนี้ ได้ระบุไว้ประโยคเดียวที่วางอยู่ในส่วนหนึ่งของนโยบายพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้เห็นว่ารับบาลมองปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาการเมือง ระหว่างรัฐกับประชาชน ที่ต้องออกแบบในเชิงสถาบันว่าจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร นี่คือจุดที่แตกต่างจากรัฐบาลก่อนหน้านี้


นายรอมฎอน ยังกล่าวถึงการทำงานของนายเศรษฐาว่าดูเหมือนจะสูญเปล่า ขยายเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 5 ครั้ง และไม่ได้รับรองร่างกฎหมาย กอ.รมน.ให้กลับมายังสภาเพื่อพิจารณา และไม่ได้ปรับกำลัง กอ.รมน. ตามที่ได้แถลงไว้ อีกทั้งงานชายแดนใต้ก็ยังถูกครอบงำโดยหน่วยงานรัฐและกองทัพ ไม่มีแรงผลักดันใดๆจากฝ่ายการเมืองอย่างที่ควรจะเป็น ที่สำคัญคือไม่แตะกฎอัยการศึก

ระหว่างนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ใช้สิทธิ์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า อภิปรายซ้ำซาก มีการอภิปรายลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ตอนนี้เรากำลังอภิปรายนโยบายรัฐบาลปัจจุบัน กลับมีการอ้างเรื่องเก่าใน 1 ปีที่ผ่านมา แล้วมาใช้ชื่ออดีตนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมนี้ จึงมองว่าเป็นการเสียดสีอย่างชัดเจน เราสามารถอภิปรายคัดค้านหรือสนับสนุนได้ตามข้อบังคับ แต่ไม่ใช่กล่าวหา ส่วนนี้รออภิปรายตามมาตรา 151 ไม่ใช่เวทีนี้ ถือว่าเกินขอบเขตการอภิปราย นายวันมูหะมัดนอร์ จึงกล่าวกับนายรอมฎอนว่าไม่ควรพาดพิงบุคคลภายนอก


จากนั้น นายรอมฎอน อภิปรายต่อว่าในยุทธศาสตร์ชาติได้ระบุว่าปี 2570 ความรุนแรงชายแดนภาคใต้จะเป็นศูนย์ ซึ่งนี่จะเป็นโจทย์ใหญ่ของนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องเป็นประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็น ผอ.รมน. เป็นประธาน กพต. ที่จะกำหนดทิศทาง ชี้ชะตาจังหวัดชายแดนใต้ว่าจะไปในทิศทางไหน ดังนั้น นายกฯแพทองธารต้องแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เสียที พลิกกระบวนการแก้ปัญหาให้กระบวนการสันติภาพเป็นแนวทางการเมืองหลัก ถ้าปล่อยปะละเลยไว้ แนวทางและมุมมองแบบความมั่นคงก็ยังเป็นการครอบงำหน่วยงานราชการ การแก้ปัญหาของภาครัฐต่อ จนทำให้ปัญหามันค้างอยู่จนถึงปัจจุบัน และเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจคือวันที่ 19 ต.ค. นี้ เป็นวันสุดท้ายของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีการประกาศมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นครั้งที่จะถึงนี้ต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร ขยายเวลาต่ออีกหรือไม่ และอาจจะต้องทบทวนกฎหมายด้านความมั่นคงอื่นๆ ทั้งกฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ยังใช้อยู่ และ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน

จากนั้น นายรอมมฎอน ได้อภิปรายถึงการพิจารณาคดีตากใบในวันนี้พร้อมขึ้นสไลด์เป็นภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคู่กับเหตุการณืดังกล่าว และเขียนข้อความว่าความรับผิดชอบทางการเมืองจากประวัติศาสตร์บาดแผล #เหตุการณ์ตากใบ ทำให้นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงทันทีว่า อภิปรายถึงบุคคลภายนอก ขอให้เลิกพูดถึงบุคคลอื่นที่ไม่มีโอกาสมาพูดในนี้ เขาเป็นพ่อลูกกัน แต่ให้เขาขาดพ่อขาดลูกกันเถอะ

นายวันมูหะมัดนอร์ จึงได้เตือนนายรอมฎอนซ้ำอีกรอบว่า ให้พูดถึงวันนี้เท่านั้น ไม่ให้พูดถึงบุคคลภายนอก แต่นายรอมฎอน ชี้แจงว่า ที่ต้องพูดถึงเพราะจะชื่นชม และไว้เป็นบทเรียนให้นางสาวแพทองธารที่ต้องเป็นภาระในการตัดสินใจ


จากนั้น นายรอมฎอนได้เปิดสไลด์เดิมและอภิปรายต่อ ทำให้นายธีระชัยลุกประท้วงอีกรอบ พร้อมถามว่าภาพที่ขึ้น ถามประธานแล้วหรือยัง ถ้ายังเอาขึ้น ตนก็จะประท้วงอยู่แบบนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ จึงได้เตือนว่าไม่ให้ใช้ภาพนี้อีก นายรอมฎอนจึงอภิปรายต่อโดยไม่ใช้ภาพถึงคดีตากใบว่าจะขาดอายุความอีก 43 วัน ซึ่งเมื่อ 2 ปีแล้วมีการขอโทษจากอดีตผู้นำของประเทศผ่านทางรายการหนึ่ง โดยเมื่อก่อนหน้านี้อดีตผู้นำคนหนึ่งก็เคยขอโทษมาแล้วคือ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ได้กดปิดไมค์และแจ้งว่าไม่ควรพูดถึงบุคคลอื่น

ต่อมานายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ลุกขึ้นกล่าวว่า บุคคลที่นายรอมฎอนพูดถึงก็เป็นบุคคลที่มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินในอดีตจริง ทำให้นายวันหะมัดนอร์ กล่าวว่า ให้พูดถึงแค่รัฐบาลปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้กล่าวถึงรัฐบาลในอดีต เพราะเป็นการพาดพิงถึงบุคลที่ไม่สามารถมาชี้แจงได้ นายจิรัฏฐ์ เลยสวนประธานว่าอดีตนี่แค่ไหน เมื่อวานนี้อดีตหรือไม่ เรื่องที่นายรอมฎอนพูดไม่ได้มีใครเสียหาย คนที่รับผิดชอบก็คือนายรอมฎอน ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ สวนกลับว่า ประธานก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย เพราะปล่อยให้สมาชิกทำผิดข้อบังคับ

จากนั้น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ลุกขึ้นประท้วงบ้าง ว่า ในเมื่อประธานมีข้อวินิจฉัยแล้ว ก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด จะอ้างอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้น การประชุมจะเดินต่อไม่ได้ ทำให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประท้วงประธานว่า สไลด์ที่ขึ้นอภิปรายก็ได้ส่งให้ตรวจสอบแล้ว จึงอยากให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ที่จะไม่ให้ขึ้นภาพบุคคลภายนอกอื่นเลยใช่หรือไม่ ไม่ว่าภาพนั้นจะมาจากฝั่งไหน นายวันมูหะมัดนอร์ จึงวินิจฉัยว่าถ้าเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหายและไม่มีการประท้วงก็สามารถอนุญาตให้เปิดได้ และขอให้เดินหน้าอภิปรายต่อ

จากนั้น นายรอมฎอนได้อภิปรายต่อว่าอดีตเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีปัญหายืดเยื้อมายาวนาน เพราะเราเพิกเฉยต่อสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และบาดเจ็บ ประวัติศาสตร์ บาดแผลที่ผ่านมา บางเรื่องกลืนยาก เป็นยาขม แต่สังคมที่มีวุฒิภาวะ เราต้องก้าวผ่านไปด้วยกัน เรียนรู้และเก็บรับบทเรียน ก่อนจะเล่าถึงคดีตากใบด้วยอารมณ์ดุเดือดและเอามือทุบโต๊ะ

ซึ่งหลังจากนายรอมฎอนอภิปรายจบ จู่ๆ นายณัฐวุฒิ ใช้สิทธิ์หารือประธานต่อ ให้ประธานวินิจฉัยเรื่องการเอ่ยชื่อถึงบุคคลภายนอกที่ สส.เห็นว่ามีเหตุจำเป็นต้องเอ่ยชื่อ หรือจะบอกว่าจะเอ่ยถึงบุคคลภายนอกไม่ได้เลย เพราะขัดต่อระเบียบข้อบังคับ ทำให้นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่าวันนี้เป็นการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่เปิดให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายช่องว่างของนโยบายที่จะบริหาร แต่เท่าที่ฟังการอภิปรายของหลายคน เหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวันมูหะมัดนอร์ จึงกล่าวว่า ตนขอวินิจฉัยข้อหารือของนายณัฐวุฒิก่อนว่าประธานมีหน้าที่ทำให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้ห้ามเสียทั้งหมด ถ้าสะดวกเรียบร้อยก็ไม่มีปัญหาและไม่เกิดความเสียหาย นายครูมานิตย์ จึงพยายามกล่าวต่อว่าไม่อยากเห็นว่ามีบรรยากาศประท้วง จึงอยากให้ประธานทั้ง 2 คนควบคุมการประชุม แต่นายวันมูหะมัดนอร์สงสัยว่านายครูมานิตย์ประท้วงอะไร เพราะยังไม่มีใครทำผิด

จนกระทั่ง นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ประท้วงประธานว่า ไม่มีความเป็นกลาง ปล่อยให้ผู้อภิปรายทำพฤติกรรมแบบนั้นได้อย่างไร

“ดิฉันคิดว่าท่านประธานปล่อยให้ทุบได้อย่างไร ทำพฤติกรรมแบบนั้น ดิฉันคิดว่าเป็นการตีกลอง ดิฉันเกือบเต้นใส่แล้วค่ะ”

ก่อนที่นายวันมูหะมัดนอร์ จะตัดบทและเข้าสู่การอภิปรายต่อ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย