“รอมฎอน” อภิปรายคดีตากใบ เปิดภาพ “ทักษิณ” บอกอยากให้เป็นบทเรียน

รัฐสภา 12 ก.ย.-“รอมฎอน” อภิปรายคดีตากใบ เปิดภาพ “ทักษิณ” บอกอยากให้เป็นบทเรียน “นายกฯ อิ๊งค์” ด้าน สส.เพื่อไทย ลุกประท้วงทันที ขณะที่ “วันนอร์” ปรามไม่ให้เอ่ยบุคคลอื่น กำชับอย่าพูดถึงอดีต ก่อน “จิรัฏฐ์” ลุกถามกวนเมื่อวานนี้นับเป็นอดีตหรือไม่ ด้าน “นุชนาถ” สส.ศรีสะเกษ ทนไม่ไหว ถามประธานปล่อยให้คนอภิปรายทุบโต๊ะได้ไง นึกว่าตีกลอง เตรียมลุกเต้นแล้ว

ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระการแถลงนโยบายรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายเรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้หัวข้อว่า “โอกาสของลูกสาว อากาศของประชาชน” ความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้เป็นมรดกที่ตกทอดมาสู่รุ่นเราผ่านมารัฐมนตรีมา 9 คน และนางสาวแพทองธารจะเป็นคนที่ 10 ซึ่งในคำแถลงนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่มีการระบุถึงการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ แต่ในคำแถลงของรัฐบาลนี้ ได้ระบุไว้ประโยคเดียวที่วางอยู่ในส่วนหนึ่งของนโยบายพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้เห็นว่ารับบาลมองปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาการเมือง ระหว่างรัฐกับประชาชน ที่ต้องออกแบบในเชิงสถาบันว่าจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร นี่คือจุดที่แตกต่างจากรัฐบาลก่อนหน้านี้


นายรอมฎอน ยังกล่าวถึงการทำงานของนายเศรษฐาว่าดูเหมือนจะสูญเปล่า ขยายเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 5 ครั้ง และไม่ได้รับรองร่างกฎหมาย กอ.รมน.ให้กลับมายังสภาเพื่อพิจารณา และไม่ได้ปรับกำลัง กอ.รมน. ตามที่ได้แถลงไว้ อีกทั้งงานชายแดนใต้ก็ยังถูกครอบงำโดยหน่วยงานรัฐและกองทัพ ไม่มีแรงผลักดันใดๆจากฝ่ายการเมืองอย่างที่ควรจะเป็น ที่สำคัญคือไม่แตะกฎอัยการศึก

ระหว่างนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ใช้สิทธิ์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า อภิปรายซ้ำซาก มีการอภิปรายลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ตอนนี้เรากำลังอภิปรายนโยบายรัฐบาลปัจจุบัน กลับมีการอ้างเรื่องเก่าใน 1 ปีที่ผ่านมา แล้วมาใช้ชื่ออดีตนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมนี้ จึงมองว่าเป็นการเสียดสีอย่างชัดเจน เราสามารถอภิปรายคัดค้านหรือสนับสนุนได้ตามข้อบังคับ แต่ไม่ใช่กล่าวหา ส่วนนี้รออภิปรายตามมาตรา 151 ไม่ใช่เวทีนี้ ถือว่าเกินขอบเขตการอภิปราย นายวันมูหะมัดนอร์ จึงกล่าวกับนายรอมฎอนว่าไม่ควรพาดพิงบุคคลภายนอก


จากนั้น นายรอมฎอน อภิปรายต่อว่าในยุทธศาสตร์ชาติได้ระบุว่าปี 2570 ความรุนแรงชายแดนภาคใต้จะเป็นศูนย์ ซึ่งนี่จะเป็นโจทย์ใหญ่ของนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องเป็นประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็น ผอ.รมน. เป็นประธาน กพต. ที่จะกำหนดทิศทาง ชี้ชะตาจังหวัดชายแดนใต้ว่าจะไปในทิศทางไหน ดังนั้น นายกฯแพทองธารต้องแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เสียที พลิกกระบวนการแก้ปัญหาให้กระบวนการสันติภาพเป็นแนวทางการเมืองหลัก ถ้าปล่อยปะละเลยไว้ แนวทางและมุมมองแบบความมั่นคงก็ยังเป็นการครอบงำหน่วยงานราชการ การแก้ปัญหาของภาครัฐต่อ จนทำให้ปัญหามันค้างอยู่จนถึงปัจจุบัน และเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจคือวันที่ 19 ต.ค. นี้ เป็นวันสุดท้ายของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีการประกาศมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นครั้งที่จะถึงนี้ต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร ขยายเวลาต่ออีกหรือไม่ และอาจจะต้องทบทวนกฎหมายด้านความมั่นคงอื่นๆ ทั้งกฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ยังใช้อยู่ และ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน

จากนั้น นายรอมมฎอน ได้อภิปรายถึงการพิจารณาคดีตากใบในวันนี้พร้อมขึ้นสไลด์เป็นภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคู่กับเหตุการณืดังกล่าว และเขียนข้อความว่าความรับผิดชอบทางการเมืองจากประวัติศาสตร์บาดแผล #เหตุการณ์ตากใบ ทำให้นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงทันทีว่า อภิปรายถึงบุคคลภายนอก ขอให้เลิกพูดถึงบุคคลอื่นที่ไม่มีโอกาสมาพูดในนี้ เขาเป็นพ่อลูกกัน แต่ให้เขาขาดพ่อขาดลูกกันเถอะ

นายวันมูหะมัดนอร์ จึงได้เตือนนายรอมฎอนซ้ำอีกรอบว่า ให้พูดถึงวันนี้เท่านั้น ไม่ให้พูดถึงบุคคลภายนอก แต่นายรอมฎอน ชี้แจงว่า ที่ต้องพูดถึงเพราะจะชื่นชม และไว้เป็นบทเรียนให้นางสาวแพทองธารที่ต้องเป็นภาระในการตัดสินใจ


จากนั้น นายรอมฎอนได้เปิดสไลด์เดิมและอภิปรายต่อ ทำให้นายธีระชัยลุกประท้วงอีกรอบ พร้อมถามว่าภาพที่ขึ้น ถามประธานแล้วหรือยัง ถ้ายังเอาขึ้น ตนก็จะประท้วงอยู่แบบนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ จึงได้เตือนว่าไม่ให้ใช้ภาพนี้อีก นายรอมฎอนจึงอภิปรายต่อโดยไม่ใช้ภาพถึงคดีตากใบว่าจะขาดอายุความอีก 43 วัน ซึ่งเมื่อ 2 ปีแล้วมีการขอโทษจากอดีตผู้นำของประเทศผ่านทางรายการหนึ่ง โดยเมื่อก่อนหน้านี้อดีตผู้นำคนหนึ่งก็เคยขอโทษมาแล้วคือ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ได้กดปิดไมค์และแจ้งว่าไม่ควรพูดถึงบุคคลอื่น

ต่อมานายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ลุกขึ้นกล่าวว่า บุคคลที่นายรอมฎอนพูดถึงก็เป็นบุคคลที่มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินในอดีตจริง ทำให้นายวันหะมัดนอร์ กล่าวว่า ให้พูดถึงแค่รัฐบาลปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้กล่าวถึงรัฐบาลในอดีต เพราะเป็นการพาดพิงถึงบุคลที่ไม่สามารถมาชี้แจงได้ นายจิรัฏฐ์ เลยสวนประธานว่าอดีตนี่แค่ไหน เมื่อวานนี้อดีตหรือไม่ เรื่องที่นายรอมฎอนพูดไม่ได้มีใครเสียหาย คนที่รับผิดชอบก็คือนายรอมฎอน ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ สวนกลับว่า ประธานก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย เพราะปล่อยให้สมาชิกทำผิดข้อบังคับ

จากนั้น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ลุกขึ้นประท้วงบ้าง ว่า ในเมื่อประธานมีข้อวินิจฉัยแล้ว ก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด จะอ้างอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้น การประชุมจะเดินต่อไม่ได้ ทำให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประท้วงประธานว่า สไลด์ที่ขึ้นอภิปรายก็ได้ส่งให้ตรวจสอบแล้ว จึงอยากให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ที่จะไม่ให้ขึ้นภาพบุคคลภายนอกอื่นเลยใช่หรือไม่ ไม่ว่าภาพนั้นจะมาจากฝั่งไหน นายวันมูหะมัดนอร์ จึงวินิจฉัยว่าถ้าเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหายและไม่มีการประท้วงก็สามารถอนุญาตให้เปิดได้ และขอให้เดินหน้าอภิปรายต่อ

จากนั้น นายรอมฎอนได้อภิปรายต่อว่าอดีตเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีปัญหายืดเยื้อมายาวนาน เพราะเราเพิกเฉยต่อสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และบาดเจ็บ ประวัติศาสตร์ บาดแผลที่ผ่านมา บางเรื่องกลืนยาก เป็นยาขม แต่สังคมที่มีวุฒิภาวะ เราต้องก้าวผ่านไปด้วยกัน เรียนรู้และเก็บรับบทเรียน ก่อนจะเล่าถึงคดีตากใบด้วยอารมณ์ดุเดือดและเอามือทุบโต๊ะ

ซึ่งหลังจากนายรอมฎอนอภิปรายจบ จู่ๆ นายณัฐวุฒิ ใช้สิทธิ์หารือประธานต่อ ให้ประธานวินิจฉัยเรื่องการเอ่ยชื่อถึงบุคคลภายนอกที่ สส.เห็นว่ามีเหตุจำเป็นต้องเอ่ยชื่อ หรือจะบอกว่าจะเอ่ยถึงบุคคลภายนอกไม่ได้เลย เพราะขัดต่อระเบียบข้อบังคับ ทำให้นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่าวันนี้เป็นการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่เปิดให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายช่องว่างของนโยบายที่จะบริหาร แต่เท่าที่ฟังการอภิปรายของหลายคน เหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวันมูหะมัดนอร์ จึงกล่าวว่า ตนขอวินิจฉัยข้อหารือของนายณัฐวุฒิก่อนว่าประธานมีหน้าที่ทำให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้ห้ามเสียทั้งหมด ถ้าสะดวกเรียบร้อยก็ไม่มีปัญหาและไม่เกิดความเสียหาย นายครูมานิตย์ จึงพยายามกล่าวต่อว่าไม่อยากเห็นว่ามีบรรยากาศประท้วง จึงอยากให้ประธานทั้ง 2 คนควบคุมการประชุม แต่นายวันมูหะมัดนอร์สงสัยว่านายครูมานิตย์ประท้วงอะไร เพราะยังไม่มีใครทำผิด

จนกระทั่ง นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ประท้วงประธานว่า ไม่มีความเป็นกลาง ปล่อยให้ผู้อภิปรายทำพฤติกรรมแบบนั้นได้อย่างไร

“ดิฉันคิดว่าท่านประธานปล่อยให้ทุบได้อย่างไร ทำพฤติกรรมแบบนั้น ดิฉันคิดว่าเป็นการตีกลอง ดิฉันเกือบเต้นใส่แล้วค่ะ”

ก่อนที่นายวันมูหะมัดนอร์ จะตัดบทและเข้าสู่การอภิปรายต่อ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”