fbpx

“พริษฐ์” เล็งถามความชัดเจนนโยบายแก้ รธน.

รัฐสภา 9 ก.ย. – “พริษฐ์” เตรียมถามความชัดเจนนโยบายแก้ รธน. ตั้งคำถามประชามติตามเดิมหรือไม่ วางโรดแมปไว้อย่างไร ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่ หวังรัฐเดินหน้าจัดทำฉบับใหม่ คู่ขนาน แก้ไขรายมาตราให้ทันบังคับใช้ “เลือกตั้ง ปี 70”


นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวถึงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลว่าหากดูจากเอกสารคำแถลงเปรียบเทียบกับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ครั้งที่แล้ว อาจมีปรับเปลี่ยนไปบ้าง แต่โดยรวมมีข้อความที่พูดถึงประเด็นในลักษณะที่กว้าง ดังนั้น เพื่อความชัดเจน จะซักถามเพิ่มเติม ลงในรายละเอียดมากกว่านั้น พร้อมย้ำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องทำ 2 ทางคู่ขนานกันไป แนวทางที่ 1.การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่าโรดแมปของรัฐบาลที่วางไว้ว่า จะต้องมีการทำประชามติ 3 ครั้งนั้น แต่การจัดทำรอบแรกยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อคำนวณดูแล้ว อาจจะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้พร้อมกับกฎหมายลูกทันการเลือกตั้งปี 2570 จึงตั้งคำถามว่า มีการวางโรดแมปไว้อย่างไร และจะเดินหน้าทำประชามติรอบแรกอย่างไร โดยการถามประชาชนว่า ‘ควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่’ และจะยังยืนยันคำถามตามที่คณะกรรมการที่นายภูมิธรรม เวชชชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเสนอมาหรือไม่ ซึ่งเรามองเห็นว่าเป็นการทำสร้างคำถาม 2 คำถามในคำถามเดียวกัน ที่อาจสร้างความสับสนในการลงคะแนนได้ ก่อนหน้านี้ได้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลของนายเศรษฐาทบทวนแล้ว และต้องรอดูว่าท่าทีของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร จะยืนยันตามคำถามเดิมหรือจะมีการปรับข้อความที่เปิดกว้างและชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ต้องดูว่ารัฐบาลจะเสนอหรือสนับสนุนให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า แนวทางที่ 2 คือ การแก้ไขรายมาตรา เราไม่ได้บอกว่าต้องแก้ไขแทนที่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่เห็นว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องใช้เวลา 1-2 ปีขึ้นไป จึงมองว่าหากมีมาตราหรือประเด็นไหนในรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ก็ควรมีการเสนอแก้ไขรายมาตรา


นายพริษฐ์ กล่าวว่าพรรคประชาชนได้มีการเสนอไปแล้ว 3 ร่าง ซึ่งล้วนมีวัตถุประสงค์ลบล้างผลพวงรัฐประหาร ทั้งการยกเลิกมาตรา 279 ป้องกันการเกิดรัฐประหาร และยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 ก.ย.นี้ และจากที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ได้มีการหารือกันว่า หากฝ่ายไหนต้องการจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นอื่นๆ ก็สามารถยื่นเข้ามาได้

ส่วนกังวลหรือไม่ ที่จะเกิดการประวิงเวลา จนไม่สามารถตั้ง ส.ส.ร. เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากมองในมุมกว้าง ตนไม่ได้ติดขัดกับใดๆ แต่ที่พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดคือปีศาจอยู่ในรายละเอียด คำถามคือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนใครจะเป็นคนร่าง และมาจาก ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่ และท้ายที่สุดรัฐบาลวางโรดแมปไว้อย่างไร ให้เรามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ทันการเลือกตั้งปี 70 รวมถึงมีการสนับสนุนการแก้ไขรายตราที่มีปัญหาเร่งด่วนด้วยหรอไม่

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า คำตอบสุดท้ายที่พรรคประชาชนอย่างไรจากรัฐบาลคือ อยากได้โรดแมปที่ชัดเจนว่าจากวันนี้จนถึงวันที่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีการกำหนดระยะเวลาไว้อย่างไร เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลนายเศรษฐาเคยสัญญาไว้ จะมีการทบทวนคำถามประชามติรอบแรกหรือไม่ และจะให้มี ส.ส.รที่มาจากการเลือกตั้ง 100% หรือไม่ รวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา คงต้องลงรายละเอียดในแต่ละประเด็น แต่วันที่ 25 ก.ย.นี้ จะได้เห็น. ยืนและท่าทีของสมาชิก ทั้ง สส.ฝ่ายรัฐบาลและ สว.ชุดใหม่ ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ


สำหรับเรื่องการทบทวนนำอำนาจหน้าที่และของศาลรัฐธรรมมนูญและองค์กรอิสระที่มีการขยายขอบเขตให้กว้างมากขึ้น หากเทียบกับรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้นั้น แน่นอนว่าอำนาจที่ถูกขยายมามีหลายส่วน เช่น การยุบพรรคที่อยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง และอำนาจจริยธรรมที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ในรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันจากทุกฝ่าย แต่ฝ่ายไหนจะเสนอร่างแก้ไขกฎหมายอย่างไร และจะทันกรอบวันที่ 25 ก.ย.หรือไม่ คงต้องรอดูกันอีกที

ส่วนพรรคประชาชนจะมีการเสนอร่างอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น คงต้องมีการหารือกันภายในพรรคก่อน แต่หากจะมีการเสนอให้ทันในวันที่ 25 ก.ย.นี้ คงต้องมีการดำเนินการในระยะเวลาอันสั้นนี้ เพื่อให้ผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการบรรจุลงระเบียบวาระทัน เราเชื่อมั่นว่า เราอยากเห็นการพูดคุย เรื่องการแก้ไขรายมาตราคู่ขนาน กับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากขึ้น หากใครมีประเด็นที่อยากจะแก้ ซึ่งอาจไม่ทันวันที่ 25 ก.ย.นี้ ก็หวังว่าคงจะมีวาระการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมในวันอื่น.-319 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

เสริมนวัตกรรมสูบน้ำ กู้เมืองหนองคาย

ท่อพญานาคซิ่ง นวัตกรรมสูบน้ำอันโด่งดังที่เคยไปช่วยภารกิจ 13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ล่าสุดเดินทางถึง จ.หนองคาย กำลังสวมบทฮีโร่อีกครั้ง เพื่อช่วยกู้ตัวเมืองหนองคาย หลังจมน้ำมา 4 วัน

น้ำท่วมเชียงราย เสียหายกว่า 100 ล้าน วอนรัฐช่วยฟื้นฟู

น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน บางคนบ้านพังทั้งหลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย รวมทั้งโรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบหนัก ส่งผลต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เรียกร้องภาครัฐช่วยเหลือฟื้นฟู

น้ำป่าทะลักท่วมพะเยา เสียหายหนักเป็นวงกว้าง

น้ำป่าที่ทะลักท่วมชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ช่วงเช้ามืดวันนี้ (17 ก.ย.) แม้น้ำท่วมเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายข้าวของได้ทัน

“บิ๊กต่อ” ให้ปากคำคดีมีเส้นเงินเอี่ยวเว็บพนัน ขณะ “ทนายตั้ม” บุกเฝ้าสังเกตการณ์

“บิ๊กต่อ” ให้ปากคำคดีมีเส้นเงินเอี่ยวเว็บพนัน และ 18 ธุรกิจสีเทา ด้าน ก.ร.ตร.ยันเอาผิดย้อนหลังได้แม้จะเกษียณ เร่งสอบผู้เกี่ยวข้องให้ครบภายใน 180 วัน