ชื่นมื่น! อวยพรวันเกิดล่วงหน้า “นายกฯ แพทองธาร” ครบ 38 ปี

อาคารชินวัตร 3 20 ส.ค.- ชื่นมื่น! พรรคเพื่อไทย อวยพรวันคล้ายวันเกิดครบ 38 ปี “นายกฯ แพทองธาร” ล่วงหน้า ก่อนปิดห้องประชุม สส. ขอบคุณ “เศรษฐา” เสียสละ อุทิศตนเป็นนายกฯ-ถือธงนำพรรคเพื่อไทยตั้งแต่หาเสียง ด้าน “อิ๊งค์” บอกเคารพคนไม่ผิด ยกเป็นสุภาพบุรุษคนท็อปๆ ในชีวิต ขณะเจ้าตัวลั่นทุกคนทราบดีเป็นคนมีจริยธรรม-สุจริต เป็นที่ประจักษ์ พูดติดตลก โชคดียังพอมีสตางค์ ไม่อย่างนั้นอาจตกงาน ยันไม่หายไปไหน พร้อมอยู่เบื้องหลัง ฝากช่วยนายกฯ คนใหม่ ทำงานอย่างเต็มที่


เมื่อเวลา 15.20 น. บรรยากาศก่อนการ สส.พรรคเพื่อไทย ที่ชั้น9 อาคารชินวัตร 3 บรรดาคณะกรรมการบริหารพรรค แกนนำ สส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันอวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้า ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งตรงกับวันที่ 21 สิงหาคม โดยนางสาวแพทองธาร ได้เดินมาพร้อมกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำเค้กที่สกรีนรูปภาพของนางสาวแพทองธาร ในชุดสีขาวขณะกำลังแถลงข่าวครั้งแรก หลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 และมีข้อความ “HBD38 & Happy New PM#31” ก่อนร่วมกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้นางสาวแพทองธาร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยนายกรัฐมนตรีได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพบรรยากาศเป็นที่ระลึก และร่วมกันถ่ายรูปกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย

จากนั้นทั้งหมดได้เข้าห้องประชุม สส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทยประจำสัปดาห์ โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดประชุมและเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคเพื่อไทยในการนำกล่าวขอบคุณนายเศรษฐา ที่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี มาเป็นเวลา 1 ปี ว่า ตนขอขอบคุณนายเศรษฐา ที่ได้อุทิศตัวอุทิศตน แม้จะเป็นเวลาอันสั้นเพียงปีกว่า รวมถึงช่วงที่หาเสียงกับพวกเรา ท่านเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพวกเรา อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกใจบ้างไม่ถูกใจ ตนในฐานะหนึ่งในพรรคเพื่อไทยก็ขอกล่าวขออภัย และขอเป็นกำลังใจให้กับท่านในการใช้ชีวิตต่อไป ตนก็ว่าท่านเก่งอยู่แล้ว ท่านจะทำอะไรจะเป็นอะไรต่อไปในอนาคต พวกเราก็จะเป็นกำลังใจให้เสมอ สิ่งที่เกิดขึ้นพวกเราไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย แต่ก็ผ่านไปในสิ่งที่เราทุกคนเป็นปึกแผ่น และมาถึงวันนี้ได้ก็มั่นใจว่าการทำงานของเราในอนาคตก็จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแบบนี้ ท่านหัวหน้าพรรคก็พูดเสมอว่าเราทำงานกันแบบครอบครัว ไม่มีใครที่จะเก่งกว่าใคร ไม่มีใครที่จะมาแทรกแซงเราได้ 141 ชีวิต ในการทำงานที่ผ่านมา คุณคิดว่าท่านอดีตนายกฯ รู้ว่าเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขนาดขนาด ตนจึงขอขอบคุณนายเศรษฐา ที่ทำงานให้พวกเรา วางรากฐานให้พวกเรา ต่อไปนี้ถึงเวลาของนายกฯ แพทองธาร ที่จะพิสูจน์ตัวเอง ขอความกรุณาพวกเรา ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ พวกเราต้องผนึกกำลังกันอย่างเข้มแข็ง ไม่ให้สิ่งอะไรก็แล้วแต่มารบกวนการทำงานของฝ่ายบริหารและการทำงานของหัวหน้าพรรค แม้ท่านหัวหน้าพรรคไม่ได้อยู่ในสภากับพวกเรา แต่ทุกคนต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และไปด้วยกันแบบนี้ ตนเชื่อมั่นเหลือเกินว่า 141 ชีวิต อีก 3 ปีข้างหน้า ก็จะขอให้จำนวนเพิ่มขึ้น เพราะตนมั่นใจมากๆ ในความเป็นทีมของพวกเรา


เช่นเดียวกับนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่หาเสียงนายเศรษฐา ได้ถือธงนำทัพพาพวกเราบุกเหนือ ใต้ อีสาน อย่างไม่เกรงกลัวความเหน็ดเหนื่อย และท่านมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับประชาชนออกเยี่ยมเยียนมากมาย ทุกพื้นที่พวกเราเห็น ประชาชนคนไทยได้เห็น อันนี้คือนายกฯ ของประชาชนคนไทยทั้งชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิด แต่ว่าสิ่งที่ตนได้เห็นว่ายิ่งใหญ่ที่สุด เราไม่ว่าปัญหาอะไรที่เกิดขึ้น ตนได้เห็นนายกฯ นิด เดินเข้ามาในพรรคอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส อย่างสง่างาม เป็นแบบอย่างผู้นำที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว เป็นพฤติกรรมแบบอย่างให้กับนักการเมือง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท่านก็กลับมาอยู่กับเราที่พรรคเพื่อไทย และก็จะมาเป็นกำลังสำคัญ ที่ช่วยแนะนำนายกฯ อุ๊งอิ๊งของเรา ตนเชื่อว่าทั้งสองท่านช่วยกันคิด ประเทศไทยไปรอดและพวกเราก็จะอยู่กันอย่างมีความสุข ตนก็ขอบคุณท่านตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันก็ซาบซึ้งและจะจดจำท่านไปตลอดกาลว่าครั้งหนึ่งท่าน ได้นำทัพและมาช่วยพวกเรา และ ณ วันนี้ ท่านก็ยังจะช่วยพวกเราตลอดไป

จากนั้น นางสาวแพทองธาร ได้ขึ้นกล่าวถึงนายเศรษฐา ว่า จริงๆ แล้ววันนี้ทุกคนมีความคิดว่าอยากจะมาขอบคุณ ท่านนายกฯ เศรษฐา และตนก็ลืมไปเลยว่าวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) เป็นวันเกิดของตัวเอง เมื่อสักครู่มัวแต่โฟกัสว่าจะพูดเรื่องการทำงานของนายเศรษฐา ที่ทำงานมา 1 ปีเต็ม เราก็อยากจะขอบคุณท่าน ซึ่งเป็นวาระที่ตนรู้สึกว่าสำคัญมากๆ เพราะตั้งแต่วันที่ท่านเข้ามา ตั้งแต่ฟอร์มรัฐบาลหรือย้อนไปถึงการหาเสียง ซึ่งท่านไม่เคยอยู่ในความเป็นนักการเมืองมาก่อน แล้วก็เข้ามาทำอย่างเต็มที่ ตนคิดว่าคนในพรรคเพื่อไทยก็ไม่คิดเหมือนกันว่าท่านจะทำได้ขนาดนี้ และทุ่มเทขนาดนี้ ซึ่งเมื่อด้วยคุยกันได้ทราบถึงแรงผลักดันมากมาย และการอยากให้ประเทศชาติไปต่อข้างหน้า

“ท่านเศรษฐา เป็นสุภาพบุรุษคนท็อปๆ ในชีวิตที่อิ๊งค์รู้จักเลยก็ว่าได้ และอิ๊งค์ก็เคารพคนไม่ผิด นั่นก็คือท่านเศรษฐา เราก็จะช่วยกันทุกๆ ท่านไม่ต้องคิดว่าตำแหน่งอะไร เพราะเราคือคนพรรคเพื่อไทย วันนี้อิ๊งค์มีอีกหนึ่งหมวดนั่นก็คือนายกรัฐมนตรี ที่อิ๊งค์บอกว่าจะทำให้ดีที่สุด ก็จะทำให้ดีที่สุดจริงๆ สุดความสามารถที่มี แต่ขอกำลังกาย กำลังใจ แรงกายแรงใจ เพราะตนทำคนเดียวไม่ได้จริงๆ วันนี้เรามาปรบมือให้กับท่านเศรษฐา สำหรับความทุ่มเท และมาพร้อมรับสำหรับนายกฯ คนใหม่นั่นก็คือตัวอิ๊งค์เอง ต้องช่วยกันด้วยค่ะ เรามาทำให้เต็มที่ ในฐานะพรรค” นางสาวแพทองธาร กล่าว


ขณะที่นายเศรษฐา ได้ขึ้นกล่าวเปิดใจกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า วันแรกที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ก็ได้การต้อนรับที่อบอุ่น มีแต่ความจริงใจ และระยะเวลาเกือบ 2 ปี ที่ผ่านมา ตนก็อาจจะทำให้หลายท่านมีความไม่สบายใจ แต่เป็นเพราะความด้อยประสบการณ์ ไม่ใช่เรื่องของการตั้งใจทำให้ท่านไม่พอใจ แต่ยืนยันในเจตนารมย์ว่า ตนเข้าใจมาในบ้านหลังใหม่ก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกท่านได้มีการยอมรับ เรื่องของการทำงานหนัก เรื่องของการมีระเบียบวินัย เป็นเรื่องที่ตนถูกสอนมาโดยตลอด เรื่องของการที่ทำให้ทุกคนรัก ให้ทุกคนพอใจ ก็คงเป็นไปลำบาก แต่ความตั้งใจและยืนหยัดให้ประชาชนเป็นที่ตั้งเรื่องนี้ผมยืนยัน และวันนี้ก็ไม่ได้หาเสียงอะไรแล้ว ก็ขอพูดจากใจจริงว่า ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ เอาประชาชนเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว ขออย่าไปพูดถึงเรื่องที่มันเกิดขึ้นดีกว่า

“ผมมั่นใจว่าทุกท่านรู้ดี ทุกท่านรู้ว่าผมเป็นผู้มีจริยธรรม และก็มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพราะว่าโชคดีก็พอมีสตางค์ เพราะถ้าเกิดไปประกอบอาชีพอื่นคงลำบาก เพราะถ้าเกิดเป็นบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไปเป็นกรรมการฯ ก็อาจจะถูกร้องเรียน จากผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ เพราะฉะนั้นจะอยู่ในบทบาทที่มีอยู่ทั้งหลายดีกว่า” นายเศรษฐา กล่าว ซึ่งในระหว่างที่นายเศรษฐา ประโยคนี้ทำให้ที่ประชุมมีเสียงหัวเราะและปรบมือชอบใจ

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ถ้าเกิดวันไหนมีเวลาว่าง ตนก็จะมาร่วมประชุมพรรค และถ้าท่าน สส. คนไหนเดือดร้อน ต้นก็ยังมีมูลนิธิ ที่อาจจะไปช่วยเหลือได้บ้าง พรรคพวกเพื่อนฝูง ในแววดวงธุรกิจ มีสตางค์เยอะเยอะก็คงจะช่วยถ้าตนเอ่ยปาก ทั้งในเรื่องสะระแหน่ หอม กระเทียมทั้งหลาย แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องสนามบินทั้งหลายมันก็คงใหญ่เกินไป

นายเศรษฐา กล่าวว่าวันนี้เรามีนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งเป็นที่รักของทุกคน เป็นสายเลือดของผู้นำจิตวิญญาณเป็นผู้ก่อตั้งพรรคมา จากสีหน้าแววตาของคน ก็ทราบดีว่าท่านจะให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีความพึงพอใจ

“ในช่วงต้นตนเชื่อว่าจะมีกระแส ที่มาแอนตี้ก็จะเยอะ ซึ่งเป็นกระแสที่ไม่เป็นธรรม เพราะยังไม่ได้ทำอะไรเลย ดังนั้นต้องขอพลังจากทุกคนให้ช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทางโซเชียลมีเดีย หรือสังคมที่ท่านอยู่ ประชาชน เราต้องช่วยกัน ปกป้องคุณแพทองธาร อย่าให้ใครมากล่าวร้ายได้ ตนมั่นใจในความมุ่งมั่น ความตั้งใจจริง ของท่านว่า ท่านมาตรงนี้ไม่ใช่เพื่อมา กอบโกยแต่มาเพื่อประชาชน ตนมั่นใจว่า 141 เสียง ปีนี้และเลือกตั้งคราวหน้าจะต้องเพิ่มขึ้นอีก ในส่วนของตนเองยินดีที่จะช่วยอยู่ข้างหลังอย่างเต็มที่ ไม่ได้หายไปไหนถ้าหายไปก็คงฮอลิเดย์ เพราะต้องการเหลือเกิน ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาไม่ได้มีเวลาส่วนตัว ยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน ผู้สื่อข่าวจะมาสัมภาษณ์ผม ผมไม่ให้สัมภาษณ์บอกไว้เลย เป็นช่วงเวลาใหม่แล้วที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องเรียนรู้งาน และมีพวกเราเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลัง มีขั้นตอนหลายขั้นตอนที่เราต้องช่วยกัน ให้ผู้นำที่เป็นที่รักของพวกเราทุกคนผ่านไปให้ได้ อย่างไม่มีปัญหา ตน เชื่อว่าพวกเราทุกคนจะช่วยกันอย่างเต็มที่”

จากนั้นนายเศรษฐา ได้ยกมือไหว้ขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนในห้องประชุม และสมาชิกได้ลุกขึ้นปรบมือให้กับนายเศรษฐา ก่อนที่นางสาวแพทองธาร จำนำมอบช่อดอกไม้ ให้กับนายเศรษฐา .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย