กรุงเทพฯ 10 ส.ค.-“ประเสริฐ” รมว.ดีอี บุกชายแดน ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตรวจสอบการจำกัดพื้นที่การส่งสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ปิดทางขบวนการก่ออาชญากรรมออนไลน์
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ, พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 และนายสุธีระ พึ่งธรรม ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ได้ร่วมลงพื้นที่บริเวณชายแดน 2 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี บริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้โดยสารเฮลิคอปเตอร์สำรวจโดยรอบบริเวณใกล้เคียง เพื่อสุ่มตรวจสอบเสาสัญญาณของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ ที่อาจมีความเสี่ยงให้ขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีฐานอยู่บริเวณชายแดน ลักลอบใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ต เพื่อมากระทำความผิดในประเทศไทย
นายประเสริฐ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร่วมมือตรวจสอบปรับทิศทางการส่งสัญญาณ และลดกำลังส่งสัญญาณ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ภายในประเทศเท่านั้น พร้อมรื้อถอนสายและเสาสัญญาณที่ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง จึงได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจการดำเนินการว่ามีความคืบหน้าและมีอุปสรรคหรือไม่อย่างไร
“กสทช.ได้ดำเนินการมาตรการระงับการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดนที่มีความเสี่ยง ตามข้อสั่งการ ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก, อ.แม่สาย อ.เชียงของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย, อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และ อ.เมือง จ.ระนอง โดยผู้ให้บริการสัญญาณทุกรายได้ดำเนินการแล้ว ดังนี้ AWN TUC และ NT มีการดำเนินการแล้ว 280 จาก 334, สถานี AIS มีการดำเนินการแล้ว 85 จาก 93 สถานี, TRUE มีการดำเนินการแล้ว 116 จาก 122 สถานี, NT มีการดำเนินการแล้ว 79 จาก 119 สถานี“ นายประเสริฐ ระบุ
นายประเสริฐ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบโดยใช้รถโมบายเคลื่อนที่ (Drive test) พบว่า บริเวณชายแดน 2 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี มีการลดกำลังการกระจายสัญญาณและหันทิศตัวส่งสัญญาณ (Cell Site) ให้ใช้ได้ภายในประเทศไทยเท่านั้น รวมทั้งได้สุ่มตรวจจุดต่อสายสัญญาณข้ามแดน แต่ยังไม่พบสายที่ผิดกฎหมายบริเวณที่ตรวจสอบ จึงได้สั่งการกำชับให้ทาง กสทช. และตำรวจในพื้นที่ ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมรายงานความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ และให้ทำรายงานผลดำเนินงานในแต่ละพื้นที่ว่า ก่อนและหลังดำเนินการ ผลเป็นอย่างไร.-316.-สำนักข่าวไทย