สภาฯ ถกงบแจกเงินหมื่นเพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน

รัฐสภา 31 ก.ค.-สภาถกงบแจกเงินหมื่นเพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน ด้าน “พิชัย” ย้ำใช้งบประมาณด้วยความคุ้มค่า กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระ 2 และ 3 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ที่ใช้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน กมธ. เสนอร่างดังกล่าวว่า คณะ กมธ. วิสามัญได้เริ่มพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 2567 แล้วเสร็จในวันที่ 25 ก.ค. 2567 โดยในร่วมกันพิจารณารายละเอียดงบกลางในการใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในการสร้างความเข้มแข็ง วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท โดยคณะ กมธ. วิสามัญได้ให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ที่ประชาชนจะได้รับในการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการส่งเสริมให้มีเงินหมุนเวียนในพื้นที่ต่างๆ และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพและประชาชน ควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งคำนึงถึงความสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ โดยมีข้อเสนอให้รัฐบาลใช้งบประมาณด้วยความคุ้มค่า กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดูแลให้มีมาตรการกำกับดูแลให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของโครงการ รวมถึงมาตรการด้านความปลอดภัยในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


“ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณ ท่าน กมธ. วิสามัญทุกท่าน ที่ได้ให้ความสำคัญเสียสละเวลาและร่วมมือกันในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2567 พ.ศ. … อย่างเต็มที่ ให้ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ดังนั้นขอขอบคุณท่านหัวหน้าหน่วยรับงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ให้ความร่วมมือในการชี้แจงรายละเอียด และจัดเตรียมเอกสารให้คณะ กมธ. วิสามัญเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน สุดท้ายนี้กระผมและคณะ กมธ. วิสามัญยินดีและพร้อมที่จะชี้แจงข้อซักถามของท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติในแต่ละมาตราต่อไป ขอบคุณครับ” นายพิชัย กล่าว

จากนั้นเป็นการอภิปรายของ กมธ.และผู้แปรญัตติขอสวงนความเห็น เป็นแบบรายมาตราต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมของการอภิปรายในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นการแปรญัตติของปรับลดงบประมาณ 10 % บ้าง 20 % บ้าง แต่เป็นที่สังเกตอยู่ที่มาตรา 3 ที่นายวรภพ วิริยะโรจน์, นางสาวรักชนก ศรีนอก และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.พรรคก้าวไกล ที่ขอแปรญัตติปรับงบเหลือ 1 บาท ทำให้ถูกจับตาว่าแปรญัตติเอาสนุกหรือเอาประโยชน์


ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปที่นางสาวรักชนก ก็ยอมรับว่า แปรญัตติแบบนั้นจริงๆ แต่จะไม่อภิปราย แปรไว้ เผื่ออยากพูด แต่ไม่ได้พูด มีคนพูดเยอะแล้ว.-312

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย