รัฐบาลเตรียมส่งมอบที่ดินทำกิน 72,000 ไร่ พัฒนาคุณภาพชีวิต ปชช.

ทำเนียบฯ 20 ก.ค.- นายกฯ ออกรายการ “คุยกับเศรษฐา” เทปพิเศษ เผยรัฐบาลดำเนิน 10 โครงการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบฯ เตรียมส่งมอบที่ดินทำกิน 72,000 ไร่ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชน เชิญชวนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมการดำเนินโครงการ


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดในรายการ “คุยกับเศรษฐา” เทปพิเศษ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในเวลา 08:00 น. ถึง 08:30 น. โดยมี น.ส. ชุติมา พึ่งความสุข เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึง 10 โครงการเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ว่า หลังจากได้รับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ไปกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีการนำเสนอโครงการพระราชดำริในเชิงลึก ทำให้รัฐบาลทราบถึงความยากลำบากว่าจะต้องใส่ใจและใส่เงินเข้าไป เพราะ ผลจะเกิดขึ้นกับประชาชนในเชิงบวก ทั้งเรื่องของปากท้อง การเปลี่ยนแปลงอาชีพ หรือเรื่องที่ทำแบบไม่ถูกกฎหมาย มาเป็นแบบที่ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องของการทำกินก็ได้เห็นชัดเจนขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความยากลำบาก อยู่ไกลความเจริญ ประชาชนส่วนนั้นใช้ชีวิตโดยพึ่งพาการเกษตรในการประกอบอาชีพ ดังนั้นเรื่องของน้ำ เรื่องของการไม่ลุกล้ำป่าเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของคน ทั้งเรื่องสาธารณสุข การศึกษา ก็สามารถ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นในทุกๆมิติ


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนม์มายุ 72 พรรษา จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเราในฐานะประสบนิกรจะร่วมกันเฉลิมฉลองปีมหามงคลนี้ โดยรัฐบาลได้น้อมนำโครงการพระราชดำริต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องป่า เรื่องน้ำ เรื่องคนมาบรรจุในโครงการที่เราทำขึ้นมา ซึ่งรัฐบาลได้ร่วมกัน กับภาคเอกชนและองค์กรต่างๆคัดเลือกกว่า 600 โครงการ เหลือ 10 โครงการหลัก ส่วนที่เหลืออีก 500 กว่าโครงการก็ยังคงดำเนินการต่อ โดย 10 โครงการเป็นเรื่องป่า น้ำ และคน

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงโครงการยกระดับสวนสาธารณะบึงหนองบอนและPocket Park 72 แห่ง ว่า โครงการบึงหนองบอนอยู่ใกล้กับสวนหลวง ร.9 มีพื้นที่หลาย 100 ไร่ และมีบึงอยู่แล้วซึ่งรัฐบาลได้ไปสำรวจมาอยากให้มีการพัฒนาเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่แห่งหนึ่ง ตนและคณะรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่พบว่ามีต้นไม้ที่ดี มีสระน้ำที่ใหญ่ พร้อมในการพัฒนาให้เป็นสวนสุขภาพได้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ถือเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดใน 72 สวนสาธารณะที่รัฐบาลจะทำโครงการ เพราะบางพื้นที่มีแค่ไร่เดียวหรือ 2งาน แต่อยู่ใกล้กับพื้นที่ที่มีความแออัดสูง ซึ่งการพัฒนาพื้นที่เหล่านี้ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนกรุงฯ เนื่องจากปัจจุบันที่อยู่อาศัยอาจมีความคับแคบจึงต้องการพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นสถานที่ในการออกกำลังกาย และอาจจะเป็นสวนสาธารณะเล็กๆ ที่มีสนามกีฬาเพื่อให้เด็กและเยาวชนรวมถึงประชาชนทั่วไปมาออกกำลังกายกันได้

ส่วน โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเรื่องของสภาพแวดล้อมถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยรัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีการแจกต้นกล้าให้กับหน่วยงานต่างๆนำไปปลูกทุกทุกจังหวัดของประเทศไทย อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันมีการทำไร่เลื่อนลอยต่างๆ รัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขปัญหาควบคู่กับเรื่องของการทำมาหากิน เมื่อมีการตัดป่าก็ต้องมีการปลูกทดแทน เพื่อเสริมระบบนิเวศให้สมบูรณ์ และการรักษาหน้าดิน ทำให้มีฝนตกที่ดีพอก็ก่อให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติตามมา ส่งผลครอบคลุมทุกมิติทั้งสิ่งแวดล้อมและเรื่องของเศรษฐกิจ


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งว่าทุกรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เช่นเดียวกันกับรัฐบาลชุดนี้เราไม่ได้โฟกัสเฉพาะเรื่องของสาธารณูปโภคอย่างสนามบินหรือแลนด์บริดจ์เพียงอย่างเดียว หากการดูแลไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งก็จะส่งผลกับมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมโหฬาร โดยรัฐบาลมีโครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ไขปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่ง

สำหรับโครงการพัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าประเทศไทยโชคดีที่เรามีแม่น้ำใหญ่ๆอยู่เยอะ เป็นสายเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงเกษตรกรได้และประชาชนได้รับประโยชน์จากแม่น้ำในการอุปโภคบริโภค และการท่องเที่ยว แต่พบปัญหาเรื่องของความตื้นเขิน ตะกอน เรื่องขยะ ทำให้น้ำไหลไม่ดี รัฐบาลได้พยายาม แก้ไขปรับปรุง และยังเป็นที่มาของโครงการ 10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข จากการลงพื้นที่พบว่าชุมชนที่อยู่ริมคลองได้มีการพัฒนา จัดที่อยู่อาศัยให้เป็นสัดส่วนมีทางเดิน ทำให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข โดยเฉพาะคลองโอ่งอ่าง คลองหลอดหลังกระทรวงกลาโหมข้างกระทรวงมหาดไทย จากการลงพื้นที่ก็รู้สึกแปลกใจว่าคลองใสมาก มีปลา กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดี ซึ่งสมัยก่อนกรุงเทพเป็นเวนิสของตะวันออกก็ว่าได้ ซึ่งก่อนหน้าที่พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำริให้ดูแลเรื่องคลองสวยน้ำใสพบว่าน้ำในคลองมีความขุ่นมีกลิ่น แต่หลังจากลงไปดำเนินโครงการก็พบว่าน้ำในคลองคลองใสขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อยู่ริมคลองไม่ใช่แค่มีสภาพอากาศที่ดีขึ้น แต่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ และมีร้านอาหารที่อร่อยหลายร้านถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในการเข้าไปดำเนินโครงการต่างๆที่เกี่ยวพันกับความเป็นอยู่การดำเนินชีวิตของประชาชนที่มีอยู่อย่างยาวนาน สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราจะไปสั่งการอย่างเดียวไม่ได้เพราะฉะนั้นต้องไปพูดคุยกันถ้าเกิดว่าความเป็นอยู่ดีก็จะมีรายได้เสริมที่ดีขึ้นด้วย

“ การทำความเข้าใจกับประชาชนโดยเฉพาะเรื่องของการดำเนินวิถีชีวิต เช่น เรื่องการทิ้งขยะ ก็เป็นเรื่องสำคัญ เหมือนเวลาที่เราไปต่างประเทศอย่างที่เจนนีวา ก็จะพบว่าน้ำในคลองของเขาใสแจ๋ว ซึ่งหากมาดูบ้านเราพบว่าคลองหลายแห่งมีขยะน้อยลง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ไปจัดหาอุปกรณ์มาสำหรับแก้ไขปัญหา โดยเรื่องของคลองที่มีกลิ่นเหม็น ถ้ามีการลอกดินขึ้นมา อาจเกิดปัญหาตลิ่งทรุดได้ แต่ปัจจุบันได้นำเครื่องมือมาดูดหน้าดินที่มีแก๊สไข่เน่าทำให้ส่งกลิ่น เข้าสู่กระบวนการบำบัดน้ำแยกขยะออกจากดิน พวกพลาสติกทั้งหลาย ดินเมื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดก็จะนำไปทำปุ๋ยแล้วนำน้ำกลับคืนสู่แม่น้ำได้ กลับคืนสู่คลองได้ ซึ่ง 1 กิโลเมตร จะใช้ระยะเวลา 2 เดือนในการจะทำให้ น้ำในคลองใส“ นายกรัฐมนตรี ระบุ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงปัญหาที่ประชาชนสะท้อนมาในระหว่างการลงพื้นที่ว่า หนึ่งในหลายเรื่อง คือ เรื่องของสาธารณสุข เพราะฉะนั้นเราจึงมีโครงการพัฒนาเติมเต็มอุปกรณ์ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลชัยพัฒน์ และหน่วยบริการปฐมภูมิ 72 แห่ง ซึ่งจากการลงพื้นที่ไปก็จะมีการเพิ่มเติมเรื่องของอุปกรณ์ และการต่อเติมอาคาร

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงโครงการหลอมรวมใจมอบน้ำใสสะอาดให้โรงเรียน ว่า ได้ลงพื้นที่ที่จังหวัดนนทบุรีเพราะเรื่องของน้ำถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำดื่มสูงมาก จึงทำเรื่องของน้ำดื่มได้ในโรงเรียน ทำให้น้ำใสสามารถอุปโภคบริโภคได้โดยไม่มีพิษ

ขณะที่โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของประชาชน ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัญหาที่ดินทำกินยังคงเป็นปัญหา เพราะว่าสิ่งที่ทำกิน ที่ดินสามารถทำอะไรได้หลาย ๆ อย่าง เป็นต้นทุนในการหากระแสเงินสดหรือการเลี้ยงชีพก็ได้ โดยรัฐบาลทำงานร่วมกับกองทัพไทยในการที่จะมอบที่ดิน 72,000 ไร่ให้กับประชาชน ซึ่งจะมีการ Kick off เร็ว ๆ นี้ ณ จังหวัดนครพนม นอกเหนือจากการมอบที่ดิน เราก็ดูแลและซ่อมแซมบ้านทั่วประเทศด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การดำเนินโครงการสำหรับกลุ่มคนพิการ โดยการจัดหากายอุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการ จำนวน 72,000 ชุด ซึ่งมีรถจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ได้ปล่อยขบวนรถออกไป เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อนำอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปมอบให้ เป็นการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือทุพพลภาพในบางมิติให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ดำเนินโครงการบริจาคโลหิต 10,000,000 ซีซี ซึ่งเรื่องของการบริจาคโลหิตถือเป็นเรื่องใหญ่ ทุกวันนี้ยังมีคนที่ต้องการโลหิตอยู่จำนวนมาก เพราะฉะนั้นเรื่องของการให้ถือเป็นเรื่องสำคัญ การรณรงค์ทั้งเอกชนและหน่วยงานภาครัฐให้มีการบริจาคโลหิตตรงนี้ โดยเปิดให้มีการบริจาคโลหิตไปจนถึงสิ้นปีนี้ ประชาชนที่สนใจอยากเป็นผู้ให้ก็สามารถไปบริจาคโลหิตได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ และที่สภากาชาดไทย

นายกรัฐมตตรี ยังกล่าวเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ รวมถึงโครงการอื่น ๆ ของรัฐบาลที่ได้เปิดกว้างและอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม รวมถึงห้างร้าน และเอกชนต่าง ๆ ก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในหลายสิบโครงการที่ได้มีการพูดถึง หรือโครงการย่อย ๆ อีก 500 กว่าโครงการ รัฐบาลขอเชิญชวนให้ทุกคนมีส่วนร่วมเข้ามาตรงนี้ ทั้งนี้ จากผลการดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ได้รับการตอบรับด้วยดีจากทุกหน่วยงาน และทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นบริษัท รัฐวิสาหกิจ เอกชนต่าง ๆ ทำให้ผู้ที่ด้อยโอกาสสามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองขึ้นมาได้ ซึ่งโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้ง 10 โครงการหลักของรัฐบาล จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี และเชื่อว่าในวาระอื่น ๆ ในมิติอื่น ๆ รัฐบาลก็ยังเป็นผู้สนับสนุนเรื่องน้ำ เรื่องป่า และเรื่องคนต่อไป

“ผมเชื่อว่าการที่พระองค์ท่านทรงงานอย่างหนักท่านไม่ได้อยู่ในวังอย่างเดียว ท่านลงพื้นที่ค่อนข้างมาก มีการลงรายละเอียดแต่ละโครงการด้วยพระองค์เอง ทางเราเองก็มีการศึกษาติดตามโครงการพระราชดำริต่าง ๆ เวลาที่ผมลงพื้นที่ต่างจังหวัดต่าง ๆ ได้มีการเข้าถึงและเข้าใจถึงปัญหาต่าง ๆ ที่พระองค์ท่านพยายามจะทำ รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะขับเคลื่อนหน่วยงานต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้รัฐบาล รัฐวิสาหกิจมีส่วนร่วมมาก และภาคเอกชน เราได้มีการพยายามเชิญเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อยอดในการทำโครงการพระราชดำริต่าง ๆ” นายกรัฐมนตรี ระบุ .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]