รัฐสภา 18 ก.ค.- “อธิบดีกรมประมง” เข้าแจง “อนุ กมธ.แก้ปัญหาปลาหมอคางดำ” หาข้อเท็จจริง เหตุข้อมูลยังย้อนแย้งกับเอกชน แนะ รัฐบาลวางไทม์ไลน์ให้ชัดเจน ก่อนปล่อยปลานักล่า ชี้ ฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีอำนาจดำเนินคดี
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย กล่าวก่อนการประชุมคณะอนุกรรมธิการฯ ว่า วันนี้ได้เชิญอธิบดีกรมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลในเรื่องที่สังคมกำลังสงสัย หลังมีเอกชนออกมาตอบโต้ว่าเมื่อปี 2556-2558 มีการส่งออกปลาสายพันธุ์นี้ แต่ทางอธิบดีกรมประมงเอง บอกว่าไม่ทราบ ดังนั้นวันนี้จึงต้องทราบข้อมูลข้อจริงเท็จ ว่าเป็นอย่างไร วันนี้จะมีความชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วประเทศไทยมีการส่งออกจริงหรือไม่และข้อมูลที่เอกชน และกรมประมงไม่ตรงกันในเรื่องของเงื่อนไขการส่งซากปลาที่ตนคิดว่า ควรมีเอกสารที่ชัดเจนไม่ใช่ตอบโต้กันไปมา โดยคาดว่าวันนี้จะได้ข้อสรุป เนื่องจากทางอธิบดีกรมประมงมาด้วยตนเอง
ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดปลาหมอคางดำเพิ่งจะมาระบาด นายณัฐชา กล่าวว่าความจริงแล้วน่าจะเป็นการเข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าเพิ่งระบาดแต่ความจริงแล้วคือมีการระบาดมา 14 ปีแล้ว แต่วันนี้ เพิ่งจะมาลุกลามจาก 5 จังหวัด ไป 10 จังหวัด และ 16 จังหวัด และแน่นอนว่าวันนี้หากเกิดความผิดพลาดขึ้น ย่อมมีข้อสันนิษฐานที่ยืนอยู่บนพยานหลักฐานทั้งหมด และข้อยืนยันจากหน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะกรมประมงว่าตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบันมีการอนุญาตนำเข้าเพียงรายเดียว ส่วนการนำเข้าจากที่อื่น ที่ไม่มีการขอใบอนุญาต หรือลักลอบเข้ามาก็ยังไม่มีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนที่มีน้ำหนักเพียงพอ
นายณัฐชา กล่าวว่า ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ยกเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ และ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงที่ทำเนียบรัฐบาลว่าเราจะต้องตามหาต้นตอ และแหล่งที่มาของปลาสายพันธุ์นี้ให้ได้ เพราะจะไม่ยอมส่งธรรมชาติและระบบนิเวศที่ ไม่สมบูรณ์ไปยังคนรุ่นหลัง วันนี้ทางคณะอนุกรรมมาธิการทำได้มากที่สุดคือการหาหลักฐานการวิจัยต่างๆ ที่เป็นองค์ประกอบของการแพร่ระบาด แต่ไม่สามารถที่จะทำถึงขั้นการดำเนินคดีได้ เนื่องจากเป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่ไม่สามารถทำได้
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง กระทรวงใดคนหนึ่งไปแล้ว วันนี้กำลังลุกลามประเทศไทย พื้นที่แม่น้ำ ลำคลองของประเทศไทยถูกลุกลามหมดแล้วและอีกอย่างถ้าเราปล่อยไว้แบบนี้ในอนาคตเราจะไม่ เหลือสายพันธุ์ปลาท้องถิ่นธรรมชาติให้กับคนรุ่นต่อไป และอาจทำให้คนรุ่นหลังได้เห็นภาพปลาท้องถิ่นในหนังสือเท่านั้น ” นายณัฐชา กล่าว
ส่วนมาตรการการรับซื้อปลาหมอคางดำกิโลกรัมละ 15 บาทเพื่อนำไปกำจัดนั้น นายณัฐชา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเป็นข้อกังวลอยู่ ตนเข้าใจดีว่าเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแรงขึ้น ทุกภาคส่วนหันมาแก้ปัญหา แต่ในความเร่งรีบก็ไม่ควรขาดการวางแผน เพราะมีข่าวออกมาไม่ตรงกันสักครั้ง จากแหล่งที่มาเดียวกัน
“เพราะฉะนั้นไทม์ไลน์ต้องชัดเจน จะมาบอกแค่รับซื้อในกิโลกรัมละ 15 บาท โดยที่ไม่รู้ว่ารับที่ไหน ซื้อที่ไหน และระยะเวลาในการจับเมื่อไหร่ และบอกว่าจะมาปล่อยพันธุ์ปลานักล่า แต่กลับบอกให้เร่งจับ ดูเหมือนจะย้อนแย้งกัน ดังนั้นต้องมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน เช่น 2 เดือนปล่อยให้จับในจังหวัดที่เกิดการแพร่ระบาด แล้วค่อยปล่อยปลานักล่า และหลังจากนั้นหากเจออีกจะมีการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไร วันนี้น่าจะมีความชัดเจนจากอธิบดีกรมประมงที่ได้เข้ามาชี้แจงเรื่องงบประมาณที่จ่ายให้กับเกษตรกรไปแล้วและจะใช้ในอนาคตอีกเท่าไหร่“”นายณัฐชา กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย