“ณัฐชา” ซัด “รัฐบาล” ไม่จริงใจแก้ปัญหา “ปลาหมอคางดำ”

รัฐสภา 24 มี.ค.-“ณัฐชา” ถลก “รัฐบาล” ไม่จริงใจแก้ปัญหา “ปลาหมอคางดำ” ชี้อนุมัติงบเพิ่ม 98 ล้านบาท ก็เหมือนซื้อยาพาราไปรักษาโรคมะเร็ง ถาม “เพื่อไทย” หัวใจคือนายทุนหรือไม่ เหตุครอบครัวนายกฯ ใกล้ชิดกับครอบครัวของกลุ่มทุน ส่อเอี่ยวนำเข้า พร้อมเปิดคลิปเทียบ “นอกทำเนียบ-ในทำเนียบ” สะท้อน ความไม่ใส่ใจ

นายณัฐชา อินไชยสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายว่า นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ เจนวาย ที่ขึ้นมาบริหารงานกว่า 194 วัน รับตำแหน่งจาก นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคลียร์ทางสะดวก รับมือ รับหน้า ในช่วงวิกฤติการจัดตั้งรัฐบาลไว้ให้แล้ว เพื่อให้นางสาวแพทองธาร ได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในตระกูลชินวัตรอีกหนึ่งคน แต่เป็น 194 วัน ทีมประชาชน ต้องทนทุกข์ทรมานานลำบากยากเย็น ไม่มีกิน ไม่มีใช้ ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ไม่เหมือนคำโฆษณาชวนเชื่อเมื่อครั้งหาเสียงเลือกตั้ง ที่เคยเปรยคำโฆษณาชวนเชื่อ กับประชาชนอย่างสวยหรู แต่สุดท้าย เมื่อได้ขึ้นมาบริหารงานกลับล้มไม่เป็นท่า


นายณัฐชา กล่าวหานางสาวแพทองธารว่า ขาดภาวะความเป็นผู้นำ ขาดความรู้ ขาดเจตจำนงค์ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ต้องแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ และประชาชน ทำลายภาพลักษณ์ความน่าเชื่อมั่นของประเทศ จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ทำบ้านเมืองผิดพลาดทั้งด้านเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม จงใจเอื้อผลประโยชน์ ให้กับตนเอง พวกพ้อง และกลุ่มทุน

นายณัฐชา ยกคำกล่าว ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยเคยมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ในยุคสมัยนี้ มีการบริหารผิดทิศผิดทาง จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็น ในนามีสารเคมี ส่วนในน้ำมีหายนะครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งกำลังทำลายกลืนกินทุกสิ่งมีชีวิตในทุกแหล่งน้ำของประเทศ ในการระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งนับเป็นอาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ทำให้เกิดความเสียหาย สูญเสียอาชีพ ทรัพย์สิน ความมั่นคงในชีวิต มองไม่เห็นอนาคตของเกษตรกร และประชาชนคนไทย หมดสิ้นซึ่งหนทางในการเลี้ยงสัตว์น้ำ เหลือแต่บ่อที่มีแต่ผักบุ้ง ที่บ้านนี้เมืองนี้ไม่ช่วยอะไรเขาเลย ตัวเลขความเสียหายดิ่งสูงขึ้น ณ ตอนนี้ประเมินมูลค่าคร่าวๆ ที่ 26,432 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมมูลค่าทางอ้อม ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ และการขาดดุลการค้า แล้วเราจะให้ลูกหลานคนรุ่นหลัง ต้องรับชะตากรรม ที่น่าอับอายแบบนี้ต่อไปหรือ


“แม้เงินหมื่นที่ท่านนายกรัฐมนตรี แจกออกไปหวังจะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้กลายเป็นอาหารอันโอชะของปลาหมอคางดำกันหมดแล้ว เพราะชาวบ้านหวังจะนำเอาเงินก้อนนี้ไปเป็นทุนต่อยอด แต่ในแหล่งน้ำธรรมชาติทุกสาย กลับมีปลาหมอคางดำ แทรกซึมไปทั้งหมด”

นายณัฐชา ย้ำว่า สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด ไม่ใช่แค่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่คือความเงียบของรัฐบาล ที่นิ่งนอนใจและปล่อยให้ประชาชน ต้องสู้กับวิกฤตครั้งนี้อยู่เพียงลำพัง พร้อมยกตัวอย่าง กรณีเรือน้ำตาลล่ม ที่มีการรวมตัวกัน 6 หน่วยงาน ที่ออกมาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติให้กับชาวบ้าน คือ กรมควบคุมมลพิษ กรมประมง สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดอยุธยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดอยุธยา และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง เพื่อฟ้องร้องหน่วยงาน และสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ทั้งหมด นี่คือกรณีเทียบเคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่า การแก้ปัญหาแทบไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเลย

นายณัฐชา มองว่า ขณะที่กรณีปลาหมอคางดำ กลับไม่มีหน่วยงานใดเลย ที่จะกล้าออกมาปกป้องทรัพยากรที่มีมูลค่ามหาศาลของประเทศชาติ ไม่มาต่อสู้เคียงข้างพี่น้องประชาชน ทั้ง ๆ ที่ในยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 นายกรัฐมนตรีต่างรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นถึงความเสียหาย ที่ส่งผลกระทบในทางเศรษฐกิจ และภาระงบประมาณแผ่นดิน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ที่จะเกิดขึ้นกับการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ พร้อมทั้งได้หยิบยกขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ แต่ภายใต้วาระแห่งชาตินี้กลับไม่มีอะไรอยู่เลย แม้แต่ความจริงใจต่อเกษตรกร และอนาคตของประชาชนชาวไทยทุกคน


นายณัฐชา ชี้ว่า นี่คือสิ่งสะท้อนว่าไม่มีความจริงใจเลย เนื่องจากการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ดูเหมือนจะเอาจริงเอาจังชั่วครั้ง ชั่วคราว ทำ ๆ เลิก ๆ มา ๆ หาย ๆ จนกลายเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ จากมาตรการต่างๆ ที่ออกมา เพราะความจริงแล้ว ต้องเริ่มจากการที่รัฐบาลมีความกล้า หาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้เป็นอันดับแรก ชดเชยเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้วให้เต็มประสิทธิภาพ ใช้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ทุกกลไกต้องทำงานอย่างเต็มที่ แค่นั้นก็จบ แต่มาถึงวันนี้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่ทำอะไรเลย

“ท่านกลัวอะไร ทำไมถึงไม่กล้าสั่งให้ตามล่าหาความจริง รื้อเรื่องนี้มาตรวจสอบ หาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน หรือหากท่านเกรงใจ ไม่กล้าทำอะไรที่อาจจะไปกระทบกระทั่งกับกลุ่มทุนผู้ที่ช่วยตั้งไข่รัฐบาลนี้มา ก็ช่วยเห็นใจประชาชน โดยการหยิบเอารายงานของคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่พิจารณาเรื่องนี้แล้วมาใช้ ไม่ต้องใช้ความรู้ความสามารถพิเศษใด ๆ เพียงแค่นำรายงานเล่มนี้ เข้าคณะรัฐมนตรี แล้วสั่งการอ้อม ๆ ได้เลย ซึ่งผู้ที่มีอำนาจเต็มในการสั่งการครั้งนี้ คือนางสาวแพทองธาร

นายณัฐชา ย้ำว่า ในรายงานผลการศึกษา ระบุชัดเจนด้วยพยานหลักฐานทั้งหมดว่า เราพบการขออนุญาตนำเข้าปลาหมอคางดำมาในราชอาณาจักรไทยเพียงรายเดียว นั่นคือ “บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF” พร้อมไล่เรียงไทม์ไลน์เรื่องทั้งหมด

“หากมันฉลาดถึงขนาดว่ายข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงประเทศไทย เพราะคิดว่าพ่อและเพื่อน ๆ ของมันบินมาอยู่ที่นี่ แต่มันก็คงจะไม่รู้ถึงขนาดว่ายมาที่ตำบลเดียวกัน อำเภอเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน เพราะถ้ามันเก่งขนาดนี้ ฉลาดขนาดนี้ว่ายมาหาพ่อมันที่มาเป็นสัตว์วิจัยได้พิกัดตรงเป๊ะขนาดนี้ ก็จับมันแกงให้นายกรัฐมนตรีแพทองธารทานไปเลย จะได้ฉลาดและเก่งแบบไอปลาหมอคางดำฝูงนี้”

นอกจากนี้ นายณัฐชา ยังขอเรียกร้อง 4 ข้อ ที่รับมาจากชาวบ้าน ดังนี้ 1.ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบผู้หากระทำความผิด 2.กำจัดปลาหมอคางดำให้หมดภายใน 1 ปี 3.ประกาศเขตภัยพิบัติทันที และ 4.ให้หน่วยงานรัฐฟ้องผู้กระทำผิดมาชดเชยเยียวยา ซึ่งไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง ไม่ได้เกินความสามารถของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และน้ำหนักของฟิวเจอร์บอร์ดข้อเรียกร้องนี้ ก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากไปกว่าช่อดอกไม้ ที่ท่านรับในวันนั้นเลย ทำไมถึงจะมารับไปดำเนินการ แก้ไขให้พวกเขาไม่ได้

ระหว่างการอภิปราย ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า ผู้อภิปรายกล่าวเท็จว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำอะไรเลย รับแต่ช่อดอกไม้ ทั้งที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งจะอนุมัติงบประมาณ และทำอีกหลายมาตรการ ท่านควรจะเรียบเรียงเรื่องของท่าน และขอให้ประธานในที่ประชุมควบคุมเรื่องการใส่ร้ายด้วย

นายณัฐชา จึงกล่าวย้ำว่า ได้พูดถึงเรื่องงบประมาณแล้ว โดยเปรียบเทียบว่า เหมือนเอาเงินซื้อยาพาราไปรักษาโรคมะเร็ง แต่ผู้ประท้วงไม่ยอมฟังให้จบ

“ท่านนายกฯ เล่นนอกบทบ้างก็ได้ ที่ผู้กำกับจัดฉากไว้ให้ท่านนายกแฮปปี้เอนดิ้งกับนักธุรกิจประมงพันล้าน แล้วออกมาเผชิญปัญหาในโลกกว้างที่มันกำลังเป็นหายนะ ส่งต่อรุ่นลูกรุ่นหลานของท่าน ที่วิ่งเล่นอยู่ในสนามหญ้าหน้าทำเนียบ เพราะต่อไปจะไม่มีสัตว์พื้นถิ่นให้ลองลิ้นชิมรส ภาพนี้มองกี่ครั้งก็ช่างบาดตา บาดหัวใจ พี่น้องเกษตรกรไทย อยากจะเรียกผู้กำกับที่เซ็ทละครฉากนี้ให้ท่านนายกฯ มาลงโทษให้ได้”

จากนั้น นายณัฐชา ได้เปิดคลิปวีดีโอ พร้อมระบุว่า นี่เป็นเครื่องยืนยัน ที่ยิ่งตอกย้ำว่านายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่รับรู้ ไม่เหลียวมอง ไม่สนใจใยดี ปัญหาของเกษตรกรเลย เพราะนอกทำเนียบที่เดือดระอุ แต่นายกรัฐมนตรีกลับตอบความหวานแหวว สวยงาม ที่อยู่ในทำเนียบ “นี่ใจคอจะไม่รับรู้เลยจริง ๆ เหรอ ว่าพี่น้องประชาชนเขาเจ็บจริง ๆ ตายจริง ๆ จนจริง ๆ อดอยากจริง ๆ มันทุกข์ทรมานขนาดไหน ในวันเวลา ที่ท่านบริหารประเทศนี้อยู่ จึงอยากขอถามว่าความรู้สึกของนายกรัฐมนตรี จากตัวตนจริงๆ ว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่

“สุดท้ายรัฐบาลเพื่อไทยหัวใจเพื่อใครกันแน่ ทำไมถึงปล่อยให้เสียงกระซิบของนายทุน มันดังสนั่นหวั่นไหวในประเทศนี้ แต่แทบจะไม่ได้ยินเสียงตะโกนโห่ร้องผ่านความเจ็บปวด ของพี่น้องประชาชน และเกษตรกรไทยเลย ก็ได้แต่ตั้งคำถามว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหัวใจคือนายทุนหรือไม่ เพราะแต่ละภาพที่ออกมา มีความใกล้ชิดสนิทสนมชิดเชื้อระหว่างครอบครัวและบริษัทที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำกันเสียเหลือเกิน”

“ผมเองในฐานะผู้แทนประชาชน ที่ได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ ใช้ทุกกลไกทุกองคาพยพ ที่สามารถทำได้จนสุดฝีมือ ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำสูงสุดในรัฐบาลนี้ ก็มาจากพี่น้องประชาชนเช่นกัน ท่านปล่อยให้ประชาชนที่เป็นฐานเสียงฐานคะแนนของพวกท่าน ตกอยู่ในความยากลำบากขนาดนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงทำได้ลงคอ จิตใจท่านในวันนี้ หลังจากได้รับตำแหน่ง มันหลงเหลือคำว่าหัวใจคือประชาชนอยู่บ้างหรือ้ปล่า

…จงจำไว้ว่าการมีอำนาจในวันนี้ ท่านไม่ได้มาจากกลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง เพราะใบอนุญาตการเป็นรัฐบา ต้องใช้เสียงสนับสนุนจากประชาชน ท่านอย่ากลัวกลุ่มทุนจะไม่ชวนทานข้าวร่วมโต๊ะ แต่ท่านจงกลัวมือของประชาชนที่จะไม่สนับสนุนท่านต่อในวันที่ท่านหมดอำนาจ”

นายณัฐชา ทิ้งท้ายถึง สส.ว่า ได้โปรดตัดสินใจลงคะแนนด้วยมือที่ประชาชนมอบให้ ลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เพื่อที่จะหันหน้ามองประชาชนในเขตพื้นที่ท่านได้อย่างภาคภูมิใจ และแสดงเจตจำนงที่เราจะไม่ยอมให้กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่หน้าไหนมากัดกินและกอบโกยเอาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของประเทศชาติ แม้จะเป็นความยากลำบากในการตัดสินใจ แต่หากทุกท่านในที่นี้ กล้าที่จะลงคะแนนไม่ไว้วางใจอย่างเด็ดเดี่ยว กล้าที่จะใช้อำนาจอย่างเต็มที่ที่ได้มาจากประชาชน กล้าที่จะต่อกรกับกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่สิงรัฐบาลอยู่ กล้าที่จะต่อสู้กับผู้ควบคุมรัฐบาลนี้ ที่คอยบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ เดินหมากทุกกลไกของประเทศ ใช้อำนาจทุกอย่างอย่างแท้จริง เปรียบเสมือนอยากเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง แต่ทำไม่ได้ เลยต้องใช้ชื่ออย่างงไม่เป็นทางการ ว่า สทร. หรือชื่อแท้จริง คือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญตัวจริง ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เรามาจบดีลแลกประเทศนี้ไปพร้อมๆ กันเถอะ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมผู้นำอาเซียน

นายกฯ ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 46 พร้อมร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่อาเซียน

มาเลเซีย 26 พ.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 46 พร้อมร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่อาเซียน เพื่อขับเคลื่อนอาเซียนอีก 20 ปี ข้างหน้า เน้นย้ำการมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง รับมือความท้าทายในอนาคต วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งตรงกับเวลา 08.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ณ ห้องประชุม Conference Hall 1 ชั้น 3 ศูนย์การประชุม Kuala Lumpur Convention Center (KLCC) กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย การประชุมอาเซียนครั้งนี้ มาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ภายใต้แนวคิดหลัก “การมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง และความยั่งยืน” (Inclusivity and Sustainability) มีผู้เข้าร่วมประชุม […]

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

“วันหงส์แดงแห่งชาติ” ลิเวอร์พูลฉลองแชมป์สมัยที่ 20

25 พ.ค. – แฟนบอลลิเวอร์พูลในเมืองไทย จัดงาน “วันหงส์แดงแห่งชาติ” เฉลิมฉลองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สมัยที่ 20 โดยมี ยอห์น อาร์เน่ รีเซ ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล ร่วมขึ้นรถแห่ฉลอง.-สำนักข่าวไทย

งานวิ่งทิพย์ไร้ผู้จัด นักวิ่งกว่าพันคนโดนเท

กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – นักวิ่งนับพันคนโดนเทในงานวิ่งทิพย์ “Run for destination” แห่แจ้งความวุ่น ขณะที่สาวชุดดำ หนึ่งในสตาฟฟ์ โผล่มาคนเดียว ประกาศคืนเงินคนละ 10 บาท เรื่องวุ่นๆ ของคนรักวิ่ง เช้านี้ (25 พ.ค.) นักวิ่งถึงกับมึนเมื่อโดนผู้จัดงานเท กลายเป็นงานวิ่งทิพย์ มีแค่ซุ้มประตู เต็นท์กิจกรรม และรถห้องน้ำ แต่ไม่มีผู้จัด หนึ่งในสตาฟฟ์โผล่มาคนเดียว บอกไม่ได้อ่านไลน์กลุ่ม จึงไม่ทราบผู้จัดและทีมงานถอนตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว กลายเป็นวุ่นวายกันตั้งแต่ช่วงเช้า (25 พ.ค. 68) เมื่อนักวิ่งต่างแห่แชร์ในโลกโซเชียล งานวิ่ง Run For Destination 2025 เป็นงานวิ่งทิพย์ ตามกำหนดจัดขึ้นที่สวนหลวง ร.9 กรุงเทพฯ และทุกอย่างพร้อม นักวิ่งพร้อม แต่ไม่มีผู้จัดงาน โดนเทกันครั้งใหญ่ สำหรับงานวิ่ง Run For Destination 2025 มีกำหนดวิ่งในวันนี้ ที่สวนหลวง ร.9 […]