“ณัฐชา” ซัด “รัฐบาล” ไม่จริงใจแก้ปัญหา “ปลาหมอคางดำ”

รัฐสภา 24 มี.ค.-“ณัฐชา” ถลก “รัฐบาล” ไม่จริงใจแก้ปัญหา “ปลาหมอคางดำ” ชี้อนุมัติงบเพิ่ม 98 ล้านบาท ก็เหมือนซื้อยาพาราไปรักษาโรคมะเร็ง ถาม “เพื่อไทย” หัวใจคือนายทุนหรือไม่ เหตุครอบครัวนายกฯ ใกล้ชิดกับครอบครัวของกลุ่มทุน ส่อเอี่ยวนำเข้า พร้อมเปิดคลิปเทียบ “นอกทำเนียบ-ในทำเนียบ” สะท้อน ความไม่ใส่ใจ

นายณัฐชา อินไชยสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายว่า นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ เจนวาย ที่ขึ้นมาบริหารงานกว่า 194 วัน รับตำแหน่งจาก นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคลียร์ทางสะดวก รับมือ รับหน้า ในช่วงวิกฤติการจัดตั้งรัฐบาลไว้ให้แล้ว เพื่อให้นางสาวแพทองธาร ได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในตระกูลชินวัตรอีกหนึ่งคน แต่เป็น 194 วัน ทีมประชาชน ต้องทนทุกข์ทรมานานลำบากยากเย็น ไม่มีกิน ไม่มีใช้ ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ไม่เหมือนคำโฆษณาชวนเชื่อเมื่อครั้งหาเสียงเลือกตั้ง ที่เคยเปรยคำโฆษณาชวนเชื่อ กับประชาชนอย่างสวยหรู แต่สุดท้าย เมื่อได้ขึ้นมาบริหารงานกลับล้มไม่เป็นท่า


นายณัฐชา กล่าวหานางสาวแพทองธารว่า ขาดภาวะความเป็นผู้นำ ขาดความรู้ ขาดเจตจำนงค์ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ต้องแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ และประชาชน ทำลายภาพลักษณ์ความน่าเชื่อมั่นของประเทศ จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ทำบ้านเมืองผิดพลาดทั้งด้านเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม จงใจเอื้อผลประโยชน์ ให้กับตนเอง พวกพ้อง และกลุ่มทุน

นายณัฐชา ยกคำกล่าว ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยเคยมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ในยุคสมัยนี้ มีการบริหารผิดทิศผิดทาง จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็น ในนามีสารเคมี ส่วนในน้ำมีหายนะครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งกำลังทำลายกลืนกินทุกสิ่งมีชีวิตในทุกแหล่งน้ำของประเทศ ในการระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งนับเป็นอาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ทำให้เกิดความเสียหาย สูญเสียอาชีพ ทรัพย์สิน ความมั่นคงในชีวิต มองไม่เห็นอนาคตของเกษตรกร และประชาชนคนไทย หมดสิ้นซึ่งหนทางในการเลี้ยงสัตว์น้ำ เหลือแต่บ่อที่มีแต่ผักบุ้ง ที่บ้านนี้เมืองนี้ไม่ช่วยอะไรเขาเลย ตัวเลขความเสียหายดิ่งสูงขึ้น ณ ตอนนี้ประเมินมูลค่าคร่าวๆ ที่ 26,432 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมมูลค่าทางอ้อม ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ และการขาดดุลการค้า แล้วเราจะให้ลูกหลานคนรุ่นหลัง ต้องรับชะตากรรม ที่น่าอับอายแบบนี้ต่อไปหรือ


“แม้เงินหมื่นที่ท่านนายกรัฐมนตรี แจกออกไปหวังจะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้กลายเป็นอาหารอันโอชะของปลาหมอคางดำกันหมดแล้ว เพราะชาวบ้านหวังจะนำเอาเงินก้อนนี้ไปเป็นทุนต่อยอด แต่ในแหล่งน้ำธรรมชาติทุกสาย กลับมีปลาหมอคางดำ แทรกซึมไปทั้งหมด”

นายณัฐชา ย้ำว่า สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด ไม่ใช่แค่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่คือความเงียบของรัฐบาล ที่นิ่งนอนใจและปล่อยให้ประชาชน ต้องสู้กับวิกฤตครั้งนี้อยู่เพียงลำพัง พร้อมยกตัวอย่าง กรณีเรือน้ำตาลล่ม ที่มีการรวมตัวกัน 6 หน่วยงาน ที่ออกมาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติให้กับชาวบ้าน คือ กรมควบคุมมลพิษ กรมประมง สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดอยุธยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดอยุธยา และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง เพื่อฟ้องร้องหน่วยงาน และสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ทั้งหมด นี่คือกรณีเทียบเคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่า การแก้ปัญหาแทบไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเลย

นายณัฐชา มองว่า ขณะที่กรณีปลาหมอคางดำ กลับไม่มีหน่วยงานใดเลย ที่จะกล้าออกมาปกป้องทรัพยากรที่มีมูลค่ามหาศาลของประเทศชาติ ไม่มาต่อสู้เคียงข้างพี่น้องประชาชน ทั้ง ๆ ที่ในยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 นายกรัฐมนตรีต่างรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นถึงความเสียหาย ที่ส่งผลกระทบในทางเศรษฐกิจ และภาระงบประมาณแผ่นดิน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ที่จะเกิดขึ้นกับการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ พร้อมทั้งได้หยิบยกขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ แต่ภายใต้วาระแห่งชาตินี้กลับไม่มีอะไรอยู่เลย แม้แต่ความจริงใจต่อเกษตรกร และอนาคตของประชาชนชาวไทยทุกคน


นายณัฐชา ชี้ว่า นี่คือสิ่งสะท้อนว่าไม่มีความจริงใจเลย เนื่องจากการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ดูเหมือนจะเอาจริงเอาจังชั่วครั้ง ชั่วคราว ทำ ๆ เลิก ๆ มา ๆ หาย ๆ จนกลายเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ จากมาตรการต่างๆ ที่ออกมา เพราะความจริงแล้ว ต้องเริ่มจากการที่รัฐบาลมีความกล้า หาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้เป็นอันดับแรก ชดเชยเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้วให้เต็มประสิทธิภาพ ใช้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ทุกกลไกต้องทำงานอย่างเต็มที่ แค่นั้นก็จบ แต่มาถึงวันนี้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่ทำอะไรเลย

“ท่านกลัวอะไร ทำไมถึงไม่กล้าสั่งให้ตามล่าหาความจริง รื้อเรื่องนี้มาตรวจสอบ หาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน หรือหากท่านเกรงใจ ไม่กล้าทำอะไรที่อาจจะไปกระทบกระทั่งกับกลุ่มทุนผู้ที่ช่วยตั้งไข่รัฐบาลนี้มา ก็ช่วยเห็นใจประชาชน โดยการหยิบเอารายงานของคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่พิจารณาเรื่องนี้แล้วมาใช้ ไม่ต้องใช้ความรู้ความสามารถพิเศษใด ๆ เพียงแค่นำรายงานเล่มนี้ เข้าคณะรัฐมนตรี แล้วสั่งการอ้อม ๆ ได้เลย ซึ่งผู้ที่มีอำนาจเต็มในการสั่งการครั้งนี้ คือนางสาวแพทองธาร

นายณัฐชา ย้ำว่า ในรายงานผลการศึกษา ระบุชัดเจนด้วยพยานหลักฐานทั้งหมดว่า เราพบการขออนุญาตนำเข้าปลาหมอคางดำมาในราชอาณาจักรไทยเพียงรายเดียว นั่นคือ “บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF” พร้อมไล่เรียงไทม์ไลน์เรื่องทั้งหมด

“หากมันฉลาดถึงขนาดว่ายข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงประเทศไทย เพราะคิดว่าพ่อและเพื่อน ๆ ของมันบินมาอยู่ที่นี่ แต่มันก็คงจะไม่รู้ถึงขนาดว่ายมาที่ตำบลเดียวกัน อำเภอเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน เพราะถ้ามันเก่งขนาดนี้ ฉลาดขนาดนี้ว่ายมาหาพ่อมันที่มาเป็นสัตว์วิจัยได้พิกัดตรงเป๊ะขนาดนี้ ก็จับมันแกงให้นายกรัฐมนตรีแพทองธารทานไปเลย จะได้ฉลาดและเก่งแบบไอปลาหมอคางดำฝูงนี้”

นอกจากนี้ นายณัฐชา ยังขอเรียกร้อง 4 ข้อ ที่รับมาจากชาวบ้าน ดังนี้ 1.ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบผู้หากระทำความผิด 2.กำจัดปลาหมอคางดำให้หมดภายใน 1 ปี 3.ประกาศเขตภัยพิบัติทันที และ 4.ให้หน่วยงานรัฐฟ้องผู้กระทำผิดมาชดเชยเยียวยา ซึ่งไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง ไม่ได้เกินความสามารถของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และน้ำหนักของฟิวเจอร์บอร์ดข้อเรียกร้องนี้ ก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากไปกว่าช่อดอกไม้ ที่ท่านรับในวันนั้นเลย ทำไมถึงจะมารับไปดำเนินการ แก้ไขให้พวกเขาไม่ได้

ระหว่างการอภิปราย ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า ผู้อภิปรายกล่าวเท็จว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำอะไรเลย รับแต่ช่อดอกไม้ ทั้งที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งจะอนุมัติงบประมาณ และทำอีกหลายมาตรการ ท่านควรจะเรียบเรียงเรื่องของท่าน และขอให้ประธานในที่ประชุมควบคุมเรื่องการใส่ร้ายด้วย

นายณัฐชา จึงกล่าวย้ำว่า ได้พูดถึงเรื่องงบประมาณแล้ว โดยเปรียบเทียบว่า เหมือนเอาเงินซื้อยาพาราไปรักษาโรคมะเร็ง แต่ผู้ประท้วงไม่ยอมฟังให้จบ

“ท่านนายกฯ เล่นนอกบทบ้างก็ได้ ที่ผู้กำกับจัดฉากไว้ให้ท่านนายกแฮปปี้เอนดิ้งกับนักธุรกิจประมงพันล้าน แล้วออกมาเผชิญปัญหาในโลกกว้างที่มันกำลังเป็นหายนะ ส่งต่อรุ่นลูกรุ่นหลานของท่าน ที่วิ่งเล่นอยู่ในสนามหญ้าหน้าทำเนียบ เพราะต่อไปจะไม่มีสัตว์พื้นถิ่นให้ลองลิ้นชิมรส ภาพนี้มองกี่ครั้งก็ช่างบาดตา บาดหัวใจ พี่น้องเกษตรกรไทย อยากจะเรียกผู้กำกับที่เซ็ทละครฉากนี้ให้ท่านนายกฯ มาลงโทษให้ได้”

จากนั้น นายณัฐชา ได้เปิดคลิปวีดีโอ พร้อมระบุว่า นี่เป็นเครื่องยืนยัน ที่ยิ่งตอกย้ำว่านายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่รับรู้ ไม่เหลียวมอง ไม่สนใจใยดี ปัญหาของเกษตรกรเลย เพราะนอกทำเนียบที่เดือดระอุ แต่นายกรัฐมนตรีกลับตอบความหวานแหวว สวยงาม ที่อยู่ในทำเนียบ “นี่ใจคอจะไม่รับรู้เลยจริง ๆ เหรอ ว่าพี่น้องประชาชนเขาเจ็บจริง ๆ ตายจริง ๆ จนจริง ๆ อดอยากจริง ๆ มันทุกข์ทรมานขนาดไหน ในวันเวลา ที่ท่านบริหารประเทศนี้อยู่ จึงอยากขอถามว่าความรู้สึกของนายกรัฐมนตรี จากตัวตนจริงๆ ว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่

“สุดท้ายรัฐบาลเพื่อไทยหัวใจเพื่อใครกันแน่ ทำไมถึงปล่อยให้เสียงกระซิบของนายทุน มันดังสนั่นหวั่นไหวในประเทศนี้ แต่แทบจะไม่ได้ยินเสียงตะโกนโห่ร้องผ่านความเจ็บปวด ของพี่น้องประชาชน และเกษตรกรไทยเลย ก็ได้แต่ตั้งคำถามว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหัวใจคือนายทุนหรือไม่ เพราะแต่ละภาพที่ออกมา มีความใกล้ชิดสนิทสนมชิดเชื้อระหว่างครอบครัวและบริษัทที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำกันเสียเหลือเกิน”

“ผมเองในฐานะผู้แทนประชาชน ที่ได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ ใช้ทุกกลไกทุกองคาพยพ ที่สามารถทำได้จนสุดฝีมือ ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำสูงสุดในรัฐบาลนี้ ก็มาจากพี่น้องประชาชนเช่นกัน ท่านปล่อยให้ประชาชนที่เป็นฐานเสียงฐานคะแนนของพวกท่าน ตกอยู่ในความยากลำบากขนาดนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงทำได้ลงคอ จิตใจท่านในวันนี้ หลังจากได้รับตำแหน่ง มันหลงเหลือคำว่าหัวใจคือประชาชนอยู่บ้างหรือ้ปล่า

…จงจำไว้ว่าการมีอำนาจในวันนี้ ท่านไม่ได้มาจากกลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง เพราะใบอนุญาตการเป็นรัฐบา ต้องใช้เสียงสนับสนุนจากประชาชน ท่านอย่ากลัวกลุ่มทุนจะไม่ชวนทานข้าวร่วมโต๊ะ แต่ท่านจงกลัวมือของประชาชนที่จะไม่สนับสนุนท่านต่อในวันที่ท่านหมดอำนาจ”

นายณัฐชา ทิ้งท้ายถึง สส.ว่า ได้โปรดตัดสินใจลงคะแนนด้วยมือที่ประชาชนมอบให้ ลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เพื่อที่จะหันหน้ามองประชาชนในเขตพื้นที่ท่านได้อย่างภาคภูมิใจ และแสดงเจตจำนงที่เราจะไม่ยอมให้กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่หน้าไหนมากัดกินและกอบโกยเอาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของประเทศชาติ แม้จะเป็นความยากลำบากในการตัดสินใจ แต่หากทุกท่านในที่นี้ กล้าที่จะลงคะแนนไม่ไว้วางใจอย่างเด็ดเดี่ยว กล้าที่จะใช้อำนาจอย่างเต็มที่ที่ได้มาจากประชาชน กล้าที่จะต่อกรกับกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่สิงรัฐบาลอยู่ กล้าที่จะต่อสู้กับผู้ควบคุมรัฐบาลนี้ ที่คอยบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ เดินหมากทุกกลไกของประเทศ ใช้อำนาจทุกอย่างอย่างแท้จริง เปรียบเสมือนอยากเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง แต่ทำไม่ได้ เลยต้องใช้ชื่ออย่างงไม่เป็นทางการ ว่า สทร. หรือชื่อแท้จริง คือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญตัวจริง ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เรามาจบดีลแลกประเทศนี้ไปพร้อมๆ กันเถอะ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]