“ศิริกัญญา” ชี้ รัฐบาลขอกู้เพิ่มจนเต็มเพดาน จัดงบขาดดุลสูงเป็นประวัติการณ์

รัฐสภา 17 ก.ค.- “ศิริกัญญา” ชี้ รัฐบาลขอกู้เพิ่ม อีก 1.12 แสนล้านบาท จนเต็มเพดาน และจัดงบขาดดุลสูงเป็นประวัติการณ์ เดินหน้าโครงการเพื่อรักษาหน้า ตามที่หาเสียงไว้ ชี้ สุ่มเสี่ยงผิด กม. ห่วงพรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด-ขอคว่ำร่าง กม.นี้


นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ​ 2567 จำนวนไม่เกิน 1.22 แสนล้านบาท ว่า งบประมาณ ปี 67 ที่รัฐบาลกำลังจะมาขอสภา กู้เพิ่ม 112,000 ล้านบาท และหารายได้อื่นอีก 10,000 ล้านบาท มองว่า เป็นเรื่องดีดีแล้วที่ไม่ได้ใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธ.ก.ส. เพราะได้ท้วงติงมาโดยตลอดว่า ผิดวัตถุประสงค์ตาม พ.ร.บ.ของ ธ.ก.ส. เองและ สภาพคล่องคงไม่เพียงพอ ซึ่งสุดท้าย วงเงินงบได้ลดลง 450,000 ล้านบาท

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลจะกู้เพิ่มอีก 1.12 แสนล้านบาท ทำให้งบปี 67 มีการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 805,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งไม่ค่อยตั้งงบประมาณให้ขาดดุลสูงขนาดนี้ ถือเป็นการแบ่งงบเรื่อยๆ จะเป็นปัญหาในการเพิ่มหนี้สาธารณะและการชำระหนี้ตามมา อีกทั้งปัญหาเฉพาะหน้าจากการกู้เต็มเพดาน ทำให้เหลือเพดานที่สามารถกู้เพิ่มได้อีกเพียง 10,056 ล้านบาท


“ปัญหาคือ เมื่อหาเงินไม่ทันแบบนี้ ต้องไปดูที่ฝั่งรายได้ว่ารัฐบาลจะสามารถที่จะมีงบประมาณเหลือเพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงในการจัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้าหรือไม่” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ทั้งนี้ ทำให้งบประมาณ ปี 67 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาท สุดท้ายอาจใช้ได้ไม่ครบทั้งหมด เพราะรายได้ไม่เข้าเป้า และกู้โปะได้ไม่เพียงพอ สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ไม่ได้สนใจว่า ประเทศจะมาอยู่ในภาวะความเสี่ยงแบบนี้ เพียงเพื่อที่จะได้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ต้องกู้จนสุดเพดานอย่างนี้

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ในช่วง 8 เดือนของปีนี้ จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการแล้ว 26,238 ล้านบาท เมื่อดูจากกรรมสรรสามิต จัดเก็บรายได้ 9 เดือน ต่ำกว่าเป้าแล้ว 58,000 ล้านบาท ซึ่งจากสถานการณ์แบบนี้ที่ยังไม่รู้จะมีรายได้เพียงพอใช้สำหรับปี 67 หรือไม่ ก็ยังมาขอกู้สภาเต็มเพดาน ไม่เหลือพื้นที่ให้บริหารความเสี่ยงใดๆเลย


นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า สำหรับงบกลางที่ขออนุมัติจากสภาไว้ 1 แสนล้านบาท ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มีการอนุมัติงบไปเพียง 17,991.43 ล้านบาท ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีการมองกันว่า เศรษฐกิจยังแย่ แต่กลับไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาช่วยเหลือประชาชน และมองว่า น่าจะเป็นการกั๊กเงินไว้มาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 43,000 ล้านบาทในช่วงปลายปี

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การนำงบกลางปี ไปใช้ช่วงปลายปีไม่น่าสามารถทำได้ เพราะตามมาตรา 21 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ระบุว่า “การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมต้องใช้จ่ายระหว่างปีงบประมาณ” ซึ่งจะไปใช้ข้ามปีคงไม่ได้ และถือเป็นการผิดพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง

นอกจากนี้ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า อีก 15 วันจะมีการลงทะเบียนโครงการ แต่ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ ยังคงใส่ไว้ในงบกลาง และระบบลงทะเบียนเพิ่งชนะการประมูลมา 2 บริษัท และระบบชำระเงินยังไม่ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงยังไม่มีมาตรการสร้างแรงจูงใจร้านค้ารายเล็ก รายย่อย ให้เข้าร่วมโครงการได้ เพราะระบบที่ออกแบบมา เอื้อให้ร้านค้าที่มีสายป่านยาว

“การลงทุนไม่รู้ว่าจะเป็นเท่าไหร่ ตีไว้ 5 แสนล้านบาท ที่ลงทุนไปจะได้อะไรได้รักษาหน้า ว่าได้ทำตามที่ได้หาเสียงไว้แล้ว ถึงแม้ว่านโยบาย จะไม่ได้เหมือนตอนที่หาเสียงไว้ตั้งแต่ต้น ได้เพิ่มจีดีพี เต็มที่ 350,000 ล้านบาท ซึ่งลงทุน 500,000 ล้าน ได้คืน 350,000 ล้าน แบบนี้เรียกว่าคุ้มหรือไม่ แล้วสิ่งที่จะเสียคือ การเพิ่มความเสี่ยงการคลังให้กับประเทศ ตอนนี้ไม่มีปัญญาจะรับมือกับสถานการณ์ใดที่ฉุกเฉินเข้ามา แค่ฝ่ายค้านพูดว่าต้องมีมาตรการเฉพาะหน้าวิ่งหาเงิน อ้าว เงินไม่เหลือแล้วเพราะต้องเก็บไว้ทำดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงสุ่มเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย ซึ่งการทำผิดกฏหมายในครั้งนี้ ถ้าสามารถทำต่อได้ จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดๆ ในการบริหารจัดการงบประมาณในอนาคต ซึ่งจะสร้างความเสียหาย ที่เราประเมินไม่ได้ สิ่งที่จะเสียอีกก็คือเอื้อการค้ารายใหญ่ กีกกันรายย่อยโดยไม่รู้ตัว และเสียโอกาสที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับประชาชน เพราะว่าเราจะต้องกั๊กเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อทำโครงการนี้ในตอนปลายปี และอีกหลายโอกาสที่ต้องเสียไป ภาระที่ต้องเกิดขึ้นต่อจากนี้ ไม่ได้จบในงบประมาณปี 67 และ 68 แต่จะตามไปในปี 69 และ 70 ต่อไป และจะทำให้พื้นที่ที่จะมีงบประมาณในการพัฒนาประเทศต่างๆ ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ นี่จะเป็นกระสุนนัดใหญ่ นัดแรก นัดเดียว และนัดสุดท้ายของรัฐบาล ที่จะได้มีโครงการขนาดใหญ่ขนาดนี้“ น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ขอส่งความห่วงใยไปยังพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายครั้งนี้หรือไม่ ขอให้สส. ฝ่ายรัฐบาลช่วยกันคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำ ปี 67 ฉบับนี้.-315 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]