“ศิริกัญญา” ชี้ รัฐบาลขอกู้เพิ่มจนเต็มเพดาน จัดงบขาดดุลสูงเป็นประวัติการณ์

รัฐสภา 17 ก.ค.- “ศิริกัญญา” ชี้ รัฐบาลขอกู้เพิ่ม อีก 1.12 แสนล้านบาท จนเต็มเพดาน และจัดงบขาดดุลสูงเป็นประวัติการณ์ เดินหน้าโครงการเพื่อรักษาหน้า ตามที่หาเสียงไว้ ชี้ สุ่มเสี่ยงผิด กม. ห่วงพรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด-ขอคว่ำร่าง กม.นี้


นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ​ 2567 จำนวนไม่เกิน 1.22 แสนล้านบาท ว่า งบประมาณ ปี 67 ที่รัฐบาลกำลังจะมาขอสภา กู้เพิ่ม 112,000 ล้านบาท และหารายได้อื่นอีก 10,000 ล้านบาท มองว่า เป็นเรื่องดีดีแล้วที่ไม่ได้ใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธ.ก.ส. เพราะได้ท้วงติงมาโดยตลอดว่า ผิดวัตถุประสงค์ตาม พ.ร.บ.ของ ธ.ก.ส. เองและ สภาพคล่องคงไม่เพียงพอ ซึ่งสุดท้าย วงเงินงบได้ลดลง 450,000 ล้านบาท

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลจะกู้เพิ่มอีก 1.12 แสนล้านบาท ทำให้งบปี 67 มีการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 805,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งไม่ค่อยตั้งงบประมาณให้ขาดดุลสูงขนาดนี้ ถือเป็นการแบ่งงบเรื่อยๆ จะเป็นปัญหาในการเพิ่มหนี้สาธารณะและการชำระหนี้ตามมา อีกทั้งปัญหาเฉพาะหน้าจากการกู้เต็มเพดาน ทำให้เหลือเพดานที่สามารถกู้เพิ่มได้อีกเพียง 10,056 ล้านบาท


“ปัญหาคือ เมื่อหาเงินไม่ทันแบบนี้ ต้องไปดูที่ฝั่งรายได้ว่ารัฐบาลจะสามารถที่จะมีงบประมาณเหลือเพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงในการจัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้าหรือไม่” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ทั้งนี้ ทำให้งบประมาณ ปี 67 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาท สุดท้ายอาจใช้ได้ไม่ครบทั้งหมด เพราะรายได้ไม่เข้าเป้า และกู้โปะได้ไม่เพียงพอ สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ไม่ได้สนใจว่า ประเทศจะมาอยู่ในภาวะความเสี่ยงแบบนี้ เพียงเพื่อที่จะได้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ต้องกู้จนสุดเพดานอย่างนี้

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ในช่วง 8 เดือนของปีนี้ จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการแล้ว 26,238 ล้านบาท เมื่อดูจากกรรมสรรสามิต จัดเก็บรายได้ 9 เดือน ต่ำกว่าเป้าแล้ว 58,000 ล้านบาท ซึ่งจากสถานการณ์แบบนี้ที่ยังไม่รู้จะมีรายได้เพียงพอใช้สำหรับปี 67 หรือไม่ ก็ยังมาขอกู้สภาเต็มเพดาน ไม่เหลือพื้นที่ให้บริหารความเสี่ยงใดๆเลย


นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า สำหรับงบกลางที่ขออนุมัติจากสภาไว้ 1 แสนล้านบาท ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มีการอนุมัติงบไปเพียง 17,991.43 ล้านบาท ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีการมองกันว่า เศรษฐกิจยังแย่ แต่กลับไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาช่วยเหลือประชาชน และมองว่า น่าจะเป็นการกั๊กเงินไว้มาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 43,000 ล้านบาทในช่วงปลายปี

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การนำงบกลางปี ไปใช้ช่วงปลายปีไม่น่าสามารถทำได้ เพราะตามมาตรา 21 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ระบุว่า “การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมต้องใช้จ่ายระหว่างปีงบประมาณ” ซึ่งจะไปใช้ข้ามปีคงไม่ได้ และถือเป็นการผิดพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง

นอกจากนี้ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า อีก 15 วันจะมีการลงทะเบียนโครงการ แต่ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ ยังคงใส่ไว้ในงบกลาง และระบบลงทะเบียนเพิ่งชนะการประมูลมา 2 บริษัท และระบบชำระเงินยังไม่ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงยังไม่มีมาตรการสร้างแรงจูงใจร้านค้ารายเล็ก รายย่อย ให้เข้าร่วมโครงการได้ เพราะระบบที่ออกแบบมา เอื้อให้ร้านค้าที่มีสายป่านยาว

“การลงทุนไม่รู้ว่าจะเป็นเท่าไหร่ ตีไว้ 5 แสนล้านบาท ที่ลงทุนไปจะได้อะไรได้รักษาหน้า ว่าได้ทำตามที่ได้หาเสียงไว้แล้ว ถึงแม้ว่านโยบาย จะไม่ได้เหมือนตอนที่หาเสียงไว้ตั้งแต่ต้น ได้เพิ่มจีดีพี เต็มที่ 350,000 ล้านบาท ซึ่งลงทุน 500,000 ล้าน ได้คืน 350,000 ล้าน แบบนี้เรียกว่าคุ้มหรือไม่ แล้วสิ่งที่จะเสียคือ การเพิ่มความเสี่ยงการคลังให้กับประเทศ ตอนนี้ไม่มีปัญญาจะรับมือกับสถานการณ์ใดที่ฉุกเฉินเข้ามา แค่ฝ่ายค้านพูดว่าต้องมีมาตรการเฉพาะหน้าวิ่งหาเงิน อ้าว เงินไม่เหลือแล้วเพราะต้องเก็บไว้ทำดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงสุ่มเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย ซึ่งการทำผิดกฏหมายในครั้งนี้ ถ้าสามารถทำต่อได้ จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดๆ ในการบริหารจัดการงบประมาณในอนาคต ซึ่งจะสร้างความเสียหาย ที่เราประเมินไม่ได้ สิ่งที่จะเสียอีกก็คือเอื้อการค้ารายใหญ่ กีกกันรายย่อยโดยไม่รู้ตัว และเสียโอกาสที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับประชาชน เพราะว่าเราจะต้องกั๊กเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อทำโครงการนี้ในตอนปลายปี และอีกหลายโอกาสที่ต้องเสียไป ภาระที่ต้องเกิดขึ้นต่อจากนี้ ไม่ได้จบในงบประมาณปี 67 และ 68 แต่จะตามไปในปี 69 และ 70 ต่อไป และจะทำให้พื้นที่ที่จะมีงบประมาณในการพัฒนาประเทศต่างๆ ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ นี่จะเป็นกระสุนนัดใหญ่ นัดแรก นัดเดียว และนัดสุดท้ายของรัฐบาล ที่จะได้มีโครงการขนาดใหญ่ขนาดนี้“ น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ขอส่งความห่วงใยไปยังพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายครั้งนี้หรือไม่ ขอให้สส. ฝ่ายรัฐบาลช่วยกันคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำ ปี 67 ฉบับนี้.-315 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย