นครราชสีมา 2 ก.ค. – นายกรัฐมนตรี ชมการแสดงวงดนตรีโปงลาง “ซอฟต์พาวเวอร์อีสาน” นักเรียนกรี๊ดสนั่นโรงละคร ขอถ่ายรูป บอกมาโคราชครั้งที่ 4 หลังเข้าวงการการเมือง โคราชมีศักยภาพสูง มี รมต.ในรัฐบาลถึง 2 คน พร้อมดันศักยภาพเมืองไมซ์ เป็นศูนย์กลางธุรกิจ-ความเจริญ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทาง ติดตามการขับเคลื่อน MICE CITY เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้พบกับเด็กนักเรียนในพื้นที่อำเภอเมือง ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดจากนักเรียนที่มารอต้อนรับ พร้อมขอนายกรัฐมนตรี ถ่ายรูปเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานราชการและประชาชน มารอต้อนรับ ผูกผ้าขาวม้า และมอบพวงมาลัย รวมไปถึงมอบธงชัยชนะ ท้าวสุรนารี พร้อมรูปหล่อจำลอง ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีการแสดงกลองยาวแห่รับ
จากนั้นเยาวชนที่แสดงเป็นหนุมานและนางสุวรรณมัจฉาได้พานายกรัฐมนตรี และคณะเยี่ยมชมโรงละคร เพื่อรับชมการแสดงวงดนตรีดรุยางค์เครื่องลม การแสดงวงโปงลางวงหลานย่าโม การแสดงพื้นบ้าน ”ซอฟต์พาวเวอร์อีสาน” จากนักเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์นครราชสีมา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
จากนั้น นายกรัฐมนตรี รับฟังการบรรยาย 10 โมงไมซ์ซิตี้ เมืองไมซ์มรดกโลกศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาถือเป็น 1 ใน 10 ของเมืองไมซ์ระดับภูมิภาค มีความสะดวกในการเดินทาง มีการลงทุนเรื่องที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่จัดงาน ทั้งของภาครัฐและเอชน นอกจากนี้จังหวัดนครราชสีมาไม่มีภัยพิบัติ หรือมีน้อย จึงมีความเหมาะสมในการเป็นเมืองไมซ์
โดยมีการขอสนับสนุน การก่อสร้างอาคารและห้องฝึกการซ้อมแสดงและห้องฝึกทักษะเฉพาะด้านดนตรีและนาฏศิลป์ โครงการส่งเสริมความสะดวกในการเดินทางเข้าเมืองและสถานที่จัดงาน รวมไปถึงจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรด้าน MICE และงาน Expo
นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ในการเดินทางมาจังหวัดนครราชสีมา หลังจากที่เดินเข้าสู่วงการการเมือง เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีศักยภาพสูงมาก มีจำนวน สส. ถึง 16 คน เยอะเป็นที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ ภายใต้การนำของนายประเสริฐ จันทรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนางสาวสุดาวรรณ วังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีคนโคราชเป็นรัฐมนตรี 2 คนในคณะรัฐบาลนี้ ซึ่งเรื่องของการขับเคลื่อนจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นศูนย์กลางของธุรกิจและความเจริญ เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลเรา ซึ่งมีการผลักดันในเรื่องนี้มีการพัฒนาเรื่องการคมนาคมและเสริมสร้างวัฒนธรรม และการกีฬาการท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางทางด้านอาหาร และศูนย์กลางทางด้านการประชุม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญเนื่องจากระยะทางจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก มีสนามบินอยู่แล้ว แม้ว่าสนามบินจะอยู่ไกล โดยตนพยายามที่จะเจรจากับกองทัพอากาศอาจจะใช้การขอใช้สนามบินเพื่อให้เครื่องบินพาณิชย์เข้ามาได้ เพื่อให้ทุกภูมิภาคทำได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งจาก International Fight ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะเป็นศูนย์กลางเมืองไมซ์
นอกจากนี้มีอีกหลายเรื่องที่ศึกษาซึ่งน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี อย่างเช่นการขนถ่ายสินค้าเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึก รวมไปถึงสนามบินอู่ตะเภา
นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้เห็นถึงวัฒนธรรมต่างๆของจังหวัดนครราชสีมาซึ่งตนมั่นใจว่า สามารถพัฒนาไปสู่สายตาชาวโลกได้อย่างแน่นอน แต่เมื่อทุกอย่างมารวมกันแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด คือการมีศูนย์กลางการประชุม ซึ่งทางจังหวัดได้มีการกันพื้นที่ไว้แล้ว ขนาด 40,000 ตารางเมตร รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนให้มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง และมอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ไปพัฒนาให้เกิดเป็นรูปประธรรมมากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดการการประชุมโดยตนหมายให้ทางTCEB ไปพิจารณาและดูแลตรงนี้เพื่อที่จะให้เกิดเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น.-316-สำนักข่าวไทย
