“สิริลภัส” วอนรัฐบาล เพิ่มงบช่วยเหลือผู้ป่วยสุขภาพจิต

รัฐสภา 20 มิ.ย.-“สิริลภัส” สส.ก้าวไกล วอนรัฐบาล เพิ่มงบจัดสรรโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยสุขภาพจิต ก่อนจะสายไป พร้อมยกตัวอย่าง โครงการ 2 ประเภทที่ไม่ควรตัดงบ และเพิ่มการเข้าถึงบริการ เพิ่มการตระหนักรู้ เพิ่มความรู้ความเข้าใจเรื่องสุขภาพจิตให้ประชาชน

ในการประชุมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 นางสาวสิริลภัส กองตระการ สส.กรุงเทพพรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายในหัวข้อ “การจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตให้กับประชาชน” ระบุว่า ปัจจุบันปัญหาสุขภาพจิตของคนไทย เปรียบเสมือนภูเขาไฟที่รอวันระเบิด ทำลายระบบนิเวศ เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ


ซึ่งโจทย์การแก้ไขสุขภาพจิตทุกช่วงวัย แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือระยะสั้น การแก้ไขสุขภาพทุกช่วงวัยยังเร่งด่วน ระยะกลาง คือกระบวนการการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ระยะยาว คือ ทำให้ประชาชนเข้าสู่สังคมสุขภาพจิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ส่วนรายงานสถิติความรุนแรงในครอบครัว มากถึง 2,778 ราย จาก 4,127 ราย ซึ่งเกิดขึ้นในเด็ก ถึง 995 ราย และ 2 ใน 5 ผู้เป็นมารดา เชื่อว่าการทำโทษบุตรเป็นสิ่งที่จำเป็น ทั้งยังพบว่า เด็กอายุ 3-4 ขวบ ได้รับการอบรมด้วยวิธีการใช้ความรุนแรง และอาจทำให้เด็กเหล่านั้นกลายเป็นผู้ป่วยจิตเภท ไม่สามารถเข้าสังคมได้ ไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น และเป็น 1 ในปัจจัยทำให้เด็กเหล่านั้นโตขึ้นมาเป็นอาชญากร หากไม่ได้รับการบำบัดรักษา จะส่งผลกระทบในวันต่อมา คือ ช่วงของวัยรุ่น และวัยเรียน


ทั้งยังพบว่า วัยรุ่นจำนวนกว่า 1 แสนราย เสียงเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่า 1 หมื่นราย และเสี่ยงฆ่าตัวตายเกือบ 2 หมื่นราย นอกจากปมการเลี้ยงดูวัยเด็กที่สร้างแผลทางใจ ยังมีอีก 1 ปัจจัยที่ต้องเผชิญ คือ การถูกกลั่นแกล้ง รังแกกันในโรงเรียน และในสังคมออนไลน์ ซึ่งเด็กเหล่านั้นเสี่ยงเจอปัญหาสุขภาพจิต ภาวะเครียด ซึมเศร้า มีปัญหาต่อการเข้าสังคม และมีโอกาสทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายตัวเอง ถึงการฆ่าตัวตาย

ส่วนการบูลลี่ระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา บนโลกโซเชียลมีเดีย มีมากถึง 176,822 ข้อความ ส่วนวัยทำงาน พบว่าวัยทำงานก็ว่า 1 ล้านคน เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้ากว่า 60,000 คน มีภาวะหมดไฟมากถึง 50,000 คน และมีความเครียดสูงกว่า 50,000 คน เป็น ขณะเเดียวกัน บนโซเชียลฯ ระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา มีคำที่พูดว่า ภาระงานหนัก ความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคซึมเศร้ากว่า 9 หมื่นข้อความ มียอดการเข้าถึงเป็น 10 ล้านครั้ง

ยกตัวอย่าง อาชีพตำรวจ ทหาร ที่มีเรื่องความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา การใช้อำนาจในองค์กร กดขี่นายทหาร-ตำรวจชั้นผู้น้อย รวมทั้งรายได้หนี้สิน ส่งผลการฆ่าตัวตายของตำรวจมากกว่าประชาชนทั่วไป ถึง 3 เท่า เนื่องจากอาชีพดังกล่าว เข้าถึงอาวุธได้มากกว่าคนทั่วไป และอาจส่งผลให้ก่อเหตุความรุนแรงขึ้นได้ เป็นต้น


ส่วนปัญหาสุขภาพจิต ในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้สูงวัย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยผู้สูงวัยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเต็มรูปแบบ ความโดดเดี่ยว โรคประจำตัว รัฐจะดูแลผู้สูงวัยเหล่านี้ให้ดีได้อย่างไร ทั้งกายและใจ ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าปัญหาสุขภาพจิตขอวคนไทย เป็นปัญหาที่ไม่สามารถรอได้ และควรแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ปี 67 นี้ กรมสุขภาพจิต ได้รับการจัดสรรงบประมาณแทบไม่ต่างจากปี 66 ขอไป 4,000 กว่าล้าน แต่ได้รับจัดสรรมา 3,036 ล้านบาท คิดเป็น 1.8 เปอร์เซ็นต์ จากงบกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ มีหลายโครงการได้รับงบน้อยกว่าปีที่แล้ว ทั้งทําเป็นโครงการเข้าไปแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตในแต่ละช่วงวัยให้เข้าถึงจำนวนกลุ่มเป้าหมายตามที่กรมได้คำนวนไว้ เช่น โครงการพัฒนาเด็กประถมวัย มีกลุ่มเป้าหมาย 26,000 คน ของบไป 31 ล้านบาท แต่โดนตัดเหลือ 11 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยต่อหัว 1,000 กว่าบาท เหลือเพียง คนละ 400 กว่าบาทเท่านั้น

ปัจจุบัน กรมสุขภาพจิต ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า คนไทยที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต สูงถึง 10 ล้าน มีเพียง 3 ล้านเท่านั้นที่เข้ารับการรักษาในระบบสาธารณะสุข แต่กลับกัน ตนแนะนำให้รัฐควรพิจารณา เพิ่มงบประมาณการผลิตบุคลากรให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยต้องรอคิวยืดยาว หรือคนไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ ดังนั้น ควรวางแผนในด้านอื่นเพิ่มเติมเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิต อาทิ เพิ่มการเข้าถึงบริการ เพิ่มการตระหนักรู้ เพิ่มความรู้ความเข้าใจเรื่องสุขภาพจิตให้ประชาชน ตามที่กรมสุขภาพจิตตั้งเป้าไว้ แต่ติดที่โครงการดังกล่าว ได้รับงบไม่เพียงพอตามคำขอ

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหา และสะท้อนผ่านมายังการจัดสรรงบประมาณที่เพิ่มมากขึ้น จะสามารถพัฒนาทรัพยากรทั้งคนและของให้เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ตนขอเสนอให้รัฐบาล พิจารณาการจัดสรงบประมาณ โดยแบ่งโครงการออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.โครงการที่ควรให้งบเต็มจำนวนตามคำขอ ที่มีกลุ่มเป้าหมายตามเป้าดังกล่าว รวมทั้งโครงการขยายผลที่จะช่วยยกระดับสุขภาพจิตให้ประชาชน 2.โครงการใหม่ที่ควรได้งบเพิ่ม อย่าง โครงการส่งเสริมสุขภาพจิต เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารในพระราชดำรัสพระกนิษฐาธิราชเจ้า ที่ควรได้รับงบเต็ม แต่กลับได้ไม่ครบตามคำขอ

นางสาวสิริลภัส กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ไขตอนนี้ หรือจะรอให้ปัญหาสุขภาพจิตของคนไทยเป็นภูเขาไฟที่ระเบิดออกมาทำลายทุกอย่างก่อน หากถึงวันนั้นจริง ท่านอาจไม่สามารถรักษา หรือคว้ามือใครขึ้นมาได้อีกเลย.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือนายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข