“อนุทิน” เผยญาติ “ชาดา” มีเป็นร้อยเป็นพัน

ทำเนียบรัฐบาล 11 มิ.ย.-“อนุทิน” เผยญาติ “ชาดา” มีเป็นร้อยเป็นพัน ขออย่านับกรณี ถูกจับคาโรงแรมดัง ฐานพกอาวุธ-ยาเสพติด ชี้ ทำตามสัญญาประชาชนแล้ว เรื่องปลดล็อกกัญชา จากนี้ ขอให้เป็นหน้าที่ของ รมต.สาธารณสุข ไม่ก้าวก่าย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมนายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ หลานชายของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กลางโรงแรมหรู พร้อมยึดยาเสพติดและอาวุธปืนรวมทั้งเครื่องกระสุนปืน ว่า อย่าไปนับกันแบบนั้น ส่วนตัวได้อ่านข่าวแล้วมีบางสื่อ ไม่สงวนนามสกุลแล้วอ้างว่าบุคคลดังกล่าวเป็นน้องชายของนายชาดา ตนก็ไม่เข้าใจ เพราะว่าเป็นคนละคนกัน และนายชาดามีญาติเป็นร้อยเป็นพัน ส่วนเรื่องใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด ว่าไปตามกฎหมายไม่มีการช่วยเหลือ ขณะนี้นายชาดา ไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย วอนอย่าไปทำให้นายชาดา กังวลใจ ในชีวิตของนายชาดาไม่เคยพูดถึงบุคคลนี้ นายชาดาเติบโตมาได้เป็นเพราะสองคนเท่านั้นคือตัวของนายชาดาและ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ เพียงเท่านั้น

ส่วนกรณีของศาลฎีกาพิพากษายื่นจำคุก 3 อดีต สส.พรรคภูมิใจไทย คนละ 9 เดือนโดยไม่รอลงอาญา กรณีเสียบบัตรแทนกันเรื่องประชุมร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 2563 นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรียบร้อย เป็นไปตามนั้น บ้านเมืองมีกฎหมายต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายกรณีนี้ทำให้เห็นว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้ของกฎหมาย สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าการที่ตนได้ลงพื้นที่ปราบยาเสพติด ปราบผู้มีอิทธิพล จับกุมผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ก็ทำให้ชัดเจนว่าทั้งหมดนี้ไม่มีใครมาเคลียร์หรือเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครได้

ส่วนกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เรื่องจัดการปัญหาเรื่องกฎหมาย ควบคุมกัญชาที่จะมีการเปิดสำรวจความคิดเห็นแล้วถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาหาทางออกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วันนี้เราไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และที่ผ่านมาได้ทำตามสัญญากับที่ให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว ในฐานะที่เป็นกรรมการของ กระทรวงมหาดไทย ยืนยันในแนวทางเดิมของตนหรือ พรรคภูมิใจไทยไม่เปลี่ยนแปลง

โดยผู้สื่อข่าวถามว่านายอนุทิน ได้มีการพูดคุยกับนายสมศักดิ์ ถึงเรื่องแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยแต่สื่อไปเผยแพร่กันเองเพราะคนละกระทรวงกันอยู่แล้วแล้วตาม มารยาทก็คนละพรรคกันด้วย .317 .-สำนักข่าวไทย