“พิธา” มั่นใจไม่มีข้อกฎหมายใดเอาผิด “44 สส.ลงชื่อแก้ ม.112”

กรุงเทพฯ 9 มิ.ย. – “พิธา” มั่นใจไม่มีข้อกฎหมายใดเอาผิด “44 สส. ลงชื่อแก้ ม.112” ได้ บอกรู้ทัน มีบางพรรคอยากได้ลูกพรรคก้าวไกลไปเพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ชี้ กกต. ยื่นคำร้องศาล รธน. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มองสัดส่วนความผิด แค่เตือนให้หยุดการกระทำก็เพียงพอแล้ว ไม่ควรลากถึง กก.บห.ชุด 3


ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงแนวทางการต่อสู้ของพรรคก้าวไกลในคดีล้มล้างการปกครอง 9 ข้อ ถึงความมั่นใจในข้อต่อสู้ว่า 44 สส. ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะไม่ถูกพิจารณาทั้งหมด หรือถูกพิจารณาเป็นรายกรณี ว่ามั่นใจทุกข้อเท่ากัน เพราะทุกข้อเหมือนเป็นด่านและบันไดที่จะใช้ต่อสู้ ตั้งแต่ขอบเขตอำนาจของศาล ไปจนถึงสัดส่วนการได้โทษของกรรมการบริหารพรรค

แต่เรายังเชื่อว่าเจตนาและการกระทำของ สส. ในการเข้าชื่อแก้ไขกฎหมาย ไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครอง และไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ รวมถึงการกระทำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเป็นนายประกัน การที่มีสมาชิกและ สส. ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีความผิดมาตรา 112 การแสดงออกเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมาย มาตรา 112 ก็ถือเป็นการกระทำทั่วไป การกระทำทุกอย่างเป็นเรื่องรายบุคคลที่ถูกขยุมรวมกัน ไม่ได้มาจากมติพรรค ไม่ได้เป็นเรื่องนิติบุคคล แต่เป็นเรื่องปัจเจก ไม่ได้มีความเห็นที่ออกมาจากกรรมการบริหารพรรค ย้ำว่าต้องแยกความแตกต่างระหว่างบุคคลธรรมดากับนิติบุคคล


สิ่งเดียวที่มีการออกมาตามมติของพรรค คือ การบรรจุเป็นนโยบายหาเสียง แต่ก็ไม่เป็นปฏิปักษ์ เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เอง ก็อนุญาต ไม่ต้องถึงใช้ระดับวิญญูชน หรือระดับเดียวกับตอนที่ใช้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ และไม่ได้มีจดหมายเตือน และจดคำถามที่มาของนโยบายอย่างที่พรรคอื่นโดน

นายพิธา ยืนยันว่า ไม่ได้มีทั้งเจตนา และไม่มีข้อกฎหมายที่สามารถเอาผิดทั้ง 44 คน ในการเข้าชื่อแก้ไขกฎหมายที่ไม่ได้เข้าสภาฯ เพราะฉะนั้นไม่ได้มีความเร่งด่วนอะไรที่จะใช้มาตรการที่รุนแรง

ส่วนกรณีที่ระบุว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการพิจารณานั้น เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 ระบุไว้ชัดเจนถึงอำนาจหน้าที่เฉพาะแค่ 3 ข้อ ไม่เหมือนกับศาลธรรมดาทั่วไป ยกเว้นหากกรณีที่ไม่มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ก็ให้ไปใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่เป็นบ่อเกิดให้มีอำนาจหน้าที่เกินจากนั้น ก็ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการยุบพรรค มีอำนาจในการตัดสิทธิ มีอำนาจในการกำหนดระยะเวลาในการแบนนักการเมือง เป็นต้น


เมื่อถามว่าอะไรคือการหลักฐานหรือข้อหักล้างที่สามารถพิสูจน์ว่าพรรคไม่มีเจตนาตั้งแต่ต้นในการล้มล้างการปกครอง นายพิธา กล่าวว่า 9 ข้อที่กล่าวไปมีน้ำหนักเท่าเทียมกันในการต่อสู้ ส่วนเจตนา เราพยายามพิสูจน์และพูดมาอย่างคงเส้นคงวาว่าเรายังมีความรู้สึก การรักษาพระราชทาน พระราชอำนาจ และเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านให้อยู่สูงกว่าการเมือง ไม่ได้ทำให้ระยะห่างกับประชาชนห่างขึ้น และไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการทำลายล้างซึ่งกันและกัน

ส่วนการคาดการณ์ไทม์ไลน์วันวินิจฉัยคดี นายพิธา กล่าวว่า คงต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ตนคู่กรณีคงไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ หากศาลเห็นด้วยว่าคดีสองคดีไม่มีความผูกพันกัน ก็ควรจะเปิดโอกาสให้มีการไต่สวนและเตรียมพยาน ซึ่งพรรคก้าวไกลได้มีการเตรียมการผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ไว้มากกว่า 10 คน แต่เปิดเผยไม่ได้ และถ้าศาลเห็นว่าการพิจารณาในคดีนี้ มีข้อหาและโทษหนัก ต้องใช้มาตรฐานที่เข้มข้นกว่าคดีที่แล้ว ก็น่าจะให้เวลาและอนุญาตให้มีการไต่สวนสืบพยานได้ ซึ่งคงจะต้องใช้เวลาพอสมควรให้สิ้นกระแสสงสัย

ทั้งนี้ ในคำร้องระบุถึงระยะเวลาในการถูกตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้ง 3 ชุดของพรรคก้าวไกล ซึ่งตนคิดว่าสัดส่วนของโทษและเวลาที่ถูกกล่าวหาควรจะต้องสอดคล้องกัน ดังนั้น ไม่ควรจะลากไปถึงกรรมการบริหารพรรคชุดที่ 3 ซึ่งเกิดมาเพียงแค่ 6 เดือน

ส่วนหากเกิดการยุบพรรคจะส่งผลอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า “มันจะเป็นการยุบ 2 พรรคใน 5 ปี และเป็นการยุบ 5 ครั้ง ในรอบ 20 ปี ตนก็ไม่กล้าที่จะเดา หรือคิดว่ามันจะเกิดผลกระทบอะไรกับเมืองไทย หรือการเมืองไทย ทั้งที่เศรษฐกิจ การเมือง และสังคมไทยเปราะบางขนาดนี้ ก็ไม่อยากให้ไปถึงตรงจุดนั้น”

นายพิธา ยังมองว่าการรักษาระบอบประชาธิปไตย และระบบพรรคการเมืองที่มีคุณค่าและมีความสำคัญ เป็นตัวแทนเป็นปากเป็นเสียงของพี่น้องประชาชน ถ้าไม่ถึงที่สุด ไม่รุนแรง ไม่ฉับพลัน ถึงขนาดที่ไม่มีวิธีแก้ไข ตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ในคดี 3/2567 คือการเตือนให้หยุดการกระทำ น่าจะได้สัดส่วนเพียงพอแล้ว ไม่ถึงกับต้องยุบพรรค ไม่จำเป็นต้องตัดสิทธิทางการเมือง แต่คงมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นประเทศ ระบอบประชาธิปไตย และพรรคการเมือง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยจนไม่ปกติ

นายพิธา ย้ำว่า ทั้ง 44 คน มีเจตนาดี เขาอาจจะไม่สมบูรณ์กันทุกคน แต่ถือว่าเป็นทรัพยากรทางการเมือง อาจจะทำผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่แน่นอนว่ายังมีความพยายาม ถือว่าเป็นเลือดใหม่ทางการเมือง ส่วนแผ่นสำรอง หากถูกยุบพรรคนั้น นายพิธา ย้ำว่า เราเตรียมการต่อสู้คดีเป็นหลัก แต่แน่นอนว่าต้องเตรียมตัวในทุกสถานการณ์

ส่วนความเชื่อมั่นในสมาชิกพรรคว่าหากเกิดการยุบพรรค สส.ของพรรคจะไม่ย้ายไปพรรคอื่นใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า แน่นอน ยังรู้สึกว่าการทำงานของพรรค ทั้งกระแสและเวลาที่อยู่ร่วมกัน มีความเป็นเอกภาพ มีความเป็นปึกแผ่น รวมถึงปัจจัยภายนอกอย่างประสบการณ์ร่วมกันในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เท่ากับการเป็นงูเห่าคือการฆ่าตัวตายทางการเมือง 100% ไม่มีสิทธิที่จะกลับมาเป็น สส. ได้เลย ไม่ประมาท แต่ก็ไม่กังวล เพราะมีบทเรียนมาทั้งภายนอกและภายใน

ขณะเดียวกันเราต้องฟัง แต่ยังไม่เชื่อถึงสิ่งต่างๆ หรือข้อมูลที่เข้ามา ต้องมีการตรวจสอบ “ตนก็ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดที่ไม่รู้ว่าอาจจะมีพรรคบางพรรคที่อยากได้โควตา สส. เพิ่ม ไปต่อรองรัฐมนตรี เรื่องพวกนี้ตนรู้ทันอยู่ แต่ยังมั่นใจในตัว สส. ของตัวเอง และไม่ได้หูเบาขนาดที่จะเห็นแล้วรู้สึกว่าเกิดความลำเอียงหรืออคติต่อ สส.คนนั้น ต้องให้โอกาสลูกพรรคตัวเองในการสันนิษฐานให้บริสุทธิ์ไว้ก่อน เชื่อในระบบและอุดมการณ์ของพวกเขา”.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น