ญี่ปุ่น 23 พ.ค.-นายกฯ หารือ 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น ดึงลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทย ชวนบริษัท Sony จัดทัวร์นาเมน E-Sports เตรียมลงนามตั้งฐานผลิตเชื้อเพลิงจากซากอ้อยร่วมกับ Mitsui หวังช่วยลด PM 2.5 ญี่ปุ่น
วันนี้ (23 พ.ค.) เวลา 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว ซึ่งเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการพบหารือกับบริษัทเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่น 5 ราย ได้แก่ บริษัท Mitsui & Co., Ltd. บริษัท Ajinomoto บริษัท Sony Group Corporation บริษัท MUFG & Softbank และบริษัท Nidec Coper ที่ห้อง Sky Room ชั้น 24 โรงแรม The Peninsula Tokyo
โดยนายกฯ ระบุว่า บริษัทแรกได้พบกับบริษัท Mitsui ซึ่งมีความคืบหน้าจากการหารือรอบที่แล้ว ช่วงเดือนธันวาคม 2566 ที่ประเทศญี่ปุ่น และมีความคืบหน้าในการเตรียมลงนาม MOU อาจจะมีการตั้งฐานการผลิตเชื้อเพลิงพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน หรือ SAF ที่ใช้ในเครื่องบินที่เมืองไทย ซึ่งทำมาจากซากพืชที่เหลือใช้จากภาคเกษตรกร เช่น ซากอ้อย เชื่อว่าเรื่องนี้จะสามารถลด PM 2.5 ได้อย่างดี โดยต้องมีการทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นก่อน
นอกจากนี้กลุ่มบริษัท Mitsui ยังทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการขุดเจาะหาน้ำมัน ซึ่งเราก็มีการหารือในเรื่องของปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา (OCA) ที่มีความคืบหน้าโดยสัปดาห์หน้าจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อเดินหน้าต่อ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เราเพิ่งทราบว่า บริษัท Mitsui มีโรงงานบรรจุภัณฑ์ในมาเลเซีย จึงเชิญชวนให้มาที่ประเทศไทยด้วย ซึ่งบริษัทกำลังพิจารณา นอกจากนี้บริษัท Mitsui ยังมีบริษัทในเครืออีกหลายบริษัท โดยทุกเดือนผู้บริหารบริษัทในเครือจะมีการพูดคุยหารือกัน ตนจึงฝากข้อความไปว่า ให้มั่นใจว่าประเทศไทยเปิดแล้ว ไม่มีเวลาไหนเหมาะสมในการลงทุนเท่าเวลานี้
ขณะที่บริษัทที่ 2 ได้หารือกับบริษัท Ajinomoto ซึ่งอยู่ในเมืองไทยมานาน จะมีการขยายโครงการในอนาคตอีกกว่า 10 โครงการ มีมูลค่าประมาณ 4,400 ล้านบาท
ต่อมาได้พูดคุยกับ บริษัท Sony Group Corporation ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่ผลิตเทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงภาพยนตร์ จึงอยากเชื้อเชิญในมาตั้งสาขาในภูมิภาคที่ประเทศไทย เพราะโรงงานของบริษัท Sony ไม่ได้ขายในประเทศเพียงอย่างเดียว ยังมีการส่งออกไปทั่วโลกด้วย ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำในเรื่องของการทำ FTA ที่รัฐบาลกำลังจะมีการลงนามร่วมกันเร็วๆ นี้ในหลายประเทศ จึงได้ให้ความมั่นใจในเรื่องนี้ไป หลังรัฐบาลพยายามลงนาม FTA กับสหภาพยุโรป (EU) ภายในสิ้นปีหน้า
นอกจากนี้ ตนได้เชิญบริษัท Sony เข้ามาจัดทัวร์นาเมน E-Sports ที่ประเทศไทย ซึ่งจะสอดคล้องในเรื่องของการท่องเที่ยว และเฟสติวัล
ส่วนการหารือกับบริษัททางการเงิน 2 บริษัท คือ MUFG & Softbank และ Nidec Coper เป็นบริษัทที่ลงทุนในประเทศจีน และอยากย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทย เชื่อว่าประเทศไทยของเรามีการส่งเสริมการลงทุนที่แข็งแกร่ง บวกกับความเป็นกลางทางการเมือง จึงเป็นจุดดึงดูดที่ทำให้บริษัทต่างชาติอยากย้ายฐานการผลิตเข้ามา ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และมีความต้องการที่อยากให้เข้ามาทำ Start-up จึงอยากให้ประเทศไทยเป็นฐานในการปลุกปั้นให้แข็งแกร่งขึ้นมาได้ ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัท Nidec Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตการส่งออกอุตสาหกรรมไฮเทค โดยเฉพาะมอเตอร์ที่ใช้ในรถยนต์ EV และโดรน และจะมีการลงทุนในปีนี้อีก 1,700 ล้านบาท ถือเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะเจ้าของมาเองและทุกคนก็รักประเทศไทยมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีความต้องการให้ขยายระยะเวลาในการฝึกงานจาก 3 เดือนในนานกว่านั้นเพื่อให้มีความรู้ความสามารถเชิงลึก ต้องกลับไปพิจารณาเรื่องนี้ว่าจะทำให้หรือไม่ และขอร้องให้นักศึกษาปริญญาโทมาศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น แก้ไขปัญหาในอนาคตรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทค.-สำนักข่าวไทย