นายกฯ พร้อมแจงศาล รธน.

ญี่ปุ่น 23 พ.ค.-นายกฯ ขอเวลาศึกษาคำวินิจฉัยศาล รธน. เรื่องธรรมดาเมื่อเข้าสู่วงการเมือง ต้องพร้อมรับตรวจสอบ พร้อมแจง ยืนยันทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ต้องการกำลังใจ เชื่อคนวินิจฉัยจะพิจารณาอย่างดี ปัดมองสว.เล่นเกมหวังต่อรอง  


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยรับคำร้องกรณีการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไว้พิจารณาแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า มีเวลา 15 วัน เมื่อเสร็จภารกิจวันนี้แล้ว จะโทรศัพท์หารือกับฝ่ายกฎหมาย ว่าจะเตรียมคำชี้แจงกับศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร เป็นเรื่องธรรมดาการเข้าสู่การเมือง ต้องตรวจสอบได้ หากฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายตุลาการมีความข้องใจ ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่ต้องชี้แจง

“ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะต้องชี้แจงประเด็นอะไรบ้าง เพราะอยู่ระหว่างการหารือกับภาคเอกชนของญี่ปุ่น แต่ยืนยันว่าเป็นธรรมดาของระบอบประชาธิปไตยที่ต้องรับฟัง และมั่นใจว่าชี้แจงได้ ต้องให้เวลาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ผมไม่อยากกดดันศาล และยังไม่ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำคำชี้แจง เมื่อกลับประเทศไทยไปแล้วจะพิจารณาร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศขณะนี้ ไม่มีผลกระทบกับการเจรจาและการพูดคุยกับนักธุรกิจในวันนี้ เพราะไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องแยกแยะให้ถูก เรื่องปัญหาในประเทศไทยก็ต้องแก้ไขกันไป มีทีมงานที่ช่วยดูแลอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ต้องรับทราบ และให้ความกระจ่างกับสังคม มั่นใจว่าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ต้องดูรายละเอียดคำวินิจฉัยอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร เชื่อว่าคนที่จะทำหน้าที่ตัดสินจะต้องพิจารณาอย่างดี

ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า สว.เล่นเกมต่อรองทางการเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบว่าต้องการต่อรองอะไร และต้องไม่คิดไปในแง่ลบ เพราะ สว.มีหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งมีหลายคนบอกว่า เมื่อ สว.หมดวาระไปแล้วก็ไม่ควรเสนอหรือร้องเรียนอะไรอีก แต่หากกฎหมายให้สิทธิเสนอก็สามารถทำได้ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เพราะกฎหมายระบุเอาไว้อย่างชัดเจน และไม่อยากมองลึกไปถึงการเล่นเกมเพื่อต่อรองอะไร เชื่อว่าทุกคนมีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ และต้องการให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างโปร่งใสชอบธรรม

เมื่อถามย้ำว่า นายกรัฐมนตรีจะพูดอะไรกับคนที่เห็นต่างหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเข้าสู่การเมืองแล้วจะทำให้ทุกอย่างถูกใจทุกคนเป็นไปได้ลำบาก แต่ขอให้มั่นใจรัฐบาลว่ายึดมั่นกับความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเรื่องการตรวจสอบเป็นเรื่องธรรมดา พร้อมชี้แจงทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติหรือไม่ลงมติ องค์กรอิสระเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปโดยชอบธรรม ส่วนจะมีอะไรอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง เป็นหน้าที่ที่ต้องให้ความกระจ่าง อย่าไปมองว่ามีใครอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง  


ส่วนจะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์การเมืองที่พุ่งเป้าที่นายกรัฐมนตรีมากขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องพร้อมตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่ง จนถึงตอนนี้ก็ยังเหมือนกันทุกวัน มีภารกิจที่ต้องทำ มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ แต่ขอยืนยันความตั้งใจจริง และไม่ท้อถอย เป็นธรรมดาที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ทำได้อยู่แล้ว

“สำหรับผมไม่ต้องให้กำลังใจอะไร เพราะผ่านวิกฤติมามากมาย ผ่านการเลือกตั้งที่ชอบธรรมมาแล้ว ตั้งรัฐบาลมาแล้ว 9 เดือน ไม่มีปัญหา ทุกวันมีความหมาย และมีหน้าที่ต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหาที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนตัวหรือเรื่องทางการเมือง ต้องเป็นผู้ใหญ่พอที่จะแบ่งแยกให้ถูก ต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาและชี้แจง ผมไม่ได้ต้องการกำลังใจอะไรเป็นพิเศษ สำหรับคนที่สนับสนุน ขอให้มั่นใจว่าผมทำด้วยความบริสุทธ์ใจ ทุกคนทราบดี ยืนยันว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องตอบทุกข้อสงสัย ไม่อยากให้คิดลึกหรือคิดเป็นอย่างอื่น เพราะอาจจะทำให้ไม่สบายใจได้ เชื่อว่าทุกคนมีความปรารถนาดีกับประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว. -312.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]