“อนุทิน” กำชับ จัดแผนป้องกันแนวทางเข้าระงับอัคคีภัย

กทม. 20 พ.ค.-“อนุทิน” กำชับ จัดแผนป้องกัน แนวทางเข้าระงับอัคคีภัยที่มีประสิทธิภาพ  หลัง บกปภ.ช. พบสถิติเกิดเพลิงไหม้พุ่ง โรงงานใช้สารเคมีอันตรายประสบเหตุมากขึ้น


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสนใจติดตามสถานการณ์การเกิดอัคคีภัย รวมถึงกรณีปัญหาสารเคมีรั่วไหลในโรงงาน ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากข้อมูลของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ระบุถึงข้อมูลการเกิดอัคคีภัย  ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 2 พ.ค. 67  กับช่วงเดียวกันของปี 66 พบว่า ปีนี้มีสถิติการเกิดเหตุสูงขึ้น ทั้งในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน  ขณะที่สถานประกอบการที่มีการใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายในกระบวนการผลิต รวมถึงโกดัง ที่เป็นแหล่งเก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายในหลายพื้นที่ก็เกิดเหตุอัคคีภัยอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากอัคคีภัย และอุบัติภัยที่เกิดจากอัคคีภัยที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ นายอนุทิน ได้มีข้อสั่งการในฐานะผู้บัญชาการ บกปภ.ช. ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้กำชับผู้อำนวยการในแต่ละระดับ และเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ให้สำรวจ ตรวจสอบ พื้นที่ชุมชน สถานประกอบการ อาคาร โกดัง หรือสถานที่ใด รวมถึงวัสดุสิ่งของภายในและโดยรอบที่มีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้โดยง่าย หากพบสภาพมีความไม่ปลอดภัย ให้แจ้งเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น หรือเจ้าของสถานที่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุง แก้ไขให้มีความปลอดภัยโดยเร็ว และขอให้ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงช่องทางการแจ้งเหตุ และขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ระเบียบ กฎหมาย มาตรการในการป้องกันและระงับอัคคีภัย ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัยเมื่อเกิดอัคคีภัย


ในข้อสั่งการของผู้บัญชาการ บกปภ.ช. ระบุว่า เมื่อเกิดอัคคีภัย ให้เร่งดำเนินการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุจังหวัด และให้เป็นไปตามระบบบัญชาการเหตุการณ์  รวมถึงแผนที่เกี่ยวข้องกรณีมีประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุการณ์ได้รับผลกระทบ จำเป็นต้องอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ให้ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการดำรงชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในเรื่องเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และโรงพยาบาลสำหรับรองรับผู้บาดเจ็บ รวมถึงการดูแลสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยโดยเร็ว

นอกจากนี้ นายอนุทิน ได้เน้นย้ำว่า กรณีการเกิดอัคคีภัยขนาดใหญ่ ที่อาจต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์พิเศษ เช่น เพลิงไหม้ชุมชนเป็นบริเวณกว้าง เพลิงไหม้อาคารสูง เพลิงไหม้โรงงานอุตสาหกรรม หรือแหล่งเก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายรวมถึงกรณีที่เหตุอัคคีภัย เป็นเหตุที่มีความเฉพาะด้าน จำเป็นต้องอาศัยหน่วยงานทางเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการ ให้ประสานการปฏิบัติกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางโดยเร่งด่วน เพื่อจะได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนจังหวัดในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหา อัคคีภัยที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเหตุสาธารณภัยผ่านสายด่วนนิรภัย 1784 ไดัตลอด 24 ชั่วโมง หรือผ่าน Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784“.- 317.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”