“วิโรจน์” ย้ำกองทัพเรือไทยไม่ได้ผิดสัญญาเรือดำน้ำ

12 พ.ค. – “วิโรจน์” ย้ำกองทัพเรือไทยไม่ได้ผิดสัญญาเรือดำน้ำ “สุทิน” อย่าไปเจรจากับจีนแบบรับจบ ทำไทยเสียประโยชน์ ชี้ควรยกเลิกสัญญา แล้วเสนองบเข้ามาใหม่พร้อม Offset Policy ถ่ายทอดเทคโนโลยี-พัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ


วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวถึงกรณีที่ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมร่วมหารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ พร้อมเปรยว่าทางการจีนจะส่งเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่เดินทางมาไทยภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อเจรจาหาข้อยุติสุดท้าย

วิโรจน์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนกังวลมากคือ รมว.กลาโหม จะไปดำเนินการเจรจาในแบบที่ประเทศไทยถูกเอาเปรียบ เพราะถ้าหากจำกันได้ในการอภิปรายงบประมาณ 2567 วาระที่ 1 รมว.กลาโหม เคยกล่าวในสภาฯ ไว้ว่าทั้งกองทัพเรือและบริษัท China Shipbuilding & Offshore International (CSOC) ต่างฝ่ายต่างก็เคยผิดสัญญาซึ่งกันและกัน โดยกองทัพเรือก็เคยผิดสัญญาจ่ายเงินล่าช้าในช่วงโควิด-19 ซึ่งประเด็นนี้ได้รับการยืนยันจากสำนักงบประมาณเรียบร้อยแล้วว่า กองทัพเรือจ่ายเงินให้กับ CSOC ตรงตามสัญญาตลอด ไม่เคยผิดสัญญา การที่ รมว.กลาโหมจะไปเจรจาโดยคิดไปเองว่ากองทัพเรือก็เคยผิดสัญญา ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไม่เคยผิดสัญญาเลย ถือเป็นท่าทีที่ใช้ไม่ได้


ถ้าจะมีการผิดสัญญาเกิดขึ้นก็น่าจะเป็น CSOC ที่ผิดสัญญากับกองทัพเรือ เพราะสัญญาระบุเลขรุ่นเครื่องยนต์เอาไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องเป็นรุ่น 16V396SE84-GB31L เท่านั้น ซึ่งจะเป็นยี่ห้ออื่นไปไม่ได้นอกจากเครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดพลังงานไฟฟ้า MTU396 โดยประเด็นนี้สำนักงบประมาณกลาโหมก็เคยมาชี้แจงยืนยันในกรรมาธิการการทหารเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 แล้ว

วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า CSOC จะอ้างว่าการที่ตนจัดซื้อเครื่องยนต์ MTU396 ไม่ได้นั้นเป็นเหตุสุดวิสัย เป็นเหตุผลที่ยอมรับไม่ได้เลย เพราะ MTU396 เป็นเครื่องยนต์ที่สามารถใช้งานได้ทั้งในเชิงพาณิชย์และทางการทหาร (Dual Use) ดังนั้นก่อนที่ CSOC จะทำสัญญาต่อเรือดำน้ำขายให้กับกองทัพเรือประเทศไทย CSOC ควรต้องสอบถามจากทางเยอรมนีก่อนว่าจะขายเครื่องยนต์รุ่นนี้ให้ได้หรือไม่ จะคิดไปเองว่าเคยซื้อเครื่องยนต์ MTU396 มาต่อเรือดำน้ำเพื่อใช้ในประเทศจีนเองแล้ว ถ้าจะซื้อมาต่อเรือดำน้ำขายให้กับประเทศอื่น เยอรมนีก็ต้องยอมขายให้ คิดแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าที่ผ่านมา CSOC ไม่เคยอ้างสัญญาหรือเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรใด ๆ ว่าได้รับความยินยอมจากเยอรมนีว่าจะขายเครื่องยนต์ MTU396 ให้ ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเป็นความหละหลวมของ CSOC เองทั้งสิ้น จะอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้

ต่อมาเมื่อกองทัพเรือทราบว่า CSOC ไม่สามารถจัดหาเครื่องยนต์ MTU396 ได้ จึงได้ทักท้วงไปว่าการจ่ายเงินในงวดที่ 2 ตามสัญญาที่กองทัพเรือได้จ่ายชำระไปแล้ว CSOC จะต้องระบุรายการสั่งซื้ออะไหล่อุปกรณ์ในการประกอบเรือดำน้ำ ซึ่งเครื่องยนต์ MTU396 ก็เป็นหนึ่งในรายการอะไหล่อุปกรณ์ที่ทาง CSOC จัดซื้อ กองทัพเรือจึงได้ทวงถาม CSOC ให้ส่งหลักฐานการสั่งซื้อเครื่องยนต์ MTU396 มาให้แก่กองทัพเรือ และ CSOC ได้ตอบกลับมาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 โดยแนบหลักฐานมาเพียงอีเมล 2 ฉบับ


อีเมลฉบับแรกเป็นรายละเอียดที่ CSOC ขอใบเสนอราคา (Quotation) เครื่องยนต์ MTU396 จากเยอรมนี โดยเป็นอีเมลลงวันที่ 24 ธันวาคม 2561 หลังจากที่กองทัพเรือได้ชำระเงินงวดที่ 2 ให้กับทาง CSOC ไปแล้ว 4 วัน และเป็นการขอใบเสนอราคาหลังจากที่กองทัพเรือลงนามในสัญญาสั่งซื้อเรือดำน้ำไปแล้วถึง 598 วัน จึงเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า CSOC เรียกรับชำระเงินจากกองทัพเรือโดยที่ยังไม่ได้จัดซื้อเครื่องยนต์ MTU396 ซึ่งเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายการผิดสัญญา

ส่วนอีเมลอีกฉบับเป็นการติดตามเรื่อง แต่ทางเยอรมนีแจ้งว่ายังไม่อนุมัติ จึงเป็นเหตุให้ CSOC ต้องเสนอเครื่องยนต์ CHD620 ที่ผลิตภายในประเทศจีนมาแทนเครื่องยนต์ MTU396 พร้อมเสนอค่าชดเชยให้กับกองทัพเรือเป็นมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท โดยเป็นส่วนลด 128 ล้านบาท และเป็นการฝึกอบรมเพิ่มเติมอีกประมาณ 70 ล้านบาท

ด้วยเหตุนี้ วิโรจน์ตั้งคำถามว่า ประเทศไทยคุ้มเสี่ยงหรือไม่ที่จะรับเอาเรือดำน้ำที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดพลังงานไฟฟ้า CHD620 ซึ่งพัฒนามาจากเครื่องยนต์ที่ใช้กับเรือผิวน้ำ และแม้แต่ประเทศจีนเองก็ยังไม่เคยใช้ เพราะใช้แต่เครื่องยนต์ MTU396 เข้าใจว่าปัจจุบันเรือดำน้ำที่ใช้เครื่องยนต์ CHD620 น่าจะมีแค่ที่ประเทศปากีสถานเพียง 1 ลำเท่านั้น

แม้ว่าเครื่องยนต์ CHD620 จะผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นในห้องปฏิบัติการจากบริษัท Lloyds มาแล้ว แต่เข้าใจว่ากองทัพเรือก็ยังไม่เห็นการทดสอบการใช้งานเครื่องยนต์ CHD620 จริงในทะเล และปัจจุบันจำนวนชั่วโมงการใช้งานจริงของเครื่องยนต์ CHD620 ก็ยังถือว่าน้อยมาก ต่างจากเครื่องยนต์ MTU396 ที่มีการใช้งานจริงมาแล้วถึง 250 เครื่อง คิดเป็นชั่วโมงการทำงานกว่า 310,000 ชั่วโมง

วิโรจน์กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ากองทัพเรือได้เคยไปดูการทดสอบเครื่องยนต์ CHD620 มาแล้วครั้งหนึ่ง และเพื่อความโปร่งใส กองทัพเรือได้ประสานไปยัง CSOC เพื่อขอนำผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมไปร่วมดูการทดสอบเครื่องยนต์ CHD620 ด้วยอีกครั้งหนึ่ง แต่กลับได้รับการปฏิเสธจากทาง CSOC โดยมีการระบุข้อความที่สะท้อนการไม่ให้ความร่วมมือเลยว่า “เสียเวลา (waste of time)”

“เครื่องยนต์ตัวนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะมีหน้าที่ปั่นไฟเพื่อชาร์ตแบตเตอร์รี่ให้เรือดำน้ำทำงานได้ ถ้าเครื่องยนต์ทำงานผิดพลาดก็อาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรง และที่ผ่านมาก็เคยมีรายงานอุบัติเหตุที่น่าจะเชื่อมโยงถึงเครื่องยนต์เรือดำน้ำมาแล้ว โดยเกิดปัญหาขึ้นกับเรือดำน้ำชั้น Ming หมายเลข 361 เมื่อปี 2546 เครื่องยนต์ชาร์ตไฟเต็มแล้วไม่หยุดทำงาน ดูดออกซิเจนทั้งหมดออกจากเรือดำน้ำ จนลูกเรือหมดสติเฉียบพลัน มีลูกเรือเสียชีวิตทั้งสิ้น 70 นาย โดยเครื่องยนต์ที่ใช้ ณ ขณะนั้น คือเครื่องยนต์ Shaanxi 6E 390 ZC1 ที่ผลิตในจีน” วิโรจน์กล่าว

วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า สำหรับค่าชดเชยที่คิดเป็นมูลค่าน้อยนิดเพียง 200 ล้านบาท คิดอย่างไร ก็เป็นค่าชดเชยที่เสียเปรียบมาก กองทัพเรือจ่ายชำระเงินค่าเรือดำน้ำไปแล้วประมาณ 8,000 ล้านบาท และมีการก่อสร้างท่าจอดเรือ ระบบสื่อสาร และโรงเก็บต่าง ๆ อีกราว 2,000 ล้านบาท รวมแล้ว 10,000 ล้านบาท จากเดิมที่กองทัพเรือจะต้องได้เรือดำน้ำลำแรกในปี 2566 แต่ขณะนี้จะต้องขยายเวลาไปอีกกว่า 1,200 วัน หรืออีก 4 ปี โดยจะได้รับในปี 2570 หากคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ซึ่งเป็นภาระทางงบประมาณของรัฐบาลไทย อย่างน้อยค่าชดเชยที่กองทัพเรือต้องได้รับจาก CSOC ควรจะต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ไม่ใช่แค่ 200 ล้านบาทตามที่ CSOC เสนอ

นอกจากนี้ ปัจจุบันกองทัพเรือมีแนวคิดที่จะใช้ Link Y ซึ่งอ้างอิงมาตรฐาน Link 11 และ Link 22 ขององค์การ NATO เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลของกองทัพเรือเข้ากับนานาชาติ ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารข้อมูลกับเรือดำน้ำจีนได้ ดังนั้น การสื่อสารกับเรือดำน้ำจะต้องสื่อสารด้วยเสียงผ่านวิทยุเท่านั้น ซึ่งจะเป็นอุปสรรคอย่างมากในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือเอง และการปฏิบัติภารกิจร่วมระหว่างเหล่าทัพ

วิโรจน์กล่าวสรุปว่า เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงประเด็นการผิดสัญญา ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ความคุ้มค่าของการชดเชย ประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจทางการทหาร ตลอดจนความจำเป็นของเรือดำน้ำ ตนจึงเสนอทางออกที่คิดว่าเป็นผลดีต่อประเทศที่สุด 2 ข้อ คือ

1) ควรยกเลิกสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำกับทาง CSOC โดยสำหรับเงินที่จ่ายไปแล้ว ถ้าคืนเป็นเงินไม่ได้ก็เจรจาให้คืนเป็นของ แต่ต้องกระทบกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยให้น้อยที่สุด เช่น ถ้าคืนเป็นเรือจะต้องไม่คืนเป็นเรือฟริเกต เพราะกองทัพเรือมีโครงการต่อเรือฟริเกตในประเทศอยู่แล้ว โดยอาจจะคืนเป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง (OPV) หรือเรือคอร์เว็ต หรือคืนเป็นเรือเปล่า แล้วให้กองทัพเรือเสนอของบประมาณเพื่อติดอาวุธเอง เพราะในปัจจุบันระบบอาวุธใหม่ของจีนไม่สามารถเข้ากับมาตรฐานอาวุธของกองทัพเรือ และตามสมุดปกขาวของกองทัพเรือก็ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า จะจัดหาระบบอาวุธที่เข้ากันได้กับอาวุธที่มีอยู่ของกองทัพเรือ

2) สำหรับเรือดำน้ำ หากพิจารณาจากเหตุผลของกองทัพเรือที่ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ไม่มีเรือดำน้ำประจำการ และแผนการใช้เรือดำน้ำก็เป็นแผนที่ถูกร่างมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจำเป็น ถ้ามองว่าจำเป็นเช่นนั้น ก็ให้กองทัพเรือเสนอคำของบประมาณเข้ามาใหม่ในปี 2569 ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องมีนโยบายชดเชย หรือ Offset Policy พ่วงมาด้วย เช่น การจ้างอู่ต่อเรือในประเทศร่วมผลิตเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ การถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือการพัฒนาอุตสาหกรรมการต่อเรือที่ซบเซามาหลายปีจากการที่กองทัพเรือไม่ต่อเรือในประเทศไทย ซึ่ง Offset Policy นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ทำกันจนเป็นเรื่องปกติแล้ว

“สุดท้ายผมอยากจะย้ำกับคุณสุทินว่า กองทัพเรือไม่เคยทำผิดสัญญากับ CSOC ดังนั้นคุณสุทินในฐานะ รมว.กลาโหม ต้องห้ามคิดไปเองว่ากองทัพเรือของเราผิดสัญญา แล้วไปเจรจาให้ประเทศไทยเสียเปรียบ ถ้าเรือดำน้ำจำเป็นก็ไม่ว่ากัน ก็ให้กองทัพเรือเสนองบประมาณเข้ามาใหม่ แล้วมี Offset Policy ที่เป็นประโยชนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศพ่วงมาด้วย ผมว่าประชาชนรับได้ ไม่ใช่ตะบี้ตะบันจะเอาเงินภาษีของประชาชนไปแลกเรือดำน้ำแบบได้ไม่คุ้มเสียให้ได้ สิ่งที่ผมเสนอทั้งหมดครบถ้วนแล้ว และทำได้จริง หวังว่าคุณสุทินจะพิจารณา” วิโรจน์กล่าว.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำป่าดอยสุเทพทะลักท่วมเมืองเชียงใหม่

3 ก.ย. – ฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าจากดอยสุเทพหลากเข้าท่วมชุมชนในเชียงใหม่กลางดึก ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวเก็บข้าวของไม่ทันต้องปล่อยจมน้ำ ขณะที่น้ำท่วมหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงแล้วทิ้งไว้แต่ความเสียหายเป็นวงกว้าง น้ำป่าจากดอยสุเทพ ที่หลากมาตามลำห้วยช่างเคี่ยน ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและร้านค้าในชุมชนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อย่างรวดเร็วในช่วงกลางดึก ระดับน้ำที่ท่วมตั้งแต่ 30 เซนติเมตร จนถึง 1 เมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ทันได้ตั้งตัว เก็บข้าวของเครื่องใช้ไม่ทัน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องปล่อยให้จมน้ำไป บางส่วนที่พึ่งกลับจากการทำงานต้องเดินฝ่าน้ำท่วมเข้าไปเก็บทรัพย์สินในบ้านเท่าที่จะทำได้ รถยนต์หลายคันเคลื่อนย้ายไม่ทันจมอยู่ในน้ำ โดยชาวบ้านบอกว่าน้ำมาเร็วและแรง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ถูกน้ำท่วม นายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก เร่งให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำออกจากชุมชนลงคลองชลประทาน พร้อมระบุสาเหตุน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจาก การสร้างสะพานข้ามคลองชลประทานและมีการปิดท่อระบายน้ำไว้ ทำให้น้ำป่าที่หลากลงมาท่วมไม่สามารถระบายได้ ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในเช้าวันนี้ ซึ่งน้ำลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านเร่งสำรวจความเสียหายโดยบางส่วนยังยกข้าวของไว้บนที่สูงไว้ก่อนจนกว่าจะหมดหน้าฝน ส่วนน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักที่เพชรบูรณ์ มา 3 วัน ระดับน้ำที่เคยท่วมสูงถึง 1 เมตร ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้วในเช้าวันนี้ หลังระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านอำเภอหล่มเก่าลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำกว่า 1 เมตร […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้

รัฐสภา 3 ก.ย.-เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้ เหตุรอศาล รธน.ตอบเป็นลายลักษณ์อักษร หลัง 20 สส.เพื่อไทย ยื่นปมตุลาการพ้นวาระ คดี “แพทองธาร” และความชัดเจนยุบสภา นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เปิดเผยภายหลังการประชุมสองฝ่าย เพื่อหารือกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยใช้เวลาหารืออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่า เนื่องจากมี สส.20 คน ของพรรคเพื่อไทย ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายต่อกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 เสียง วินิจฉัย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี จากข้อเท็จจริงที่พบว่า นายสราวุธ ทรงศิวิไล ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายปัญญา […]

พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.-พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.26 น. เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว รายละเอียดจากแถลงอย่างเป็นทางการและยังระบุข้อความว่า “นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง” นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความให้การให้สัมภาษณ์ของนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ได้ยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว.-สำนักข่าวไทย