กาญจนบุรี 11 พ.ค.-นายกฯ ประชุมฝ่ายความมั่นคง หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด่านศุลกากร ขอบคุณตรึงกำลังสกัดยางเถื่อน ชมกองทัพปิดทองหลังพระ ช่วยประชาชนมาตลอด ขีดเส้น 90 วัน จบปัญหายาเสพติด จับผู้ค้ารายใหญ่-รายย่อยให้ราบคาบ ลั่นหากขายจะ 1 เม็ด ครึ่งเม็ดก็จับหมด
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาที่ กองพลทหารราบที่ 9 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกณัฐพล นาคพานิณย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมๆ พร้อมด้วย พลเอกสนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม มาให้การต้อนรับ โดยจุดนี้เป็นการประชุมหารือสถานการณ์ความมั่นคงชายแดนไทย-เมียนมา ด่านศุลกากร แรงงานข้ามชาติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้เดินทางมาเยือนจังหวัดกาญจนบุรี ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่ติดตามงานอย่างใกล้ชิดจากการสั่งงานครั้งที่แล้วจนเกิดความคืบหน้ามาโดยตลอด โดยเฉพาะการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ที่ค้างเก่ามาตั้งแต่ปี 2481 ซึ่งปัญหาที่ดินเป็นปัญหาต่อเนื่อง ที่ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถขอน้ำขอไฟได้ และต้องขอบคุณกองทัพที่แบ่งที่ดินของทหารมาให้พี่น้องประชาชนได้ทำกิน พร้อมขออย่าหยุดเพียงเท่านี้ขอให้พิจารณาพื้นที่อื่นๆต่อไป พร้อมขอบคุณกองทัพ ที่ได้นำยุทโธปกรณ์เข้ามาช่วยภัยแล้งและน้ำท่วม พวกท่านปิดทองหลังพระมานานแล้ว ท่านทำดีเยี่ยมมากนะครับ
ส่วนเรื่องแผนการท่องเที่ยว ของจังหวัดกาญจนบุรี ยังขาดเรื่องของการใช้จ่ายต่อหัว และการเพิ่มระยะเวลาท่องเที่ยวในพื้นที่ เพราะวัตถุประสงค์ คือต้องการให้นักท่องเที่ยวมาใช้จ่ายในพื้นที่มากขึ้นและอยู่จำนวนหลายคืน ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์เยอะไม่ว่าจะเป็นภาคการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร
สำหรับเรื่องการคมนาคม วันนี้มีการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ชั่วคราวทำให้การสัญจรระหว่างทางกรุงเทพฯมากาญจนบุรีมีความสะดวกขึ้น และการคมนาคมก็มีส่วนทำให้จังหวัดเจริญมากขึ้น ไปมาหาสู่กันภายในประเทศ หรือ ตามชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านก็จะส่งผลกับเรื่องการค้าชายแดน
ส่วนเรื่องการเกษตร เป็นเรื่องสำคัญไม่ว่าจะเป็นข้าวและพืชใหม่ๆที่มีศักยภาพสูง เช่น ทุเรียนเพื่อส่งออก เน้นการทำมาหากินที่ถูกต้องตามกฎหมาย และคุ้มครองเกษตรกรไทย เช่น เดี๋ยวกับการบริหารจัดการน้ำ ที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญจังหวัดกาญจนบุรีมีเขื่อน 3 เขื่อน เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำและทุกอย่างอยู่ที่การบริหารจัดการน้ำ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการคำนวณและพยากรณ์
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดน โดยขอบคุณฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจทหาร หน่วยงานฝ่ายปกครอง ที่ทุ่มเทการทำงาน เพราะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนค่อนข้างมาก เราสามารถตรึงกำลังตามแนวชายแดนได้ดีมาก ทำให้ผู้ลักลอบเปลี่ยน เส้นทางจากสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก และทราบว่าตอนนี้เริ่มจะเข้าไปแถบจังหวัดระนองจึงขอฝากกองทัพให้ช่วยดำเนินการเพราะการปิดชายแดนไม่ให้ยางเถื่อนเข้ามาส่งผลให้ราคายางพาราในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ปัญหายาเสพติด เชื่อว่าเราทำกันได้ดีแล้วจับได้เยอะมากถึง 3-4 เท่า แต่เรื่องน่าเศร้าคือว่าราคายาต่อเม็ดไม่ยอมขึ้นสักที แสดงว่าซัพพลายยังเข้ามาเยอะมาก ยอมรับเป็นเรื่องปวดหัว จึงขอให้ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานการปกครองช่วยกันทำหน้าที่อย่างหนักขึ้น ให้สมกับที่เราประกาศว่า ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ให้มีผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน ทำให้ยาเสพติดหมดไป จัดการกับผู้ค้ารายใหญ่ รายย่อยให้ราบคาบ และบำบัดลูกหลานที่ติดยาให้สำเร็จไปด้วยกัน
“ยืนยัน นะครับจะเป็น 1 เม็ดครึ่งเม็ดก็ตามถ้ามีจุดมุ่งหมายในการขายเนี่ยจับหมดนะครับเรื่องนี้ยืนยันนะครับ ยกเว้นเป็นผู้เสพแล้วก็มอบตัว ถือเป็นผู้ป่วย ก็บำบัดไปนะครับ อันนี้เป็นเรื่องที่เป็นนโยบายหลักของเรา ที่เราทำกันมานะครับก็เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญแล้วก็อีกเรื่องนึงเรื่อง” นายกรัฐมนตรี ระบุ
ขณะที่เรื่องต่อการค้าแดน เรามีการพัฒนาทางด้านการคมนาคม ลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสนล้านลดระยะเวลาในการขนส่งสินค้าไปชายแดนต่างๆ หนึ่งอยากให้เป็น One Stop Service สอบให้กรมศุลกากรนำร่อง และผลักดันให้สำเร็จภายในเดือนกันยายนนี้ สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปพร้อมๆ กัน.-316.-สำนักข่าวไทย