รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

ทำเนียบรัฐบาล 9  พ.ค.-นายกฯ แถลงรัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา28 ก.ค.นี้ เลือก 10 โครงการสำคัญพัฒนาคุณภาพชีวิตปชช.


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6  รอบ  28  กรกฎาคม 2568 ว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ  6 รอบ หรือ 72 พรรษาในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติทุกประการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานจะมีทั้งงานพระราชพิธี งานพิธีการ โครงการและกิจกรรม ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดทำโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนเพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้อยู่ดีมีสุข ซึ่งจะมุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด ขณะนี้มีหน่วยงานภาครัฐ เอกชนเสนอโครงการและกิจกรรมเข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลได้เลือกโครงการขนาดใหญ่จากที่เสนอในการประชุมวันนี้ ให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในนามรัฐบาล จำนวน 10 โครงการ โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ รับไปดำเนินการ


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับโครงการเฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย โครงการที่ 1 โครงการยกระดับสวนสาธารณะบึงหนองบอน และ Pocket Parks 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบครบวงจร ให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจะพัฒนาสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ สวนหลวง ร.9 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ และสวนสาธารณะบึงหนองบอน ให้เป็นสวนสาธารณะระดับมหานครที่มีพื้นที่รวมกันกว่า 1,144 ไร่ โดยจะจัดให้เป็นสถานที่เล่นกีฬา ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ และทำกิจกรรมต่าง ๆ แบบครบวงจร เพียบพร้อมด้วยอาคารสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนภูมิทัศน์ที่สวยงาม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 2 โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อเป็นการฟื้นฟูและรักษาสภาพป่าต้นน้ำ รวมถึงการคืนสภาพโครงสร้างของระบบนิเวศให้กับผืนป่าทั่วประเทศ รัฐบาลจึงจัดทำโครงการเพื่อรวมพลังจิตอาสาของทุกภาคส่วนในการร่วมกันปลูกป่า และบำรุงรักษาต้นไม้ เพื่อคืนธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ คืนอากาศสะอาดให้กับประชาชน โดยตั้งเป้าหมายในการปลูกป่าทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 72 ล้านต้น ทั้งนี้ ได้มอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักในการรับลงทะเบียน จัดหาพันธุ์กล้าไม้ และรวบรวมข้อมูลการปลูกต้นไม้ของทุกหน่วยงาน องค์กร หรือกลุ่มบุคคล เพื่อใช้ประกอบในการ

“โครงการที่ 3 โครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปี รวมถึงเพื่อเป็นการขยายผลต่อยอด จากโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากเดิมที่ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 47 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ 25  จังหวัด   รัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขยายขอบเขตการดำเนินโครงการเพิ่มเติม จำนวน 25  แห่ง รวมเป็น 72  แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะพิจารณาพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำ ไม่มีศักยภาพในการเจาะบ่อน้ำบาดาล จำเป็นต้องทำการเจาะบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ พร้อมกับก่อสร้างระบบประปาบาดาลในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเพื่อช่วยเหลือราษฎรไม่ให้เดือดร้อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 4    โครงการ “10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567   เพื่อเป็นการสืบสาน และขยายผลต่อยอดพระบรมราโชบายในการพัฒนาแม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ตลอดจนเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านต่าง ๆ รวมถึงสร้างความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง เช่น โครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร และพัฒนาคลองแม่ข่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำโครงการพัฒนาแม่น้ำ คู คลองทั่วประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน  ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการตั้งแต่ขุดลอกคู คลอง ปรับภูมิทัศน์ และทัศนียภาพ รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนตลอดสองฝั่งคลอง ได้แก่ การจัดระเบียบที่อยู่อาศัยใหม่ ความสะอาดของทางเดิน และถนน การกำจัดขยะ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และระบบการระบายน้ำ โดยจะดำเนินการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่น ๆ รวม 10 แห่ง

 “โครงการที่ 5  โครงการพัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567    ด้วยรัฐบาลเล็งเห็นว่า น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภค และบริโภคของประชาชน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการขุดลอกคลองและอ่างเก็บน้ำ จำนวนทั้งสิ้น 72 แห่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเก็บกักน้ำให้สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงและสามารถบริหารจัดการน้ำรวมถึงแก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 6 โครงการยกระดับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลชัยพัฒน์ และหน่วยบริการปฐมภูมิ 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567   เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพการให้บริการและการเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุขลดความแออัด ลดระยะในการรอคอยการเข้ารับการบริการของประชาชน รวมถึงมีสถานที่ที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน

“รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการขยายบริการทางการแพทย์ และขยายศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีความซ้ำซ้อน และลดการส่งต่อผู้ป่วย โดยจะดำเนินการทั้งสิ้น 72 แห่ง แบ่งเป็น 1. การยกระดับคุณภาพการบริการของโรงพยาบาล 36 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฯ  21 แห่ง โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 11 แห่ง โรงพยาบาลชัยพัฒน์ 4 แห่ง 2. การยกระดับการเข้าถึงบริการของประชาชน โดยเป็นการจัดสร้างชุดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชน 36 แห่ง ทั่วประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 7 โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ช่วยเหลือและให้โอกาสแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาสรวมถึงผู้พิการหรือทุพพลภาพในการที่จะได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน อันได้แก่ ที่พักอาศัย หรือที่ดินทำกิน สำหรับการประกอบอาชีพเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมจึงได้เสนอการดำเนินการ 2 กิจกรรม ได้แก่ การจัดหาที่ดินที่เป็นพื้นที่ของเหล่าทัพทั่วประเทศ รวมจำนวน 72,000 ไร่ สำหรับจัดสรรให้กับประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการเป็นที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย รวมถึงได้รับเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน การปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักอาศัยสำหรับคนพิการ จำนวน 720 หลัง และผู้ด้อยโอกาส จำนวน 720 หลัง

 “โครงการที่ 8 โครงการบริจาคโลหิต 10,000,000 CC เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดี และทำประโยชน์ในการช่วยเหลือต่อชีวิตและลมหายใจให้กับผู้อื่น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในการนี้ รัฐบาล จึงได้จัดทำโครงการเพื่อเป็นการรวมพลังจิตอาสาทั่วประเทศจากทุกภาคส่วนในการบริจาคโลหิต โดยมีเป้าหมายในการรับบริจาคครั้งนี้ จำนวน 10 ล้าน CC เพื่อมอบให้แก่สภากาชาดไทยสำหรับใช้เป็นโลหิตสำรองให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 9 โครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย หรือผู้มีแนวโน้มจะเป็นคนพิการที่มีรายได้น้อยที่ประสบความเดือดร้อน เข้าไม่ถึงสิทธิและสวัสดิการ ให้กลับมาใช้ชีวิตประจำวัน เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้อย่างเท่าเทียม และดำรงชีวิตด้วยตนเองได้อย่างอิสระ กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จะจัดหากายอุปกรณ์ และเครื่องช่วยความพิการ สำหรับช่วยเหลือคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกายดังกล่าว ที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับอุปกรณ์สำหรับช่วยความพิการที่มีความเหมาะสมต่อสภาพความพิการของแต่ละบุคคลทั่วประเทศจำนวน 72,000 ชุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 10 โครงการ “หลอมรวมใจ มอบน้ำใสสะอาดให้โรงเรียน” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เด็กนักเรียนได้มีน้ำสะอาดอุปโภคบริโภค รวมถึงส่งเสริมสุขภาวะที่ดี รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการ โดยบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องปรับปรุงคุณภาพน้ำประปาในโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งต้องตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพน้ำทั้งด้านกายภาพ เคมี และแบคทีเรีย ตามวิธีการมาตรฐานที่ได้รับการรับรองเพื่อให้เหมาะกับการอุปโภคและบริโภคต่อไป  

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  ผมจะลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการในนามรัฐบาลทั้ง 10 โครงการรวมทั้งโครงการอื่น ๆ ที่เข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติ โดยจะร่วมทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน องค์กร มูลนิธิ และภาคเอกชนต่าง ๆ ได้ร่วมกันแสดงถึงพลังแห่งความจงรักภักดี  และความสามัคคีของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ เพราะโครงการต่าง ๆ จะสำเร็จลงได้ด้วยการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน ภาคเอกชนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนเพื่อให้การดำเนินโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ ให้พี่น้องประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของพวกเราชาวไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]

“ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC บอกทิศทางดี

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC ไทย-กัมพูชา ขอพูดทีเดียวหลังเจรจา บอกทิศทางดี ด้าน “บิ๊กเล็ก” หวังพรุ่งนี้มีข่าวดี มั่นใจ 90% ยอมรับกังวลบ้าง แต่มีผู้สังเกตการณ์ประเทศอื่น เขมรคงไม่กล้า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้รับฟังข้อมูลจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ฝ่ายเลขานุการ รายงานผลการหารือ ในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม จากการพูดคุยมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี โดยจะแถลงรายละเอียดเมื่อมีการหารือเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.68) ซึ่งการเจรจาในวันพรุ่งนี้ได้ให้แนวทาง พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ได้ข้อยุติอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าในการหารือครั้งนี้จะไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถตอบได้ ด้านพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประขุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า มีความมั่นใจ […]