สำนักงานป.ป.ช. 8 พ.ค.-“สนธิญา” ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรม 3 นายกอบจ.ลาออก ก่อนหมดวาระ ทำสิ้นเปลืองงบฯ ต้องจัดเลือกตั้ง 2 ครั้ง ถามมั่นใจจะได้กลับมาใหม่หรือ
นายสนธิญา สวัสดี ยื่นหนังสือที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบการลาออกจากตำแหน่งของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด( อบจ.) 3 จังหวัด คือ ปทุมธานี อ่างทองและนครสวรรค์ ทั้งที่ยังเหลือวาระการดำรงตำแหน่งอีกประมาณ 7 เดือน 12 วัน โดยจะหมดวาระวันที่ 20 ธันวาคม 2567 และเมื่อนายกอบจ.ลาออก แต่สมาชิกสภาอบจ.ไม่ได้ลาออก ทำให้ต้องเลือกตั้งซ่อมภายใน 90 วัน และเมื่อครบวาระต้องเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน ซึ่งต้องใช้งบประมาณจัดการเลือกตั้งครั้งละประมาณ 6-10 ล้านบาท หากลาออกก่อนครบวาระเกิดขึ้นทั้งประเทศ ใครจะรับผิดชอบเรื่องงบประมาณจัดการเลือกตั้งที่ต้องใช้เงินกว่า 200 ล้านบาท
“ขอให้ป.ป.ช.พิจารณาในสองประเด็นว่า แม้การลาออกจะเป็นสิทธิ์ แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบการเลือกตั้ง 2 ครั้ง ในกฎหมายก็กำหนดชัดเจนว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกอบจ.และสภาอบจ. 4 ปี ในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 76 วรรคสาม เขียนไว้ชัดเจนว่าองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานของรัฐ จะต้องมีจริยธรรมที่คอยควบคุมตรวจสอบ ขณะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดก็มีประมวลจริยธรรมที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทยประกอบประมวลจริยธรรม 2562 รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลาออกก่อนครบวาระ” นายสนธิญา กล่าว
นายสนธิญา กล่าวว่า การที่ผู้ลาออกอ้างเรื่องเพื่อดำเนินโครงการบางอย่างและให้ตัวเองสุจริต ยุติธรรมในการเลือกตั้งใหม่ เข้ามาช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ จึงขอถามว่ามั่นใจได้อย่างไรว่าจะได้กลับเข้ามาเป็นนายกอบจ.อีกครั้ง เมื่อเป็นเช่นนั้นเหตุใดต้องลาออก เพราะการเป็นนายกอบจ.ก็รู้อยู่แล้ว การดำเนินโครงการในแต่ละปีมีอะไรบ้าง จึงคาบเกี่ยวกันว่าการลาออกเป็นผลประโยชน์ส่วนตนหรือ ผลประโยชน์ประชาชนทั้งประเทศเป็นที่ตั้ง ส่วนการมายื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรม เพราะไม่มั่นใจการทำหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย
“เหลือเวลาอีก 7 เดือนกับอีก 12 วัน การลาออก เป็นผลประโยชน์ต่อ ผู้อื่น ประชาชน ประเทศชาติ หรือตนเอง คุณมาเป็นนายกอบจ. ก็มีแผนโครงการในแต่ละปี อยู่แล้วว่าจะทำอะไร ที่ยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบในเรื่องจริยธรรม ไม่ต่ำกว่า 13 ข้อ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 และ 235 ผมมายื่นเพราะไม่ต้องการให้โรคระบาดเหล่านี้ มันไปทั่วประเทศ เพราะถ้าวันนี้นายกอบจ.รวมหัวกันลาออกทั้งประเทศ ประเทศไทยจะต้องเลือกตั้ง 2 ครั้ง คือเลือกตั้งนายกอบจ.และเลือกสภาอบจ. งบประมาณจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท ผมถามว่าประโยชน์ตกอยู่กับที่ใคร จึงขอให้ป.ป.ช.ไต่สวนหาข้อเท็จจริง” นายสนธิญา กล่าว
นายสนธิญา กล่าวว่า ไม่โกรธเคืองผู้หนึ่งผู้ใดที่เป็นนายกอบจ. มีความเคารพ แต่ในเรื่องของกฎหมาย ผลประโยชน์ของประเทศชาติ จำเป็นต้องนำมาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาและไต่สวน แม้ว่าการลาออกแม้จะเป็นสิทธิของนายกอบจ. แต่ควรลาออกช่วง 2-3 เดือนก่อนหมดวาระน่าจะเหมาะสมกว่า แล้วมั่นใจหรือว่าลาออกไปแล้วจะได้รับการเลือกตั้งกลับเข้ามา ถ้ามั่นใจว่าได้รับการเลือกตั้งเท่ากับล็อกผลการเลือกตั้ง.-314.-สำนักข่าวไทย