กรุงเทพฯ 4 พ.ค. – กมธ.อุตสาหกรรม หนุนนายกฯ ดันปัญหาไฟไหม้กากสารเคมีอุตสาหกรรมเป็นปัญหาระดับชาติ เหตุเป็นปัญหาหมักหมมหลายปี มองการให้ฝ่ายความมั่นคง-กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ร่วมแก้ปัญหาเดินมาถูกทาง ชี้การป้องกันการเกิดซ้ำเป็นสิ่งสำคัญ สร้างความเชื่อมั่นภาครัฐ
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายความมั่นคง ช่วยแก้ปัญหาไฟไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี รวมถึงการที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดทั่วประเทศเข้ามาช่วยสำรวจร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ถือว่าเป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และคิดว่าการมอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดูแล ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องบูรณาการหลายกระทรวงเข้ามาดำเนินการ
“การที่ต้องเอาฝ่ายความมั่นคงมาช่วยและเอากระทรวงอื่นๆ มาร่วมแก้ปัญหา ถือว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้วที่จะต้องบูรณาการทุกหน่วยงาน ดังนั้น ที่นายกฯ สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงเข้ามาช่วย และ พล.ต.อ.พัชรวาท รองนายกรัฐมนตรี สั่งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมถือว่าเป็นเรื่องถูกต้อง ตอนนี้รัฐมนตรีอุตสาหกรรมก็ลงมาดูแลปัญหาด้วยตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงอุตสาหกรรมต้องบูรณาการหลายกระทรวงเข้ามาดำเนินการเรื่องนี้ จึงต้องได้รับความร่วมมือจากกระทรวงอื่นด้วย” ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม กล่าว
นายอัครเดช ย้ำอีกว่า ปัญหานี้ตนต้องการให้นายกรัฐมนตรียกเป็นปัญหาระดับชาติ เนื่องจากเป็นปัญหาที่หมักหมมมาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดราชบุรี พระนครศรีอยุธยา ระยอง จากที่ทราบยังมีอีกหลายจังหวัดที่มีการกองเก็บกากดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ปราจีนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม เป็นต้น ถ้ามีการเกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีกจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานของรัฐ ดังนั้น ตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะประชาชนให้ความสนใจเรื่องนี้มาก ฉะนั้นเรื่องการป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเป็นความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อภาครัฐ การที่นายกรัฐมนตรีกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ลงมาช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมดูแลจะทำให้การควบคุมตรวบสอบเรื่องดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญการเกิดเหตุที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะต้องหาผู้กระทำความผิดให้ได้ ต้องสอบสวนให้ได้อย่างรวดเร็ว และต้องตอบสังคมให้ได้ว่าเป็นการวางเพลิงหรืออุบัติเหตุ และถ้าเป็นการวางเพลิงต้องหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้.-312-สำนักข่าวไทย