“ศิริกัญญา” ขอทราบแผนดิจิทัลวอลเล็ต 

รัฐสภา 10 เม.ย.-“ศิริกัญญา” ขอทราบแผนดิจิทัล วอลเล็ต ติดใจร้านสะดวกซื้อเข้าข่ายร้านขนาดเล็กหรือไม่ ถามรัฐบาลถึงไตรมาส 4 ไม่เลื่อนอีก แนะส่งกฤษฎีกาพิจารณากฎหมาย ธกส.ก่อนนำเงินมาแจก หวั่นผิดวัตถุประสงค์

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล  สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล  ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต  ว่า ตอนนี้เข้าใจว่าข้าราชการสำนักงบประมาณไม่มีวันหยุดสงกรานต์    โดยในส่วนงบประมาณปี 67 มีเวลาได้เตรียมตัว   เตรียมการณ์    แต่ไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย   สุดท้ายน่าจะต้องโอนและเพิ่มงบฯไปที่กองทุนประชารัฐเพื่อสวัสดิการ   และแจกจ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และยังมีปัญหาว่าปกติบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะจ่ายผ่านบัตรประชาชน   แต่รอบนี้จะให้ใช้เป็น OPEN LOOP  คือเอาไปใช้ที่ไหนก็ได้    แต่ตามปกติก็ต้องไปกดเงินผ่านบัตรประชาชนที่ตู้เอทีเอ็มเท่านั้น   และยังต้องใช้ผ่านร้านค้าที่มีเครื่องรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น  ยังเป็นปัญหาที่ระบบ   เพื่อให้ใช้เงินได้


น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่าอยากฝากไปยังรัฐบาล   ว่าเมื่อมีการยืนยันว่าไตรมาส 4 จะไม่เลื่อนแน่นอน    อยากจะเห็นแผนงานทั้งหมด    ไม่ใช่แค่เรื่องหาแหล่งที่มาให้ครบจำนวน ไม่ว่าจะเป็นออกร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี   จะทำเมื่อไหร่ และทางสภาก็รออยู่  ว่าจะอนุมัติหรือไม่อย่างไร   และยังมีเรื่องการพัฒนาระบบ   ซึ่งมีการยืนยันแล้วว่า   ไม่ได้เป็นแอพลิเคชั่น เป๋าตัง    แต่มีการทำแอพใหม่โดยให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  กับสำนักงานรัฐบาลดิจิทัล   เป็นคนจัดทำนั้นจะเสร็จเมื่อไหร่ เพราะกระบวนการทำระบบจำเป็นต้องมีการทดสอบระบบก่อนที่จะใช้งานได้จริง  เพราะหากใช้จริงแล้วเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาก   ก็จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนเช่นเดียวกัน 

น.ส.ศิริกัญญา ยังกล่าวว่าส่วนรายละเอียดของการใช้จ่ายที่มีการแก้ไขไปในทางที่ดี  ในการที่ระบุว่าให้ใช้รอบแรกสำหรับร้านค้ารายเล็กเท่านั้น    แต่อย่างไรก็ตามร้านค้ารายเล็กเรายังได้ยินไม่ชัดเจนว่าตกลงร้านสะดวกซื้อ   เป็นร้านค้าขนาดเล็กหรือไม่    เพราะกลไกที่ค่อนข้างยุ่งยากในการแลกเป็นเงินสด   คือ ต้องใช้ 2 รอบ แล้วจึงสามารถแลกเป็นเงินสดได้ ซึ่งร้านที่แลกได้ก็แลกได้เฉพาะที่อยู่ในฐานภาษีเท่านั้น    อาจจะทำให้ร้านค้ารายเล็กรายย่อยตัวจริงไม่อยากเข้าร่วมโครงการ   หรือเข้าร่วมโครงการน้อยลงหรือไม่   เพราะแลกมาแล้วก็ยังแลกเป็นเงินสดไม่ได้    ก็ต้องไปใช้จ่ายต่อ   แต่เงินก็ต้องหมุนไปรายวัน   จะมีความลำบากสำหรับร้านค้ารายเล็ก    และหากสุดท้ายร้ายค้ารายเล็กเข้าร่วมโครงการได้น้อย   วัตถุประสงค์ของโครงการจะทำให้เศรษฐกิจที่หมุนเวียนอยู่ในระดับฐานรากได้มากขึ้นก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ     แต่วันนี้ยังไม่ค่อยได้รายละเอียดอะไรเพิ่มเติม   คงต้องรอนัดถัดไปเพื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติม    แต่ถือว่ารับฟังความเห็นจากประชาชน   ฝ่ายค้าน และสื่อมวลชนในการที่จะปรับในเรื่องของร้านค้าขนาดเล็กเข้าร่วมโครงการ


เมื่อถามว่าการที่ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยไม่มาร่วมประชุมบอร์ดใหญ่ดิจิทัล วอลเล็ต ถึงสองครั้ง  มีนัยยะอะไรหรือไม่   น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริงๆ ก็ติดภารกิจประชุมกรรมการนโยบายการเงิน   ซึ่งเข้าใจว่ามีตัวแทนมาเข้าร่วมประชุม   และเข้าใจว่าทางคณะกรรมการคงจะมีมติอยู่บนความคิดเห็นที่รอบด้านจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่าโครงการรดิจิทัล วอลเล็ตจะสามารถกระตุ้นจีดีพี และเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้มีการคาดการณ์เอาไว้    ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1.2-1.8     และคาดการณ์ของปี 68 แบบฐานปกติน่าจะโตประมาณ 3.3 ก็เท่ากับว่าเศรษฐกิจปี 68 หากมีดิจิทัล วอลเล็ต    ก็น่าจะโตได้ประมาณ    3.5-4.1    ซี่งเป็นเรื่องที่ต้องอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลว่าจะสามารถเป็นไปได้อย่างที่คาดการณ์หรือไม่ เพราะหลายเจ้าจะประเมินอยู่ที่ประมาณ    0.9-1 เปอร์เซ็นต์ทั้งนั้น    แต่เรื่องที่เราเป็นกังวลมากกว่าคือรัฐบาลสัญญาไว้ว่า 4 ปี   จีดีพีต้องโตเฉลี่ย 5 เปอร์เซ็นต์   แต่ปีที่อัดทุ่มเงินงบประมาณมากที่สุดยังโตได้แค่  5.1 อย่างเต็มที่   แล้วปีอื่นๆที่เหลือ   ที่ไม่เหลือเงินไปทำอย่างอื่นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น    และเรื่องที่ผลจะตามมาคือหนี้สาธารณะ    ซึ่งตอนนี้เฉพาะที่ขยายวงเงินของปี 68  หนี้สาธารณะขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 67 เปอร์เซ็นต์  เรียบร้อยแล้ว และภาระดอกเบี้ยที่จ่ายในแต่ละปีขึ้นเป็น 11 เปอร์เซ็นต์ของรายได้   เท่ากับว่าจะเก็บภาษีมาเท่าไหร่ก็เอาไปจ่ายเป็นดอกเบี้ยหมดไปแล้ว   ยังไม่นับว่าปี 67  ก็ต้องกู้เพิ่มอีก

“จึงเป็นคอขวดที่สำคัญ   ที่รัฐบาลต้องก้มหน้ารับไป   และยิ่งใช้เร็วก็จะยิ่งดี  ยิ่งไปกินเงินงบประมาณในส่วนอื่นๆ ไปอีกระยะหนึ่ง    รัฐบาลชุดต่อไปที่จะต้องมาแบกรับภาระหนี้ต่ออยู่แบบคอหอยแล้ว    อีกนิดเดียวจะชนเพดานที่  70 เปอร์เซ็นต์แล้ว   นี่ขนาดเป็นกู้สาธารณะเพียงแค่งบปี 67 และงบปี 68  ยังไม่นับรวมกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)   ซึ่งไม่ได้อยู่ในหนี้สาธารณะก็จริง   แต่สุดท้ายก็ยังต้องใช้เงินงบประมาณในการใช้คืนหนี้อยู่ดี   ฉะนั้นนอกเหนือจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ   ก็ยังมีเรื่องภาระที่แฝงมาด้วย หลังจากที่ทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ต”  น.ส.ศิริกัญญากล่าว


เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับนโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลออกมา    น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่าตามปกติแล้วนโยบายนี้   ไม่ใช่นโยบายใหม่     ซึ่งเราก็ทำกันมาหลายครั้งโดยต้องการจะกระตุ้นภาคอสังหาฯให้เดินต่อไปได้    แต่รอบนี้ที่แปลกคือเรื่องของการลดค่าโอน   ที่จากเดิมลดค่าโอนเฉพาะบ้านที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท   แต่วันนี้ขยายไปที่ 7 ล้านบาท  ซึ่งเป็นเพราะว่ามีสต๊อกคงค้างอยู่ค่อนข้างมาก    ขายไม่ออกถึง 46 เปอร์เซ็นต์  จึงชวนให้ตั้งข้อสังเกตว่า    สุดท้ายโครงการนี้จะเป็นไปเพื่ออะไรกันแน่   เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น    หรือเป็นเพียงแค่กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียว     เพื่อจะทำให้บริษัทที่อยู่ในภาคนี้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้     และเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนของนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน    โดยเรื่องที่สำคัญคือค่าธรรมเนียมผ่านการโอนต่างๆ  เป็นเงินที่จะต้องส่งต่อไปให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น    และรอบนี้เนื่องจากขยายไปจนถึง 7 ล้านบาททำให้สูญเสียเม็ดเงินค่าธรรมเนียมไปถึง 2.3 หมื่นล้านบาท    เท่ากับว่าท้องถิ่นเงินหายไปในจำนวนดังกล่าว  จึงอยากให้รัฐบาลนี้เปลี่ยนวิธีการบ้าง     ซี่งในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ทำแบบนี้   

“เหมือนกับการควักเงินขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นไปอุดหนุนภาคอสังหาฯและรอบนี้หากจะให้ดีรัฐบาลต้องตั้งเงินเพื่อที่จะชดเชยให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในส่วนค่าธรรมเนียมที่หายไปด้วย    มิเช่นนั้นจะไม่เป็นการยุติธรรมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่รายได้อยู่ดีๆ จะหายไป    รอบที่แล้วภาษีที่ดินก็ยังคืนเขาไม่หมด มารอบนี้ก็จะมาลดค่าธรรมเนียมการโอนอีก ทำให้เขาเดือดร้อนแน่นอน”   น.ส.ศิริกัญญา  กล่าว

เมื่อถามว่ารัฐมีอำนาจในการใช้เงินของ  ธกส. และเป็นไปตามวินัยการคลังหรือไม่   ว่า เรื่อง ธกส.ยังมีประเด็นในเรื่องของข้อกฎหมาย   เพราะว่าตามวัตถุประสงค์ของ ธกส.ที่ระบุไว้ตามกฎหมาย   สามารถทำได้ในการช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ข้อใดที่จะไปทำให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร   โดยการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต   ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นประเด็นกันอยู่ว่าจะต้องส่งคณะกรรมกฤษฎีกาตีความเหมือนกับกรณีของธนาคารออมสินหรือไม่   แต่ว่ามันมีความเทาๆที่จะสามารถตีความให้เข้าข้างรัฐบาลก็สามารถทำได้    ที่สำคัญจะทำอย่างไรให้มีเงินมาใช้จ่ายให้เต็มที่ เพราะ ธกส.ยังติดเกณฑ์ของกรอบวินัยการเงินการคลัง   รัฐบาลก็พูดย้ำหลายรอบ  ว่าไม่มีการขยายแน่นอน   ก็ต้องมารอดูว่าโครงการไหนจะไปก่อน   เพราะพักหนี้เกษตรกรจะทำต่อจนครบ 3 ปีหรือไม่   หรือว่าโครงการไร่ละ 1 พันจะยังคงเดินหน้าไปต่อได้หรือไม่  อันนี้ก็เป็นข้อกังวลสำหรับการใช้เงินของ  ธกส.

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะดำเนินการอย่างไรนอกจากรอให้รัฐบาลถามกฤษฎีกา  น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะถามกฤษฎีกาอยู่หรือไม่   เราก็จะช่วยกระทุ้งอีกแรงว่าตรงดูให้ดีๆ หรือต้องแก้ไข พ.ร.บ.ธกส.ให้เรียบร้อยก่อน   ถ้ารัฐบาลจะออก พ.ร.บ.งบประมาณกลางปี 67  แก้นิดหน่อยเพื่อให้มีความสบายใจ   และให้ ธกส.ไม่ต้องกังวลที่จะเอาเงินมาให้ดิจิทัลวอลเล็ตใช้ด้วย   แค่นี้ก็บิดมากพอแล้วที่ให้เป็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ตสำหรับเกษตรกรโดยเฉพาะ   เพื่อที่จะจ่ายให้เฉพาะเกษตกร ต้องไปหามา 17 ล้านคนก็ว่าเหนื่อย  ตัวระเบียบและกฎหมายต่างๆก็ควรจะทำให้เรียบร้อยเช่นเดียวกัน.-314.- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 10 มิ.ย.-สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (9 มิ.ย.68) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของให้ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทหารชายแดน ประกอบด้วย เงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ , พระ และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตย ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา.-313.-สำนักข่าวไทย