ยื่นผู้ตรวจการฯ ส่งศาล รธน. ชี้ขาด MOU 2544 ไทย-กัมพูชา เป็นโมฆะ

ผู้ตรวจการแผ่นดิน 10 เม.ย.-“ไพบูลย์” ขอใช้สิทธิยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาล รธน.ชี้ขาด MOU 2544 ไทย-กัมพูชา เป็นโมฆะ เหตุไม่ได้ความเห็นชอบจากรัฐสภาไทย ไม่มีผลผูกพันไทย

นายไพบูลย์  นิติตะวัน  นักกฎหมาย ยื่นหนังสือขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ของบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา   ว่าด้วยพื้นที่ไทยและกัมพูชา  อ้างสิทธิในหลายทวีปทับซ้อนกัน  หรือ MOU 2544 ในฐานะบุคคลหนึ่งของปวงชนชาวไทย ที่มีสิทธิในเขตอธิปไตยของไทยทางทะเลอ่าวไทยและผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติของไทย ในทะเลอ่าวไทยตามรัฐธรรมนูญ 2560  หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของคนชนชาวไทย   ซึ่งถูกละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญโดยตรง และอาจได้รับความเสียหายโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  อันเนื่องมาจากการถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพยังคงอยู่จากการกระทำของกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และกระทรวงการต่างประเทศในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2  ในการทำ MOU 2544 ซึ่งหน่วยงานทั้งสองใช้เป็นเครื่องมือในการแบ่งเขตอธิปไตยของไทย  ทางทะเลอ่าวไทย บนพื้นที่ 26,000 ตารางกิโลเมตร    หรือ 16 ล้านไร่   และใช้เป็นเครื่องมือเป็นประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติในทะเลอ่าวไทย  ซึ่งมีมูลค่า 20 ล้านล้านบาท ให้แก่กัมพูชา  ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอธิปไตยของไทยทางทะเลและผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติของไทยในทะเลทั้งหมด ตามแผนที่แนวเขตไหล่ทวีปของไทย  ด้านอ่าวไทยแนบท้ายตามประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของไทยที่กำหนดแนวเขตขึ้นตรงตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล 1982


ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า MOU 2544 มีสถานะเป็นหนังสือสัญญามีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ   ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา  ตามบรรทัดฐานคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 11/2542  คำวินิจฉัยที่ 33/2543   และคำวินิจฉัยที่ 6-7/2551 และปรากฏหลักฐานว่าหน่วยงานของรัฐทั้งสองยอมรับว่า MOU 2544 มีสถานะเป็นหนังสือสัญญาหรือสนธิสัญญา  ที่เสนอต่อรัฐสภาเพื่อความเห็นชอบ     แต่ปรากฏว่า MOU ฉบับดังกล่าว  กระทำขึ้นโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาไทย   จึงมีผลให้เป็นบทบัญญัติใดหรือการกระทำใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงมีผลบังคับใช้ไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 5 และมีผลให้ MOU 2544 ตกเป็นโมฆะทั้งฉบับ ตั้งแต่เริ่มแรกและมีผลในทางกฎหมายไม่ผูกพันรัฐภาคีทั้งสองตามหลักการเรื่องความไม่สมบูรณ์แห่งสนธิสัญญา  ซึ่งบัญญัติไว้ในอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยสนธิสัญญาค.ศ. 1969   

ทั้งนี้หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU ฉบับดังกล่าวเป็นสัญญาที่กระทำโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ก็จะส่งผลให้ตกเป็นโมฆะทั้งฉบับ  ตั้งแต่เริ่มแรกและไม่มีผลผูกพันไทยจะเป็นประโยชน์ต่อไทย   หากมีข้อพิพาทเรื่องอธิปไตยของไทยทางทะเลอ่าวไทยไปสู่ศาลกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ   ซึ่งจะทำให้ฝ่ายกัมพูชาไม่อาจกล่าวอ้างว่า MOU 2544 เป็นหลักฐาน ว่าไทยยอมรับว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อนไทยกัมพูชาจะทำให้เขตอธิปไตยของไทยทางทะเลอ่าวไทยพื้นที่ 16 ล้านไร่   และผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติมูลค่า 20 ล้านล้านบาทของไทยในทะเลอ่าวไทย  เป็นของไทยทั้งหมดตามกฎหมายระหว่างประเทศ    และหากฝ่ายกัมพูชาโต้แย้งเป็นข้อพิพาทในเรื่องเขตอธิปไตยทางทะเล     จึงเห็นว่าเพื่อให้ได้ข้อยุติระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีและรวดเร็ว   และจะเป็นประโยชน์กับฝ่ายไทย  เห็นว่าฝ่ายไทยควรเป็นฝ่ายดำเนินข้อพิพาทในเขตอธิปไตยทางทะเลฟ้องต่อศาลกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ที่นครฮัมบรูกส์ สหพันธรัฐเยอรมนี    ซึ่งเป็นกลไกตุลาการอิสระของสหประชาชาติมีอำนาจตัดสินข้อพิพาทเกี่ยวกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล  ค.ศ. 1982


นายไพบูลย์   ย้ำว่าการมายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน  อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 46 วรรค 1 มาตรา 47 และมาตรา 48     ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า MOU 2544    เป็นหนังสือสัญญาที่กระทำการโดยไม่ได้ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา บทบัญญัติ หรือการกระทำที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญเป็นอันใช้บังคับไม่ได้    ตกเป็นโมฆะทั้งฉบับ ตั้งแต่เริ่มแรก 

และขอให้มีคำสั่งให้กรมสนธิสัญญาและกระทรวงการต่างประเทศ ยกเลิกการกระทำในการนำ MOU ฉบับดังกล่าวมาใช้เป็นเครื่องมือดำเนินการแบ่งเขตอธิปไตยของไทยทางทะเลอ่าวไทยและแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติทางทะเลของไทยให้แก่กัมพูชา     นอกจากนี้เห็นว่าหากผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญ   ตนจะขอเป็นผู้ร้องที่ 2 ร่วมกับผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อจะมีสิทธิ์ในฐานะคู่ความ  นำเสนอพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ     แต่หากตรวจการแผ่นดินมีมติไม่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 60 วันก็จะใช้สิทธิ์ยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ

นายไพบูลย์ ยังกล่าวอีกว่า  อยากให้รัฐบาลเป็นผู้ริเริ่มส่งเรื่องไปยังศาลกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ   ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า MOU 2544 ตราขึ้นโดยขัดรัฐธรรมนูญ  และไทยส่งเรื่องไปยังฝ่ายกัมพูชา หากกัมพูชาไม่เห็นด้วย เกิดเป็นข้อพิพาทระหว่าง 2 ประเทศสามารถส่งศาลระหว่างประเทศให้หาข้อยุติ    ซึ่งจะทำให้ได้ข้อยุติรวดเร็วและเป็นวิธีสันติ   เชื่อว่าน่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี


ส่วนวันนี้ที่ฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่าพื้นที่ทับซ้อนเป็นของไทยนั้น  ส่วนตัวเห็นว่ากรณีนี้ทำให้สังคมเกิดความสับสน เพราะทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายที่คัดค้านให้ข้อมูลตรงกัน ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นเป็นเพียงเกาะกูด   ส่วนตัวเห็นว่าไม่ใช่ประเด็นเพราะอย่างไรก็เป็นของไทย แต่ตนพูดถึงอธิปไตยทางทะเล โดย MOU 2544  แบ่งออกเป็น 3 ส่วน   โดยส่วนแรกอยู่ระหว่างการพูดคุยกันมีปัญหาเรื่องเขตแดน    ส่วนที่ 2 และ 3 ยอมรับว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน จึงสงสัยว่าจะแบ่งปันผลประโยชน์กันอย่างไร     และการออกมาโต้แย้งกันไม่มีการพูดถึงภาพรวมพื้นที่ทั้ง 16 ล้านไร่ตาม MOU 2544   แบ่งพื้นที่    เว้นเกาะกูด   ขณะที่เขตไหล่ทวีปของเกาะกูดไม่ได้นำมาพูดกลับกลายเป็นการยอมรับแผนที่ของฝ่ายกัมพูชา      จึงเกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อน 16 ล้านไร่    ซึ่งมีหลักฐานยืนยันว่าทั้ง 16 ล้านไร่เป็นของไทยทั้งหมด    จึงไม่ต้องมีปัญหาเรื่องการแบ่งเขตอธิปไตยหรือผลประโยชน์ทางทะเล

อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะต้องไปที่ศาล แต่หากยังมี MOU 2544 และตกลงกันไม่ได้  เกรงว่าหากกัมพูชานำเรื่องนี้ยื่นต่อศาลก่อนโดยใช้ MOU 2544 เป็นหลักฐาน    ไทยจะเสียอธิปไตยและผลประโยชน์ทันที   ดังนั้นฝ่ายไทยจะต้องดำเนินการและยื่นเข้าสู่ศาลก่อนเพื่อไทยจะได้เปรียบ    นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาไม่นำเรื่องพื้นที่ 16 ล้านไร่เข้าสู่ศาลทะเลระหว่างประเทศ   เพราะรู้ว่าจะเสียเปรียบ  จึงรอการเจรจาตาม MOU 2544 เพื่อให้มีหลักฐานมัดไทยยื่นฟ้องต่อศาล และเชื่อว่า MOU 2544 ไม่มีวันเจรจาตกลงกันได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจบที่ศาล    แต่อยากจะจบที่ศาลโดยฝ่ายกัมพูชาเป็นคนยื่นหรือไทยเป็นผู้นำการยื่นก็ขึ้นอยู่กับจะคิด

“สำหรับผมข้อที่ 1 ไม่มีพื้นที่ทับซ้อน เป็นเขตอธิปไตยทางทะเลของไทยเป็นผลประโยชน์ของไทยทั้งสิ้น    มีแค่แจ้งฝ่ายกัมพูชาว่าเป็นของใครและตัดคำว่าพื้นที่ทับซ้อนออกไป   ถ้าฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมรับนำไปสู่ศาล   ข้อที่ 2 ประเด็นสำคัญคือไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจสับสนระหว่างอธิปไตยเกาะกูดกับ MOU 2544 ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน  ใช่เรื่องที่จะต้องไปพยายามบอกว่ารักษาอธิปไตยเกาะกูด    ซึ่งเกาะกูดทำให้ประเด็นมันเบี่ยง    เกาะกูดไม่มีวันเป็นของกัมพูชา   แต่ปัญหาคือพอเกาะกูดเป็นของไทย ตามกฎหมายทะเลจะต้องแบ่งเขตไหล่ทวีปเช่นเขตจะเป็นแบบไทย    ไม่มีพื้นที่ของกัมพูชาอยู่ในเส้นไหล่ทวีป   ดังนั้นจึงถือว่าเป็นปฏิบัติการทางกฎหมายเพื่อที่จะทวงคืน  พื้นที่อธิปไตยทางทะเลเนื้อที่ 16 ล้านไร่ของไทยและทวงคืนผลประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล พลังงานทางทะเลมูลค่า 20 ล้านล้านบาทที่เป็นของไทย  ทวงคืนกลับมาทั้งหมด ไม่แบ่งให้ใคร” นายไพบูลย์ กล่าว.-314 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

ครอบครัวสุดเศร้า “สารวัตรจ๊อบ” ฮ.ตก

25 พ.ค.- ครอบครัวสุดเศร้า ทราบข่าว “สารวัตรจ๊อบ” เสียชีวิตจากเหตุ ฮ.ตก เผยเพิ่งติดยศว่าที่ พ.ต.ต. ยังทำใจไม่ได้สูญเสียลูกชายคนเดียว เหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 ตกในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะปฏิบัติภารกิจทางอากาศยาน ร่วมภารกิจในพื้นที่ภาคใต้ โดยก่อนเกิดเหตุนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจาก จ.ชุมพร เพื่อกลับหน่วยบินตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางจะแวะเติมน้ำมันที่หน่วยบินฯ แต่เกิดอุบัติเหตุก่อน อุบัติเหตุครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านขายยา พบนางบุญสม ชูเลิศ อายุ 59 ปี มารดาของ ว่าที่ พ.ต.ต.ประเทือง ผู้เสียชีวิต ร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดยมีญาติรวมถึงเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งคอยปลอบด้วยความเป็นห่วง […]

งดเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักน้ำขุ่นเชี่ยว

เชียงใหม่ 25 พ.ค.- อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักตลอดคืน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก สำนักทรัพยากรน้ำที่ 1 ออกประกาศเตือนภัยเตรียมพร้อม (ระดับสีเหลือง) ที่บ้านหนองหอย ต.โป่งแยง อำเภอแม่ริม ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 103. มิลลิเมตร ทำให้ทางนายธงชัย นาราษฎร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย ได้มีคำสั่ง งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังเกิดฝนตกหนักสะสม ทำให้น้ำตกแม่สา มีสีขุ่นแดง กระแสน้ำเชี่ยว ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติออบขาน ประกาศปิดการท่องเที่ยว และพักแรมชั่วคราว สถานการณ์แม่น้ำขาน วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางอุทยานจะรีบอัปเดตสถานการณ์ให้ทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนลุ่มน้ำขานเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านห้วยโท้ง ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตองลงไป เฝ้าระวัง เนื่องจากระดับน้ำที่ผ่านหน้าอุทยานฯ ลงไป มีมวลน้ำจากอำเภอสะเมิง ไหลลงมาเติมต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

จนท.ลงพื้นที่เก็บชิ้นส่วน ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 25 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก บริเวณ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เก็บชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน พร้อมกั้นโดยรอบ ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศจุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก พื้นที่หมู่ 1 บ้านหนองกก ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่เกิดเหตุ พร้อมนำโปลิศไลน์มากั้นโดยรอบพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สารวัตรเวร เจ้าของคดี ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำทีมชุดพนักงานสอบสวน นำโดรนบินถ่ายภาพมุมสูง เพื่อตรวจสอบว่าชิ้นส่วนของเครื่องบินที่แตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณจุดไหนบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทยอยเก็บชิ้นส่วนที่ตกกระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน มารวบรวมไว้บริเวณเต็นท์อำนวยการจุดที่ตัวเครื่องบินตก และรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ ส่วนเศษชิ้นส่วนเครื่องบินบางส่วนที่รวบรวมได้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หรือต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินมาตรวจอย่างละเอียดก่อน ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเสียหายเป็นรู ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บชิ้นส่วนออกไปแล้ว ส่วนชิ้นส่วนหางขนาดใหญ่ที่ตกเฉียดบ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร นางใย ชาวบ้านที่ถูกชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเป็นรู เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะเกิดเหตุเครื่องบินตกตนเองพร้อมด้วยหลานอีก 2 คน ไปนั่งอยู่หลังบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินผ่านหลังคาบ้านมา และได้ยินเสียงปะทุ ดังติดต่อกัน 3 ครั้ง ซึ่งเห็นหางเครื่องบินตกลงมาก่อน ก่อนตัวเครื่องบินจะตกลง นอกจากนี้ได้ยินวัตถุชนิดหนึ่งตกลงบนหลังคาบ้าน จึงเข้ามาดูในบ้านพบว่าหลังคาเป็นรู และมีวัสดุตกลงมาอยู่ที่พื้น […]

นึกว่าสงคราม! โจ๋ยกพวกไล่ถล่มปาระเบิด

สมุทรปราการ 25 พ.ค.- แพรกษาเดือด! วัยรุ่นหลายสิบคนยกพวกปาระเบิดกลางถนน กว่า 10 ลูก ถล่มกันจนชาวบ้านผวาต้องหาที่กำบังหนีตาย กล้องวงจรปิดริมถนน ซอยมังกรขันดี ใกล้ตลาดแสงทอง ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จับภาพกลุ่มวัยรุ่น พากันขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง ขับวนไปมาภายในซอยดังกล่าว ก่อนเปิดฉากปาระเบิดปิงปองไม่ต่ำกว่า 15 ลูก ใส่กันกลางถนน จนเกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านหลายคนต้องวิ่งหาที่หลบภัย ขณะที่รถบางคัน ไม่กล้าขับผ่านต้องรีบวนรถกลับ หวั่นโดนลูกหลง กลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน นอกจากจะมีระเบิดปิงปองที่เตรียมมาปาถล่มใส่กันแล้ว ยังมีอาวุธมีดตะขอ ติดมือมาไล่ห้ำหั่นกันอย่างกับสงครามกลางเมือง หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษชิ้นส่วนระเบิดปิงปองแตกกระจายเกลื่อนถนน ส่วนวัยรุ่นที่ยกพวกตีกัน แยกย้ายกันไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง ตำรวจกระจายกำลังหาข้อมูล จนทราบว่า มีวัยรุ่นกว่า 20 คน ยกพวกไล่ทำร้ายกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง 2 ราย เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังซื้อข้าวอยู่ตรงตลาดบ่อทอง ได้ยินเสียงระเบิด 3 […]