ชลบุรี 30 มี.ค. – “เฉลิมชัย” โว เลือดเก่า ปชป. เตรียมไหลกลับ ส่วนใครบ้าง ขออุบไว้ก่อน หากบอกไปก็ไม่ตื่นเต้น พร้อมเตรียมลงพื้นที่พบปะชาวบ้านหลังประชุมใหญ่ เดือน เม.ย.
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมสัมมนา สส. พรรคประชาธิปัตย์ ว่า การสัมมนาวันนี้นอกจากจะมาคุยเรื่องอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 แล้ว ก็ต้องการให้คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และ สส. มาพักผ่อนและรับประทานอาหารร่วมกันเหมือนคนในครอบครัว เพราะต่างคนต่างแยกกันทำงาน ถึงเวลาวันหนึ่งที่ว่างก็มารับประทานอาหาร และพูดคุยปัญหากัน ยืนยันความขัดแย้งภายในพรรคไม่มีอะไรทั้งสิ้น ซึ่งตนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการเพิ่มสมาชิกเข้าพรรคกำลังดำเนินการอยู่ โดยการให้สมัครเป็นสมาชิกทางออนไลน์ ซึ่งภายในปีนี้น่าจะบรรลุเป้าหมายแต่ส่งหนึ่งที่กำลังจะเกิดคือตนกำลังประสานคนใหม่ๆ และคนที่เป็นสมาชิกเดิมให้กลับมาช่วยพรรค ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนจะเป็นใครกลับเข้ามาบ้างนั้น ขอรอให้ถึงเวลาก่อน ถ้าบอกตอนนี้ก็ไม่ตื่นเต้นอะไร
“ยืนยันว่าส่วนหนึ่งเป็นเลือดไหลกลับเข้ามาพรรค เพราะเลือดเก่าอีกส่วนหนึ่งเขาก็ไปมีสถานะที่พรรคการเมืองอื่นแล้ว อีกส่วนก็ประกาศหยุดเล่นการเมืองแล้ว อย่างไรก็ตามการเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองต้องเป็นทั้งอุดมการณ์ ความศรัทธา ไม่มีใครบังคับกันได้ คนที่เขาจะกลับมา ซึ่งคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ก็กลับมาช่วยกัน”นายเฉลิมชัย กล่าว
นายเฉลิมชัย ยังกล่าวถึงกิจกรรมของพรรคประชาธิปัตย์หลังปิดสมัยประชุม ว่า ในช่วงปิดสมัยประชุม จะมีกิจกรรมกิจกรรมฝ่ายค้านสัญจร ซึ่งจะต้องหารือและกำหนดพื้นที่ร่วมกันกับพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าจะลงพื้นที่ภาคใดบ้าง โดยอาจจะเป็นภาคละหนึ่งจังหวัด อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ หลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในเดือน เม.ย. แล้วจะมีโครงการผู้บริหารพรรคพบสาขาพรรค สาขาพรรคสมาชิกและประชาชน โดยมอบให้รองหัวหน้าพรรคภาคต่างๆประสานเลขาธิการพรรคเพื่อลงพื้นที่
ขณะที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในห้องสัมมนา สส. และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ด้วยหลักของพรรคการเมือง มีหลักสำคัญอยู่ 4 ส่วนคือ กรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค อดีต สส. และตัวแทนพรรค และประชาชนที่สนับสนุนให้มาเป็นผู้แทน สำหรับการประชุมสัมมนาในวันนี้ต้องนำ 2 ส่วนแรกคือ กรรมการบริหารพรรค และ สส. ที่ต้องร่วมกันคิด ร่วมกันกำหนดแนวทาง ที่สำคัญคือต้องมาเป็นหนึ่งเดียวเป็นเอกภาพ เพื่อขับเคลื่อนพรรคเดินไปข้างหน้า เพราะนอกจากระเบียบวาระต่างๆ และสิ่งสำคัญคือเราต้องละลายพฤติกรรม ใครมีอะไรเป็นความในใจ ก็ขอให้พูดคุยกันทั้งหมด โดยเฉพาะงานคืนนี้ที่จะมีการพบปะร่วมกัน ตนไม่อยากให้ทุกคนขาด ใครจะแนะนำอะไร ขอให้พูดคุยกันได้เลยซึ่งถือเป็นก้าวแรกของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะนำพาไปพาพรรคไปข้างหน้า.-312-สำนักข่าวไทย