สภาฯ ไฟเขียวเสนอรายงานเปิดกาสิโน แก้ปัญหาการพนันผิด กม.

รัฐสภา 28 มี.ค. – สภาฯ เอกฉันท์ 253 เสียง ไฟเขียวเสนอรายงานเปิดกาสิโน พลิกพนันผิด กม. สร้างรายได้ให้ ปท.ถึงรัฐบาล ชงเก็บภาษี 17% คาดได้ค่าธรรมเนียมแสนล้าน/ปี สส. ยังเสียงแตก หวั่นรัฐรับมือผีพนันไม่ไหว คนไทยอ่อนภาษายังตกงาน สุดท้ายซ้ำรอยสีหนุวิลล์


ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา “รายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ” ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเสร็จ โดยเห็นว่า หากจะมีการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรในประเทศ รัฐควรลงทุนร่วมกับเอกชน หรือให้สัมปทาน หรือใบอนุญาตแก่เอกชน และควรมีกระบวนการสร้างความเชื่อมั่น เปิดเวทีประชาคมในพื้นที่ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน และยกระดับกีฬาวัฒนธรรมไทยขึ้นมาเป็นการพนันถูกกฎหมาย เช่น มวยไทย ไก่ชน ปลากัด ม้าแข่ง เป็นต้น

สำหรับผลการศึกษาของกรรมาธิการฯ พบว่า การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศนั้น ในผลกระทบเชิงบวก กรรมาธิการฯ พบว่า จะช่วยลดอัตราการว่างงานของคนในพื้นที่ลดลง และจะเกิดการจ้างงานมากขึ้น ประชาชนหันไปพึ่งการพนันผิดกฎหมายลดลง ทำให้ปัญหาการเกิดอาชญากรรม และการฆ่าตัวตายลดลง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ก็อาจจะเกิดผลกระทบเชิงลบ เช่น การติดพนันของบุคคล และเยาวชน จนเกิดปัญหาอาชญากรรมตามมา เกิดปัญหาครอบครัว ยาเสพติดภายในสถานบันเทิง-นักท่องเที่ยว และหนี้สิน รวมถึงอาชญากรรมข้ามชาติ ที่กระทบต่อความมั่นคงประเทศ


ขณะที่ ผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตมากขึ้น เกิดการจ้างงาน กระตุ้นการไหลเวียนของเงินในระบบไม่ให้ไหลออกนอกประเทศ นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น เกิดการค้าขาย การจัดเก็บภาษีซึ่งอัตราสูงกว่าปกติ หรือ ภาษีกาสิโน ร้อยละ 17 รวมถึงรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตจากธุรกิจปีละหลายแสนล้านบาท สามารถนำงบประมาณมาพัฒนา และขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศได้ เพราะที่ผ่านมาการห้ามกาสิโนในประเทศไทย ทำให้ประชาชนออกไปเล่นในต่างประเทศ ลดภาระการปราบบ่อนเถื่อน ลดปัญหาผู้มีอิทธิพล แต่ก็มีผลกระทบเชิงลบ ที่อาจทำให้ประชาชนติดพนันจนเป็นนิสัย ไม่สนใจประกอบอาชีพสุจริต ทำให้เงินไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต เกิดปัญหาศีลธรรม ลักทรัพย์ ฉ้อโกง หรืออาจเป็นแหล่งฟอกเงินผิดกฎหมาย

นอกจากนั้น กรรมาธิการฯ ยังพบว่า การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร อาจขัดต่อจริยธรรมทางศาสนา เช่น ในศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ที่การพนันถือเป็นอบายมุข และห้ามการเล่นการพนันอย่างเข้มงวด

ขณะเดียวกัน กรรมาธิการฯ ยังได้ยกร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรโดยเฉพาะ เพื่อกำหนดมาตรการต่าง ๆ ในการกำกับดูแลการดำเนินกิจการของการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรในภาพรวม


ขณะที่ การอภิปรายของ สส.ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ต่างให้การสนับสนุนรายงานฉบับนี้ เพื่อแก้ไขสิ่งผิดกฎหมาย มาทำให้ถูกกฎหมาย และเกิดรายได้แก่ประเทศ พร้อมเสนอให้รัฐบาล หากจะเปิดกาสิโน ควรเปิดที่เมืองรอง และมีการคมนาคมสะดวก เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจในจังหวัด และยังแนะนำว่า รัฐบาลควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจว่า สถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex นั้น ไม่ได้มีเพียงกาสิโนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงศูนย์การประชุม สวนน้ำ หรือยอร์ช-ครูซซิ่งคลับ พื้นที่ส่งเสริมสินค้าวัฒนธรรมไทยและ OTOP

ขณะเดียวกัน ก็ยังมี สส.อีกส่วนหนึ่ง ยังกังวลกับรายงานของกรรมาธิการฉบับนี้ เนื่องจากเห็นว่า การเปิดคาสิโน ไม่สามารถแก้การพนันผิดกฎหมายได้ เพราะต้องมีผู้ที่เข้าไม่ถึงกาสิโน แอบไปเล่นบ่อนผิดกฎหมาย จนอาจจะซ้ำรอย ถูกปล่อยร้างอย่างสีหนุวิลล์อย่างกัมพูชา และยังไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะรับมือกับคนไทยติดการพนัน หรือปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ ไหวหรือไม่ และกังวลว่า จะไม่เกิดอัตราการจ้างงานจริง เนื่องจากคนไทยจำนวนมากยังไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้

ทั้งนี้ ในการลงมติเพื่อให้ความเห็นชอบรายงานฉบับนี้ เป็นไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากตามธรรมเนียมการปฏิบัติที่ผ่านมา หากเป็นรายงานที่ สส. อภิปรายไปในทิศทางเดียวกันและไม่มีใครเห็นแย้ง ก็จะถือว่าที่ประชุมให้ความเห็นชอบ และส่งรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อที่ 88 และตามข้อตกลงของวิปฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล แต่นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล เห็นว่าในการอภิปรายของ สส. ครั้งนี้ ยังมีผู้ที่ไม่เห็นด้วย รวมถึงยังมีประชาชนมายื่นหนังสือคัดค้านที่รัฐสภา ดังนั้น จึงขอตรวจสอบความมุ่งมั่นของรัฐบาล ด้วยการนับองค์ประชุมแบบกดบัตรแสดงตน จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกันในที่ประชุม ระหว่างพรรคก้าวไกล ที่กล่าวหาตำหนิพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทย ไม่รักษาข้อตกลงวิป จนทำให้นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ขู่ฝ่ายค้าน ถึงการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลในสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะขอนับองค์ประชุม จนสุดท้าย นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอให้ที่ประชุมนับองค์ประชุมแบบขานชื่อรายบุคคล เพื่อตรวจสอบองค์ประชุมของฝ่ายค้านด้วย แต่ที่ประชุมก็ไม่สามารถตกลงกันได้ ว่าจะใช้วิธีการขานชื่อ หรือกดบัตรแสดงตน จนทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ใช้อำนาจวินิจฉัย ให้ใช้วิธีการขานชื่อรายบุคคล โดยผลปรากฏว่า ฝ่ายค้าน แม้จะอยู่ในที่ประชุมแต่ไม่ขานชื่อแสดงตน โดยมี สส.รัฐบาล เข้าร่วมประชุม 258 คน ก่อนที่ที่ประชุมจะลงมติให้ความเห็นชอบรายงานดังกล่าว ด้วยมติเอกฉันท์ 253 เสียง โดยที่ฝ่ายค้าน แม้จะไม่เห็นชอบ แต่ก็ไม่ได้ลงมติ ซึ่งภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติให้ความเห็นชอบรายงานดังกล่าวแล้ว ก็จะส่งต่อไปยังรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]