“โรม” จี้ขอชื่อหมอที่อนุมัติ “ทักษิณ” นอนชั้น 14

รัฐสภา 28 มี.ค.-สภาฯ เถียงกันวุ่น หลัง “รังสิมันต์” พาดพิง “ทักษิณ” ถามทำไมต้องแยกรักษาตัวชั้น 14 จี้ขอชื่อหมอที่อนุมัติ ขอดูสภาพห้อง เชื่อไม่ป่วยจริง อย่าอ้างคาร์บอมบ์ปี 49 ด้าน รมว.ยธ.แจงเหตุเกิดในรัฐบาลที่แล้ว ผูกพันแต่ไม่เคยไปเยี่ยม หวั่นสังคมแคลงใจ


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามเรื่อง ขอทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เกี่ยวกับการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ ที่นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ถามนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ก่อนเริ่มถามกระทู้ นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ท้วงติงว่า เป็นกระทู้ที่เจาะจงบุคคลภายนอก และถามมาแล้วซ้ำ ๆ หลายครั้ง ขอให้ประธานวินิจฉัยว่าอาจจะผิดข้อบังคับ และขอให้ผู้อภิปรายยืนยันว่าจะไม่พาดพิงบุคคลภายนอก อย่างไรก็ตาม ประธานชี้แจงว่ากระทู้นี้ผ่านการวินิจฉัยโดย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่วินิจฉัยแล้วว่าเหมาะสมและสามารถบรรจุเข้าระเบียบวาระได้

นายรังสิมันต์ โรม ขอทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เกี่ยวกับการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ ซึ่งเป็นกระทู้ที่ถามไว้ก่อนหน้านี้ กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวอยู่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทันทีที่พูดถึงชื่อนายทักษิณก็ถูกนายไชยวัฒนาประท้วงทันทีว่าขอแล้วว่าอย่าพูดชื่อบุคคลภายนอก ซึ่งไม่สามารถมาชี้แจงได้ ทำให้ประธานต้องขอร้องว่าอย่าเอ่ยถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น ทำให้นายรังสิมันต์โรมกล่าวว่างั้นขอเปลี่ยนเป็นนายโทนี่พักอยู่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ แต่ประธานก็ขอว่าอย่าใช้ชื่อดังกล่าว ทำให้นายรังสิมันต์ขอใช้คำว่าอดีตนายกรัฐมนตรีก็แล้วกันเป็นที่รู้กัน


นายรังสิมันต์ กล่าวการที่อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าประเทศไทยต้องเจออะไรบ้าง ตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 ซึ่งต้องยอมรับว่าจากสถานการณ์ในวันนั้นจนถึงปัจจุบัน มีความอยุติธรรมเกิดขึ้นจำนวนมากไม่ว่าจะเกิดขึ้นต่ออดีตนายกรัฐมนตรี ต่อครอบครัว แต่ต้องย้ำว่าความยุติธรรมเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นต่อวงศ์ตระกูลของอดีตนายกรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียวแต่ประชาชนอีกจำนวนมากก็ได้รับความไม่เป็นธรรมในลักษณะเดียวกัน

“การที่อดีตนายกรัฐมนตรีมาพักอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 เท่าที่เช็คมา ห้องพักเป็นลักษณะของ VIP ที่ผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมคนอื่นไม่สามารถได้รับสิทธิ์ตรงนี้ได้ ในแง่การดำเนินการถือว่าหลายมาตรฐาน จะเห็นได้ว่าในกฎกระทรวงเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องตรวจสอบสิทธิ์รักษาให้เป็นไปตามที่ทางราชการจัดให้ และห้ามผู้ต้องขังแยกตัวจากผู้ป่วยทั่วไปแล้วเข้าอยู่ในห้องพักพิเศษ เว้นแต่ต้องพักรักษาตัวในห้องควบคุมตามสถานที่รักษาผู้ต้องขังตามข้อ 3 จัดให้  การอ้างเรื่องความปลอดภัย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมชี้แจงที่ประชุมสว. เนื่องจากเคยมีเหตุการณ์คาร์บอมบ์เกิดขึ้นต่ออดีตนายกรัฐมนตรี จึงต้องเอาไปรักษาตัวเอาไว้ในชั้น 14 จึงมีคำถามว่ามีรายงานหรือมีข้อมูลข่าวกรองหรือไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ลอบสังหารหรือทำร้ายอดีตนายกรัฐมนตรี การพักในโรงพยาบาลตำรวจซึ่งควรจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยอยู่แล้วไม่ปลอดภัยได้อย่างไร การไปพักรักษาตัวในห้องอื่นปลอดภัยน้อยกว่าห้องชั้น 14 อย่างไร” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สามารถแสดงให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเห็นได้หรือไม่ว่าห้องพักที่อดีตนายกรัฐมนตรีไปพักรักษาตัว มีสภาพ หน้าตาอย่างไรและทำไมถึงจำเป็นต้องแยกตัวอดีตนายกรัฐมนตรีออกจากผู้ที่รักษาตัวคนอื่น ๆ เพราะโดยหลักคือรวมกับผู้รักษาตัวคนอื่น ๆ ถ้าจะแยก ต้องเป็นการควบคุมพิเศษ ต้องมีเหตุผลรองรับว่าคืออะไรถ้าอ้างคาร์บอมบ์ ต้องมีหลักฐานยืนยันถึงรายงานดังกล่าว และเมื่อเทียบกับนักโทษคนอื่นกรณีนายเอกชัย หงส์กังวาล ซึ่งเป็นฝีในตับ ซึ่งร้ายแรง ปรากฏข้อเท็จจริงว่า หลังจาก พักรักษาตัวในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็ถูกเร่งให้ส่งตัวกลับไปที่เรือนจำ จึงถามว่าร้ายแรงน้อยกว่ากรณีของนายทักษิณอย่างไร และ ขอทราบชื่อแพทย์ที่รักษาอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติไม่ห้ามคนเปิดเผยชื่ออย่างแน่นอน


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตอบกระทู้แทนนายกรัฐมนตรี ว่า เราควรทำความจริงให้ปรากฏ แล้วถ้าความจริงปรากฏความชั่วร้ายก็จะหายไป ยืนยันกรณีนายทักษิณไม่ได้เลือกปฏิบัติ ตนยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และในการบริหารราชการแผ่นดิน ยึดมั่นในกฎหมายรัฐธรรมนูญ หลักยุติธรรมและนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา นายทักษิณเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว โดยที่นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะรสช.ที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งหลายคนสงสัยว่าเหตุใดอดีตนายกรัฐมนตรีจึงได้ตัดสินใจเข้ามา โดยไม่รอรัฐบาลใหม่ ซึ่งขณะนั้นยังไม่จัดตั้งรัฐบาล แต่ตนถือว่านายทักษิณมีความกล้าหาญที่มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในวันที่ 22 สิงหาคม โดยที่นายเศรษฐา ทวีสินยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และยังไม่ทราบว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมขณะนั้น มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีรักษาการ

“สิ่งที่ปรากฏคือนายทักษิณเข้าไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจและชั้น 14 ซึ่งรัฐบาลนี้ ทั้งนายเศรษฐาและผมคงไม่ไปขอร้องนายวิษณุและนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เพราะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมก็เป็นคนลุกขึ้นอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงถือว่านายทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยที่วันนี้เปลี่ยนแค่ตัวปลัดกระทรวงยุติธรรม ส่วนอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพิ่งเกษียณไปและผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยังเป็นคนเดิม ทั้งที่ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ควรจะได้รับการโปรโมทให้ขึ้น เพราะอาวุโสสูงสุด แต่ไม่กล้าเปลี่ยน กลัวสังคมตำหนิว่าผมเปลี่ยนคน เพื่อจะมาช่วยอดีตนายกรัฐมนตรี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน รัฐบาลแถลงนโยบายรัฐบาล เมื่อตนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็นำเรื่องมาดู โดยนำกฎหมายราชทัณฑ์ที่นายณัฐวุฒิ บัวปทุม ส.สบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลเป็นคนร่าง ซึ่งเปลี่ยนหลักการจากการแก้แค้น การข่มขวัญ การยับยั้งมาสู่การฟื้นฟู คือคุกไม่ได้มีไว้ให้คนเข้าแล้วไม่ออก ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เกิดมาก่อนรัฐบาลชุดนี้เข้ามา สิ่งสำคัญที่สุดเพราะเรือนจำถูกมองว่าเป็นแหล่งละเมิดสิทธิมนุษยชน เนื่องจากโครงสร้างบรรจุคนได้ประมาณแสนเจ็ดถึงแสนแปด แต่เรามีนักโทษถึง 280,000 บาท เกินมากว่าแสนคน จะต้องมีมาตรการอื่นมาจำคุกแทน คือที่คุมขังอื่นและยังเขียนกฎกระทรวงไว้เรื่องการส่งผู้ต้องขังไปรักษาตัวข้างนอก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบแล้ว หากหมอบอกให้ไป ไม่มีกรณีไหนที่ผู้บัญชาการเรือนจำไม่ให้ไปและการที่นายทักษิณไปอยู่ชั้น 14 อยู่ในช่วงรัฐบาลชุดเก่า และตามระเบียบการพักรักษาตัวในห้องควบคุมพิเศษเป็นตามที่สถานรักษาผู้ต้องขังจัดให้ ซึ่งกรณีนี้แพทย์ไม่ได้จัดให้ และสถานรักษาคือโรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นตรงกับผบ. ตร. และในระบบกฎหมายใหม่ การควบคุมคือไม่ให้หนี ไม่ให้เกิดเหตุร้าย ไม่ให้เกิดภัยอันตราย และทางกรมราชทัณฑ์ก็มองเหตุผลว่าการดูแลเรื่องความปลอดภัยก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเคยมีเหตุการณ์คนร้ายลักษณะคาร์บอมใกล้บ้านของนายทักษิณเมื่อปี 2549

“อันนี้อาจจะเป็นเหตุหนึ่ง ผมไม่ทราบดุลยพินิจของขณะนั้น ว่าทำไมถึงเอาไปไว้ชั้น 14 แต่เป็นเรื่องที่สอบถามทุกคนก็ต้องกลัว ถ้าท่านเป็นอะไรไป บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร จริงอยู่ท่านมีสถานะเหมือนผู้ถูกปฏิบัติทั่วไป ซึ่งสังคมเรายังไม่ยอมรับที่คุมขังอื่น จึงทำให้ไม่ได้ออกระเบียบตามมาตรา 33 34 ทั้งที่กฎหมายนั้น ท่านณัฐวุฒิเป็นคนขอให้ออกในขณะนั้นก็ยังไม่ออก พอผมเข้ามา หลักอันแรกมีผู้ต้องขังอยู่ระหว่างการพิจารณา 50,000 คนกับเด็ดขาดแยกจากกัน เมื่อเราจะธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญ เราต้องกล้าปฏิบัติซึ่งขณะนี้ก็พยายามทำอยู่และผมจะพยายามทำให้เสร็จภายใน 2 ปี 3 ปี  ขณะนี้กำลังออกจากกระทรวงผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดี อาจไปอยู่ที่บ้านก็ได้เพื่อให้เขาต่อสู้คดี ผมเห็นแล้วมันแล้วเศร้าใจคนที่ได้รับการประกันตัวไปใส่สูท แต่คนที่อยู่ในเรือนจำใส่ชุดลูกวัวไปศาล” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

ส่วนที่ถามว่าผู้ต้องขังการเมืองและผู้ต้องขังอื่นปฏิบัติเหมือนกันหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องในอดีต แต่ปัจจุบันตนได้ทำแล้ว มีโครงการราชทัณฑ์ปันสุขวันนี้ผู้ต้องขังทั้งประเทศมี 129 เรือนจำหากไปโรงพยาบาลจะมีห้องพิเศษจะเหมือนกับห้องของนายทักษิณหรือไม่ ไม่ได้เข้าไปดู แม้จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและมีความผูกพันกันอย่างไร แต่ก็ต้องไม่ทำให้สังคมเกิดความคลางแคลง ขอยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรมยุคนี้จะสร้างความยุติธรรมให้กับทุกคนทำความยุติธรรมถ้วนหน้าแม้แต่ในเรือนจำ

“อยากให้สังคมเข้าใจว่าโรงพยาบาลขณะนี้คือที่คุมขังอื่น ดังนั้น นักโทษคนอื่นที่ไปนอนโรงพยาบาล ระยะเวลาเท่าไหร่ก็นำไปหักโทษเช่นกัน ที่สำคัญที่สุดกฎหมายฉบับที่ร่างนี้ คนในราชทัณฑ์ไม่มีอำนาจเลย ยืนยันกับสว.ว่าทำตามกฎหมาย บุญคุณกับการถูกกฎหมาย ผมเลือกการถูกกฎหมาย แต่กฎหมายกับความถูกต้องจะไปด้วยกันหรือไม่ เราสมาชิกรัฐสภาต้องมาแก้ให้กฎหมายกับความถูกต้องเท่ากัน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

จากนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เข้าใจถึงความยากลำบากในการที่จะตอบคำถามในเรื่องนี้ และทราบดีว่าเป็นเรื่องที่ตอบไม่ง่าย ยิ่งรัฐมนตรีทิ้งท้ายว่ามีทั้งเรื่องบุญคุณและเรื่องกฎหมาย เป็นการสะท้อนว่าท่านอยู่ในจุดที่จะตอบเรื่องนี้ลำบาก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบุคคล เป็นเรื่องของมาตรฐานยุติธรรมว่าอยู่ตรงไหน ยอมรับว่าอดีตนายกรัฐมนตรีเข้ามาก่อนตั้งรัฐบาลชุดนี้ แต่ก็อยู่จนจบจนรัฐบาลนี้ตั้งได้แล้ว และบริหารงานมาเป็นเวลานาน ซึ่งแน่นอนว่ากฎหมายให้อำนาจรัฐมนตรีใช้ดุลยพินิจน้อยมาก แต่รัฐมนตรีมีหน้าที่กำกับให้คนในกระทรวงปฏิบัติให้ชอบด้วยกฎหมาย จึงถามว่าตอนที่พูดถึงกฎกระทรวง ไม่ให้แยกผู้ต้องขังจากคนอื่น ถ้าจะแยกต้องอยู่ในห้องควบคุมพิเศษ แล้วมีความจำเป็นอะไร ที่ต้องอยู่ในห้องควบคุมพิเศษ ช่วยยืนยันได้หรือไม่ว่าห้องพักชั้น 14 มีหน้าตาอย่างไร ขอให้แสดงออกมาให้ประชาชนได้เห็น

“ส่วนประเด็นคาร์บอมบ์เรื่องตั้งแต่ปี 2549 แต่ปีนี้ปีอะไร ผมถามว่าวันนี้อดีตนายกรัฐมนตรีออนทัวร์ไปที่ต่าง ๆ ไม่มีคาร์บอมบ์ ไม่มีเหตุการณ์อะไรเลย ไม่รักษาความปลอดภัยแน่นหนา ประชาชนทั่วไปเข้าถึงอดีตนายกรัฐมนตรีได้ง่าย ยิ่งยืนยันหรือไม่ว่าคาร์บอมบ์ไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านเข้าใจ  หรือหากรัฐมนตรีมีข้อมูลบอกมาว่าจะมีคาร์บอมบ์ ผมนรับฟัง แต่ช่วยตอบผมด้วยว่าการอยู่ชั้น 14 กับอยู่ห้องทั่วไปต่างกันอย่างไร ที่ผมยังไม่ได้รับคำตอบคือชื่อหมอ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม จึงอยากขอชื่อหมอที่รักษา ผมจะได้ไปดำเนินคดีกับเขาได้ เพราะวันนี้พิสูจน์แล้วว่าคนคนนี้ไม่ได้ป่วยอะไร ผมเข้าใจว่าท่านพยายามแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิ์ในเรือนจำ แต่การที่มีนักโทษอดีตนายกรัฐมนตรีบางคน ได้รับสิทธิพิเศษแบบนี้ ไม่ได้ทำให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนในเรือนจำลดลง ที่ผมตั้งคำถาม ไม่ได้ถกเถียงข้อกฎหมายว่าคนแก้เป็นอย่างไร แต่กำลังบอกว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐอาจจะทำผิดกฎหมาย วันนี้เราเห็นแล้วว่าอดีตนายกรัฐมนตรีสุขภาพดี แข็งแรง ลุกนั่งได้ กราบพระได้ จำคุณยายท่านหนึ่งที่ไม่ได้เจอกันมานานได้” นาย รังสิมันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่าง การซักถามกระทู้สส.พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะ เมื่อพาดพิงถึงนายทักษิณ โดยมองว่าเป็นการพาดพิงบุคคลภายนอกและเป็นความพยายามในการอธิบาย ไม่ใช่การถามกระทู้ ทำให้ประธานในที่ประชุมต้องเตือนนายรังสิมันต์ว่าข้อมูลรายละเอียดให้เอาไว้ตอนอภิปรายทั่วไป และไม่อนุญาตให้ขึ้นสไลด์แล้ว ทำให้นายรังสิมันต์ ไม่พอใจยืนยันว่าต้องการถามจากสไลด์ โดยจะนำสไลด์ให้รัฐมนตรีดู แต่ประธานปิดไมโครโฟน

นายวันมูหะมัดนออร์ กล่าวว่า ต้องดำเนินการประชุมให้เป็นไปด้วยดี ตนเข้าใจนายรังสิมันต์ดี แต่ต้องทำตามข้อบังคับ ไม่เช่นนั้นจะมีคนประท้วงอีก จึงไม่อนุญาตให้ใช้สไลด์แล้ว เพราะเป็นการอธิบาย ทำให้นายรังสิมันต์ตะโกนเสียงดังว่า ตนกำลังจะถามจากสไลด์ให้รัฐมนตรีดู แล้วทำไมถึงมาปิดไมโครโฟน แต่ประธานก็ยืนยันว่าเป็นอำนาจของประธาน ดังนั้น คำถามได้เลย ทำไมถามไม่ได้ และว่า “ถ้ายังพูดต่อไม่หยุด ผมจะเชิญออกจากห้องประชุม ขอให้เข้าใจผมด้วย เพราะประธานต้องดูแลการประชุมให้เป็นไปตามระเบียบ จะมาตวาดใส่ผมได้อย่างไร เพราะวินิจฉัยแล้วว่าถ้าเอาขึ้นมาก็ประท้วงอีก ดังนั้น ถามได้เลย ทำไมคุณถามไม่ได้ ผมไม่อนุญาตและจะปิดกระทู้นี้แล้ว”

ขณะที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ใช้สิทธิกรณีที่พ.ต.อ.ทวีพาดพิงถึงหลายครั้งกรณีที่ตนเป็นกรรมาธิการฯ พิจารณาพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ในสมัยสนช.ว่า ตนเป็นกรรมาธิการฯ ในฐานะภาคประชาสังคม ในการแก้ไขพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคก้าวไกล เพราะขณะนั้นยังไม่ได้ก่อตั้งพรรค และตนไม่ได้เป็นผู้ยกร่างฯ แต่ได้รับเชิญให้เป็นกรรมาธิการวิสามัญ เมื่อปี 2560 โดยที่ยังไม่ได้เป็นนักการเมือง ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่พรรคอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกลจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พ.ต.อ.ทวีอย่าสื่อสารกล่าวหาตน เป็นผู้พยายามคุมประเด็นการแก้ไขร่างกฎหมาย และตนไม่ได้เขียนระเบียบหรือกฎกระทรวงใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นการสรุปบทเรียนในอดีตของกรรมาธิการฯ ที่หากไม่ออกระเบียบรองรับกฎหมาย หน่วยงานก็จะไม่ดำเนินการ จึงต้องกำหนดกรอบเวลา และยกร่างระเบียบเผื่อไว้ ให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจได้ตัดสินใจใช้ ซึ่งตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว การทำหน้าที่ของตนเพื่อรักษาสิทธิ เพื่อทุกคนในประเทศ แต่ไม่ได้เพื่อเอกสิทธิ์ของใครคนใดคนหนึ่ง ทำให้พ.ต.อ.ทวีกล่าวขอโทษนายณัฐวุฒิกรณีที่พาดพิงจนเกิดความเสียหาย พร้อมยังตั้งข้อสังเกตต่อพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ที่ สนช.พิจารณาในวาระแรกอีกว่า มีการเสนอไม่ถึง 10 มาตรา แต่เมื่อผ่านวาระที่ 3 แล้ว กลับเพิ่มออกมาเป็นกว่า 70 มาตรา .-312.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย

“หลวงพ่ออลงกต” ลาออกเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุแล้ว

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. พระธรรมวชิรสุนทร เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เรื่อง ให้พระสังฆาธิการลาออกจากตำแหน่ง ด้วย พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นั้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 37 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2551) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่2) พ.ศ.2535 จึงอนุญาตให้พระราชวิสุทธิประชานาถ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 19 ส.ค.2568.-สำนักข่าวไทย