“ปกรณ์วุฒิ” ไม่โต้ “บิ๊กป้อม” ท้าเจอป่ารอยต่อ

รัฐสภา วันนี้  (5 มี.ค.)   “ปกรณ์วุฒิ”  ไม่โต้ “บิ๊กป้อม” ที่ท้าเจอป่ารอยต่อ  บอกไม่อยากเจอที่อื่นนอกจากสภา    จี้ประธานเด็ดขาดขอคืนห้องทำงานวิปฝ่ายค้าน   ลั่นไม่ควรมีใครเป็นผู้มีอิทธิพลยึดห้องทำงาน ซึ่งเป็นทรัพย์สินราชการได้


นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล  สส.แบบบัญชีรายชื่อ  พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ตอบโต้ฝ่ายค้านอยากเจอให้มาหาที่บ้านป่ารอยต่อ  พร้อมย้อนไม่ไปสภาแล้วเดือดร้อนอะไร    ว่าตนเป็น สส.อยู่ที่สภาไม่ได้อยากไปหาใครที่บ้าน และถ้าย้อนกลับไปดูก่อนเลือกตั้ง  พรรคพลังประชารัฐระบุถึงการสมัครเป็นสส.บัญชีรายชื่อของพลเอกประวิตร  ว่าเพื่อความสง่างาม  เพราะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ควรจะเป็น สส.ด้วย   ซึ่งตอนนั้นอาจจะเอ่ยถึงพรรคอื่นที่ไม่ได้ลงสมัคร สส.ด้วยหรือไม่  ตนไม่แน่ใจ  ดังนั้นก็ต้องไปถามอีกที ว่านี่หรือความสง่างามที่ท่านพูดถึง และตนคิดว่าการที่พลเอกประวิตรถามว่าไม่มาสภาและผิดตรงไหนนั้น  ทุกอย่างเป็นคำตอบอยู่ในตัวเอง   ว่าคนเป็น สส.ถามว่าไม่มาสภาหรือผิดตรงไหน  เชื่อว่าประชาชนคงจะพิจารณาได้  ว่าวิธีคิดของพลเอกประวิตรเป็นอย่างไร    ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้อยากเจอกับพลเอกประวิตรที่อื่นนอกจากสภา

ส่วนมีการตรวจสอบ ว่าพลเอกประวิตร  ขาดประชุมสภาเกินกำหนดหรือไม่นั้น   นายปกรณ์วุฒิ  กล่าวว่าความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา  รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1  อยากที่จะทำข้อมูลที่เปิดเผย   ซึ่งไม่แน่ใจว่าขณะนี้มีข้อมูลที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์สมบูรณ์หรือยัง  แต่ในส่วนของใบเซ็นชื่ออาจจะต้องใช้เวลาในการรวบรวม ซึ่งนายปดิพัทธ์เคยพูดไว้นานแล้ว   และตนก็เคยได้ประชุมร่วมกัน   ถึงการเปิดเผยข้อมูลการทำงานของ สส.ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและหากทำสำเร็จ  จะได้เห็นว่า สส.คนไหนมาประชุมกี่ครั้ง   ขาดประชุมกี่ครั้ง  ลาประชุมกี่ครั้ง   ก็เป็นประโยชน์ในการที่ประชาชนจะได้รับทราบ ถือว่าเป็นประโยชน์และเป็นสิ่งที่ประชาชนควรจะได้รับทราบ  ซึ่งตามข้อบังคับหากมีการลาก็สามารถทำได้  บางคนอาจจะมี ช่วงเวลาที่เจ็บป่วยเป็นเวลานานก็ไม่ได้ทำให้สิ้นสภาพการเป็น สส.  


ส่วนมองการตอบโต้ของพลเอกประวิตรอย่างไรนั้น    นายปกรณ์วุฒิ   กล่าวว่าไม่มองว่าอะไรเลย และไม่เห็นว่าจะต้องโต้อะไร   เพราะสิ่งที่พลเอกประวิตรพูด ก็เป็นการโต้ในตัวเองอยู่แล้ว  

สำหรับความคืบหน้าในการ ทวงคืนห้องทำงานของวิปฝ่ายค้านหลังบัลลังก์ประธานสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคพลังประชารัฐนั้น   นายปกรณ์วุฒิ  กล่าวว่าล่าสุดนายปดิพัทธ์  ก็ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถทำอย่างนี้ได้  เพราะถือเป็นการใช้ทรัพย์สินทางราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต   ซึ่งก็ชัดเจนถ้าประธานสภาผู้แทนราษฎรเด็ดขาด และออกระเบียบที่ชัดเจน  ก็ต้องย้ายออก  ถ้าไม่ย้ายออกก็ต้องขนของออก  ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการอะไร  แต่ที่ผ่านมาตนก็พยายามใช้การเจรจา  ซึ่งก็ขอเวลา 1 สัปดาห์ พอผ่านมา 1 สัปดาห์ ก็ขออีก 3 สัปดาห์ซึ่งตนไม่โอเค   แต่ก็พูดตามตรงว่าตนไม่มีอำนาจในการวางเดดไลน์ในเรื่องนี้  และคงต้องขอเรียกร้องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองอีก 2 คน เพื่อความสง่างามของสภา   ไม่ควรมีใครมีสิทธิพิเศษ   หรือทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล  แล้วอยู่ๆก็ประกาศ ขอยึดห้องนี้   ซึ่งสภาไม่ควรเป็นแบบนี้และประธานก็ไม่ควรปล่อยให้สภาเป็นแบบนี้

ทั้งนี้ตนได้ตั้งข้อสันนิษฐานโดยเดินเข้าไปดูในห้อง   และพบว่ามีการกั้นห้อง  ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้นมีห้องที่มีโต๊ะทำงานโต๊ะใหญ่เพียงโต๊ะเดียว    ซึ่งตนก็มองไม่ออกว่าจะให้ใครได้  อย่างไรก็ตาม  ตนไม่เคยเจอ  จึงไม่ทราบว่าทำไว้ทำไมมีการตั้งโต๊ะใหญ่เช่นนี้.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม