นายกฯ ให้ความเสมอภาคสื่อมวลชนทุกแขนง ขออย่าบิดเบือน

กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – นายกฯ ให้ความเสมอภาคสื่อมวลชนทุกแขนง ขออย่าบิดเบือน ไม่เคยปิดกั้นห้ามถามปัญหาชายแดนใต้ แจงตามปกติ ชี้โซเซียลปั่นหวังกระแส


นายวิม รุ่งวัฒนจินดา คณะทำงานนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์มีการแบ่งเทียร์สื่อมวลชนสัมภาษณ์นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยแบ่งเป็นสื่อมวลชนที่อยู่ใกล้และไกลกับนายกฯ โดยที่อยู่ใกล้จะได้สัมภาษณ์พิเศษและได้สัมภาษณ์เป็นกรณีพิเศษ ส่วนที่อยู่ไกลมักจะตกข่าวหรือไม่ได้สัมภาษณ์เป็นพิเศษว่า กรณีดังกล่าวตนคิดว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะว่านายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับสื่อมวลชนทุกฉบับ ทุกสำนัก และทุกแขนงอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งสื่อที่เป็นโซเชียลมีเดีย และสื่อที่เป็นกระแสหลัก

นายวิม กล่าวว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งจนถึงเป็นรัฐบาล นายกฯ พิจารณาข้อเสนอของสื่อมวลชนเกือบทุกสำนัก อันไหนที่มีเวลาว่างจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเป็นพิเศษ หรือถ้าไม่สะดวกก็ขอเป็นโอกาสอื่น และการประสานงานระหว่างสื่อมวลชนกับนายกฯ หากเป็นการแถลงหรือให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่แล้วเจ้าหน้าที่สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ดำเนินการประสานสื่อมวลชน หากมีโอกาสพบปะพูดคุยกับนายกฯ ส่วนในกรณีสัมภาษณ์พิเศษ ทีมนายกรัฐมนตรีโดยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้พิจารณาถึงความเหมาะสมในการให้สัมภาษณ์พิเศษ ทั้งสื่อไทยและสื่อต่างชาติ เป็นต้น


“เรื่องความเสมอภาค ตนขอยืนยันว่านายกฯ ให้ความสำคัญหลักความเสมอภาคกับสื่อทุกแขนงอย่างเป็นธรรม แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น การรับประทานอาหาร นายกฯ ยังขอให้จัดอาหารของนายกฯ และสื่อต้องเหมือนกัน เพราะฉะนั้นยืนยันว่ากรณีมีการแบ่งขั้วหรือความสนิทสนมจะได้ประโยชน์มากกว่า ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง” นายวิม กล่าว

ส่วนกรณีที่มีการต้้งข้อสังเกตเรื่องการห้ามสื่อมวลชน ตั้งคำถาม เรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในครั้งที่นายกฯ เดินทางไปตรวจราชการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น นายวิม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการเอาความไม่ถูกต้องมาขยายผลทางโซเซียล ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน นักข่าวก็ถามเรื่องนี้ นายกฯ ก็ตอบคำถามปกติ ไม่ใช่ว่าไม่ให้ถาม เพียงแต่เรื่องปัญหาด้านความมั่นคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องมีการพูด ทำความเข้าใจกับหลายภาคส่วน นายกฯ จะพูดหรือตอบคำถามลอยๆ คงไม่ได้ สื่อเองเข้าใจดีในเรื่องนี้

“ตนว่าสื่อมวลชนส่วนใหญ่ที่เดินทางร่วมคณะกับนายกรัฐมนตรียังเอ่ยปากชื่นชมนายกฯ ที่กล้าตัดสินใจลงมาดูปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยตัวเอง และสั่งการแก้ไขปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการ ตลอดจนเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่มีสื่อโซเซียลเอาไปปั่นให้เปิดเป็นกระแส เพื่อหวังผลบ้างอย่าง ”นายวิม กล่าว.-316-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน