“เศรษฐา” ดูพัฒนาพื้นที่กาฬสินธุ์ให้เป็นแลนมาร์ก

กาฬสินธุ์ 2 มี.ค.-“เศรษฐา” ดูพัฒนาพื้นที่กาฬสินธุ์ให้เป็นแลนมาร์ก ชาวบ้านอ้อนรักนายกฯ ก่อนถกพัฒนาจังหวัด ชมบริหารจัดการน้ำได้ดีแต่ต้องสอดคล้องภาพใหญ่ พร้อมจัดสรรงบให้ หากเสนอสมเหตุสมผล ไม่ขัดระเบียบราชการ ให้งบศึกษาความคุ้มค่าสร้างสนามบินสารสินธุ์

เมื่อเวลา 13.15 น.  วันที่ 2 มี.ค. ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับฟังการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแลนมาร์ก (Landmark) และจุดแวะพักของจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ บึงอร่าม ตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยนายกฯสวมเสื้อผ้าไหมแพรวาสีเหลือง จากกลุ่มแพรวาโสภารักษ์ ชื่อผ้าตัดชุดลายนาค ใบบ่นช่อสน ย้อมด้วยเปลือกต้นมะหาด ต้นไม้ประจำจังหวัด


เมื่อมาถึงนายกฯ ได้รับฟังรายงานศักยภาพจังหวัดในการสร้างแลนมาร์ก โดยจะมีการสร้างประติมากรรมไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุด มีระเบียงริมน้ำ มีไดโนเสาร์พ่นน้ำ มีจุดจำหน่ายสินค้า ลานกิจกรรมต่างๆเพื่อรองรับ โดยนายกฯได้รับมอบของที่ระลึกเป็นตุ๊กตาไดโนเสาร์ เนื่องจากจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นหนึ่งในแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ และที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งเก็บรวบรวมโครงกระดูกของไดโนเสาร์ที่เจอในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ด้วย

จากนั้นนายกฯ เดินชมบูธกิจกรรมต่างๆ และได้ชิมพุทรานมสด พร้อมชมว่าอร่อย และยังได้ชิมน้ำอ้อย ซึ่งสส.ในพื้นที่ถามด้วยว่า มากาฬสินธุ์ชิมน้ำอ้อยชื่นใจหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ชื่นใจ และนายกฯยังได้ชิมขนมบ้าบิ่น พร้อมอุดหนุนขนมถั่วตัด 20 ถุงไปฝากแม่ และอุดหนุนผ้าไหมแพรวา 2 ผืน 11,000 บาท


ระหว่างเดินทักทายประชาชน และสมาชิก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นายเศรษฐา กล่าวกับ อบจ. ว่า ตนมาวันเสาร์ลำบากหน่อยนะ และก่อนเดินทางไปจุดต่อไปได้มีประชาชนมาสวมกอดและกล่าวว่า รักนายกฯมาก

จากนั้นเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือประเด็นปัญหาและแผนพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โดย นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวรายงานตอนหนึ่งว่า ชาว จ.กาฬสินธุ์ มีความยินดีอย่างยิ่งที่นายกฯ และคณะได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของนายกฯ และรัฐบาลที่มีต่อประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลในส่วนของ จ.กาฬสินธุ์ เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มีผู้ลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือจำนวน 2,400 รายมากเป็นลำดับที่ 24 ของประเทศ การไกลเกลี่ยหนี้นอกระบบของ จ.กาฬสินธุ์ มีผลงานอยู่ที่ลำดับ 10 ของประเทศ การจัดระเบียบสำคัญและปราบปรามผู้อิทธิพลของ จ.กาฬสินธุ์ มีสถานะพื้นที่เฝ้าระวังสีเหลือง มีรายชื่อบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง 60 ราย รวมถึงการดำเนินการเรื่องการป้องกันยาเสพติด

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในโอกาสที่นายกฯ ได้มาตรวจเยี่ยม จ.กาฬสินธุ์ ในวันนี้ ทางจังหวัดได้เสนอโครงการเพื่อขอรับสนับสนุนผลักดันจำนวน 16 โครงการงบประมาณ 2,013,933,000 บาท ประกอบด้วยด้านบริหารจัดการน้ำ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และศูนย์กระจายสินค้า และด้านแพทย์ และสาธารณสุข


จากนั้น นายกฯ ได้มอบนโยบายกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยที่เดินทางมาในวันหยุด แต่ทุกคนทราบดีว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนมีอยู่มาก หากมีโอกาสเราก็ต้องช่วยกันทำงานก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่2 ที่ได้ลงมา จ.กาฬสินธุ์ ครั้งแรกคือหาเสียง ส่วนวันนี้มาดูปัญหาว่าพี่น้องประชาชนว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วศักยภาพของ จ.กาฬสินธุ์ ต้องถูกฉายออกมาอีก ดังนั้นการที่เราลงพื้นที่ครบทุกหน่วยงาน เชื่อว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะเป็นการเริ่มต้นซึ่งการที่รัฐบาลนี้ได้ทำงานมา 6 เดือนแล้ว แม้ว่าจะมาช้าไปนิดหนึ่ง แต่ก็ยืนยันว่าจะมาในทุกๆปีเพื่อมาติดตามผลงานที่เราได้ลงมาแต่ละปี ซึ่งปีนี้ก็มีโครงการอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อมด้านการบริหารจัดการน้ำ เพราะแผนที่จังหวัดเสนอมาไม่ใช่แผนเฉพาะหน้า แต่เป็นแผนทั้งระบบจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน และส่วนท้องถิ่น ทำงานอย่างบูรณาการร่วมกัน ซึ่งโครงการที่ขอในครั้งนี้ต้องสอดคล้องกับการบริหารจัดการน้ำภาพรวมประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่า และไม่ขัดต่อระเบียบภาครัฐ

นายกฯ กล่าวอีกว่า การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการคมนาคมสำหรับการเตรียมความพร้อมในส่วนของถนนหนทางที่มักชำรุดเสียหาย เป็นเรื่องที่ดีที่ต้องมีการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ตลอดจนโครงการแก้ไขปัญหาพังทลาย และป้องกันน้ำท่วม รวมถึงการก่อสร้างสะพานอ่างเก็บน้ำลำปาวที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกสบายขึ้น ซึ่งเรื่องของการคมนาคมเป็นสิ่งสำคัญ หากจะฉายศักยภาพออกมาแต่การคมนาคมไม่ดีก็ไม่มีประโยชน์ ครั้งนี้หากเรามีงบประมาณตรงไหนเราก็พยายามจะทำให้หมด และปีต่อๆ ไปก็จะพยายามจัดสรรให้

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องสาธารณสุขการของบประมาณในการสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ใน 8 โรงพยาบาล ตนให้ความสำคัญกับสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งพบว่าอายุเฉลี่ยของพี่น้องชาวอีสานต่ำกว่าภาคเหนือ เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับระบบสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลใกล้บ้านต่างๆ ระบบการส่งตัวผู้ป่วยเข้าสถานบริการหลักยังมีปัญหาอีกมาก รวมถึง จ.กาฬสินธุ์ ด้วยที่ส่วนใหญ่โรงพยาบาลเป็นศูนย์ส่งตัว แม้จะมีแพทย์เฉพาะทาง แต่ก็ติดขัดเรื่องเครื่องมือ จึงขอให้ทางจังหวัดส่งเรื่องนี้เพื่อพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามหากมีเรื่องอื่นๆ เชื่อว่าในวันนี้ สส.มากันครบทุกพรรค เรามาร่วมกันพัฒนาประเทศ หากมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือซึ่งสมเหตุสมผล รัฐบาลยินดีที่จะตอบสนองให้กับพี่น้องประชาชน ก็ขอฝากผู้ว่าราชการจังหวัดไว้ด้วย

นายกฯ ยังพูดถึงเรื่องปัญหายาเสพติดว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะแม้ว่าจะจับได้เยอะขึ้นแต่ก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป ซึ่งอาจมาจากหลายสาเหตุ ผู้ค้าต้องการเงินเยอะก็เอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อทำเรื่องนี้ขณะเดียวกันก็เกิดจากความต้องการด้วย ซึ่งความต้องการมาจากความไม่สบายใจ ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศไทย ที่มีสถาบันครอบครัวที่แข็งแกร่งมีความรักของคนในครอบครัว ในอดีตปัญหายาเสพติดไม่ค่อยมี แต่ในช่วง 10 ปีหลัง ปัญหายาเสพติดเพิ่มขึ้นเยอะมากคงไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คหรือบังเอิญ เพราะหากไปดูจริงๆมันควบคู่ไปกับเรื่องของหนี้นอกระบบด้วย ซึ่งเรื่องหนี้นอกระบบก็สูงขึ้นมาอย่างมโหฬาร เชื่อว่าท่านที่อยู่ในที่นี้คงรู้ว่าหนี้นอกระบบใช้กันเป็นร้อยเป็นพันทำงานเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หนี้ เพราะมีการเก็บดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ตนจึงเน้นให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ พยายามปัญหานี้เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตนดีใจที่ จ.กาฬสินธุ์ ทำได้เป็นอันดับที่ 10 ของประเทศ แต่ก็ถือว่าจำนวนผู้มาลงทะเบีบนยังน้อยอยู่ ซึ่งก็เข้าใจว่ามีเรื่องผู้มีอิทธิพลต่างๆ ตนขอสั่งการว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด รวมถึงเรื่องความมั่นคง ก็ขอให้จัดการให้ดีจะมีการติดตามงานอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ตัวแทน สส.​ โดย สส. เขต 1 จ.กาฬสินธุ์​ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณนายกฯ ที่คิกออฟให้เริ่มเรื่องยาเสพติด เรื่องคนวิกลจริตมีจำนวนมากในพื้นที่ ขอนายกฯว่า​ในเมื่อมีคนเดินตามหมู่บ้าน 2-3 คน ทรมานชาวบ้าน ขอวิธีกำจัดยาเสพติดให้พ้นไป พร้อมกับยังระบุว่าในฐานะที่เป็น สส. ตัวแทนประชาชนในพื้นที่​ จะทำงานให้เต็มที่​ จะเป็นปากเป็นเสียงแทนพรรคและรัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่​

จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า ตนทราบดีว่า สส. มีความกดดันอย่างมาก ส่วนการผลักดันเรื่องสนามบินได้ให้มีการศึกษาไปแล้ว และได้ให้งบประมาณไปก้อนหนึ่งเพื่อศึกษารูปแบบว่าสามารถทำตรงไหนอย่างไร และคุ้มค่าหรือไม่ ก็รับที่จะดูให้ แต่ก็มีขีดจำกัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีการอนุมัติงบประมาณเพื่อไปศึกษา อย่างน้อยให้โอกาสในพื้นที่ที่จะเกิดขึ้น ชื่อว่าสนามบินสารสินธุ์ คือมหาสารคามบวกกับกาฬสินธุ์ ถ้าท้องถิ่นดี เราก็จะมีความหวัง ยืนยันว่าเราให้โอกาสเต็มที่ในการศึกษาว่าจะสร้าง หรือไม่สร้าง และเรื่องผังเมืองเป็นปัญหาใหญ่ในทุกหวัด พื้นที่สีเหลือง สีแดง ก็ต้องปรับกันไปตามบริบท และโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ซึ่งตนเองได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็จะมีการเปลี่ยนและจะเร่งปรับผังเมืองโดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ทั้งนี้ทางจังหวัดได้มอบพระพุทธสัมฤทธิ์นิรโรคันตราย (หลวงพ่อองค์ดำ-ชุ่มเย็น) ให้นายกฯ ด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]