“เศรษฐา” ดูพัฒนาพื้นที่กาฬสินธุ์ให้เป็นแลนมาร์ก

กาฬสินธุ์ 2 มี.ค.-“เศรษฐา” ดูพัฒนาพื้นที่กาฬสินธุ์ให้เป็นแลนมาร์ก ชาวบ้านอ้อนรักนายกฯ ก่อนถกพัฒนาจังหวัด ชมบริหารจัดการน้ำได้ดีแต่ต้องสอดคล้องภาพใหญ่ พร้อมจัดสรรงบให้ หากเสนอสมเหตุสมผล ไม่ขัดระเบียบราชการ ให้งบศึกษาความคุ้มค่าสร้างสนามบินสารสินธุ์

เมื่อเวลา 13.15 น.  วันที่ 2 มี.ค. ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับฟังการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแลนมาร์ก (Landmark) และจุดแวะพักของจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ บึงอร่าม ตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยนายกฯสวมเสื้อผ้าไหมแพรวาสีเหลือง จากกลุ่มแพรวาโสภารักษ์ ชื่อผ้าตัดชุดลายนาค ใบบ่นช่อสน ย้อมด้วยเปลือกต้นมะหาด ต้นไม้ประจำจังหวัด


เมื่อมาถึงนายกฯ ได้รับฟังรายงานศักยภาพจังหวัดในการสร้างแลนมาร์ก โดยจะมีการสร้างประติมากรรมไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุด มีระเบียงริมน้ำ มีไดโนเสาร์พ่นน้ำ มีจุดจำหน่ายสินค้า ลานกิจกรรมต่างๆเพื่อรองรับ โดยนายกฯได้รับมอบของที่ระลึกเป็นตุ๊กตาไดโนเสาร์ เนื่องจากจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นหนึ่งในแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ และที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งเก็บรวบรวมโครงกระดูกของไดโนเสาร์ที่เจอในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ด้วย

จากนั้นนายกฯ เดินชมบูธกิจกรรมต่างๆ และได้ชิมพุทรานมสด พร้อมชมว่าอร่อย และยังได้ชิมน้ำอ้อย ซึ่งสส.ในพื้นที่ถามด้วยว่า มากาฬสินธุ์ชิมน้ำอ้อยชื่นใจหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ชื่นใจ และนายกฯยังได้ชิมขนมบ้าบิ่น พร้อมอุดหนุนขนมถั่วตัด 20 ถุงไปฝากแม่ และอุดหนุนผ้าไหมแพรวา 2 ผืน 11,000 บาท


ระหว่างเดินทักทายประชาชน และสมาชิก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นายเศรษฐา กล่าวกับ อบจ. ว่า ตนมาวันเสาร์ลำบากหน่อยนะ และก่อนเดินทางไปจุดต่อไปได้มีประชาชนมาสวมกอดและกล่าวว่า รักนายกฯมาก

จากนั้นเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือประเด็นปัญหาและแผนพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โดย นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวรายงานตอนหนึ่งว่า ชาว จ.กาฬสินธุ์ มีความยินดีอย่างยิ่งที่นายกฯ และคณะได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของนายกฯ และรัฐบาลที่มีต่อประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลในส่วนของ จ.กาฬสินธุ์ เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มีผู้ลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือจำนวน 2,400 รายมากเป็นลำดับที่ 24 ของประเทศ การไกลเกลี่ยหนี้นอกระบบของ จ.กาฬสินธุ์ มีผลงานอยู่ที่ลำดับ 10 ของประเทศ การจัดระเบียบสำคัญและปราบปรามผู้อิทธิพลของ จ.กาฬสินธุ์ มีสถานะพื้นที่เฝ้าระวังสีเหลือง มีรายชื่อบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง 60 ราย รวมถึงการดำเนินการเรื่องการป้องกันยาเสพติด

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในโอกาสที่นายกฯ ได้มาตรวจเยี่ยม จ.กาฬสินธุ์ ในวันนี้ ทางจังหวัดได้เสนอโครงการเพื่อขอรับสนับสนุนผลักดันจำนวน 16 โครงการงบประมาณ 2,013,933,000 บาท ประกอบด้วยด้านบริหารจัดการน้ำ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และศูนย์กระจายสินค้า และด้านแพทย์ และสาธารณสุข


จากนั้น นายกฯ ได้มอบนโยบายกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยที่เดินทางมาในวันหยุด แต่ทุกคนทราบดีว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนมีอยู่มาก หากมีโอกาสเราก็ต้องช่วยกันทำงานก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่2 ที่ได้ลงมา จ.กาฬสินธุ์ ครั้งแรกคือหาเสียง ส่วนวันนี้มาดูปัญหาว่าพี่น้องประชาชนว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วศักยภาพของ จ.กาฬสินธุ์ ต้องถูกฉายออกมาอีก ดังนั้นการที่เราลงพื้นที่ครบทุกหน่วยงาน เชื่อว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะเป็นการเริ่มต้นซึ่งการที่รัฐบาลนี้ได้ทำงานมา 6 เดือนแล้ว แม้ว่าจะมาช้าไปนิดหนึ่ง แต่ก็ยืนยันว่าจะมาในทุกๆปีเพื่อมาติดตามผลงานที่เราได้ลงมาแต่ละปี ซึ่งปีนี้ก็มีโครงการอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อมด้านการบริหารจัดการน้ำ เพราะแผนที่จังหวัดเสนอมาไม่ใช่แผนเฉพาะหน้า แต่เป็นแผนทั้งระบบจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน และส่วนท้องถิ่น ทำงานอย่างบูรณาการร่วมกัน ซึ่งโครงการที่ขอในครั้งนี้ต้องสอดคล้องกับการบริหารจัดการน้ำภาพรวมประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่า และไม่ขัดต่อระเบียบภาครัฐ

นายกฯ กล่าวอีกว่า การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการคมนาคมสำหรับการเตรียมความพร้อมในส่วนของถนนหนทางที่มักชำรุดเสียหาย เป็นเรื่องที่ดีที่ต้องมีการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ตลอดจนโครงการแก้ไขปัญหาพังทลาย และป้องกันน้ำท่วม รวมถึงการก่อสร้างสะพานอ่างเก็บน้ำลำปาวที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกสบายขึ้น ซึ่งเรื่องของการคมนาคมเป็นสิ่งสำคัญ หากจะฉายศักยภาพออกมาแต่การคมนาคมไม่ดีก็ไม่มีประโยชน์ ครั้งนี้หากเรามีงบประมาณตรงไหนเราก็พยายามจะทำให้หมด และปีต่อๆ ไปก็จะพยายามจัดสรรให้

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องสาธารณสุขการของบประมาณในการสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ใน 8 โรงพยาบาล ตนให้ความสำคัญกับสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งพบว่าอายุเฉลี่ยของพี่น้องชาวอีสานต่ำกว่าภาคเหนือ เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับระบบสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลใกล้บ้านต่างๆ ระบบการส่งตัวผู้ป่วยเข้าสถานบริการหลักยังมีปัญหาอีกมาก รวมถึง จ.กาฬสินธุ์ ด้วยที่ส่วนใหญ่โรงพยาบาลเป็นศูนย์ส่งตัว แม้จะมีแพทย์เฉพาะทาง แต่ก็ติดขัดเรื่องเครื่องมือ จึงขอให้ทางจังหวัดส่งเรื่องนี้เพื่อพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามหากมีเรื่องอื่นๆ เชื่อว่าในวันนี้ สส.มากันครบทุกพรรค เรามาร่วมกันพัฒนาประเทศ หากมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือซึ่งสมเหตุสมผล รัฐบาลยินดีที่จะตอบสนองให้กับพี่น้องประชาชน ก็ขอฝากผู้ว่าราชการจังหวัดไว้ด้วย

นายกฯ ยังพูดถึงเรื่องปัญหายาเสพติดว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะแม้ว่าจะจับได้เยอะขึ้นแต่ก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป ซึ่งอาจมาจากหลายสาเหตุ ผู้ค้าต้องการเงินเยอะก็เอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อทำเรื่องนี้ขณะเดียวกันก็เกิดจากความต้องการด้วย ซึ่งความต้องการมาจากความไม่สบายใจ ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศไทย ที่มีสถาบันครอบครัวที่แข็งแกร่งมีความรักของคนในครอบครัว ในอดีตปัญหายาเสพติดไม่ค่อยมี แต่ในช่วง 10 ปีหลัง ปัญหายาเสพติดเพิ่มขึ้นเยอะมากคงไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คหรือบังเอิญ เพราะหากไปดูจริงๆมันควบคู่ไปกับเรื่องของหนี้นอกระบบด้วย ซึ่งเรื่องหนี้นอกระบบก็สูงขึ้นมาอย่างมโหฬาร เชื่อว่าท่านที่อยู่ในที่นี้คงรู้ว่าหนี้นอกระบบใช้กันเป็นร้อยเป็นพันทำงานเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หนี้ เพราะมีการเก็บดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ตนจึงเน้นให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ พยายามปัญหานี้เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตนดีใจที่ จ.กาฬสินธุ์ ทำได้เป็นอันดับที่ 10 ของประเทศ แต่ก็ถือว่าจำนวนผู้มาลงทะเบีบนยังน้อยอยู่ ซึ่งก็เข้าใจว่ามีเรื่องผู้มีอิทธิพลต่างๆ ตนขอสั่งการว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด รวมถึงเรื่องความมั่นคง ก็ขอให้จัดการให้ดีจะมีการติดตามงานอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ตัวแทน สส.​ โดย สส. เขต 1 จ.กาฬสินธุ์​ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณนายกฯ ที่คิกออฟให้เริ่มเรื่องยาเสพติด เรื่องคนวิกลจริตมีจำนวนมากในพื้นที่ ขอนายกฯว่า​ในเมื่อมีคนเดินตามหมู่บ้าน 2-3 คน ทรมานชาวบ้าน ขอวิธีกำจัดยาเสพติดให้พ้นไป พร้อมกับยังระบุว่าในฐานะที่เป็น สส. ตัวแทนประชาชนในพื้นที่​ จะทำงานให้เต็มที่​ จะเป็นปากเป็นเสียงแทนพรรคและรัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่​

จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า ตนทราบดีว่า สส. มีความกดดันอย่างมาก ส่วนการผลักดันเรื่องสนามบินได้ให้มีการศึกษาไปแล้ว และได้ให้งบประมาณไปก้อนหนึ่งเพื่อศึกษารูปแบบว่าสามารถทำตรงไหนอย่างไร และคุ้มค่าหรือไม่ ก็รับที่จะดูให้ แต่ก็มีขีดจำกัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีการอนุมัติงบประมาณเพื่อไปศึกษา อย่างน้อยให้โอกาสในพื้นที่ที่จะเกิดขึ้น ชื่อว่าสนามบินสารสินธุ์ คือมหาสารคามบวกกับกาฬสินธุ์ ถ้าท้องถิ่นดี เราก็จะมีความหวัง ยืนยันว่าเราให้โอกาสเต็มที่ในการศึกษาว่าจะสร้าง หรือไม่สร้าง และเรื่องผังเมืองเป็นปัญหาใหญ่ในทุกหวัด พื้นที่สีเหลือง สีแดง ก็ต้องปรับกันไปตามบริบท และโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ซึ่งตนเองได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็จะมีการเปลี่ยนและจะเร่งปรับผังเมืองโดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ทั้งนี้ทางจังหวัดได้มอบพระพุทธสัมฤทธิ์นิรโรคันตราย (หลวงพ่อองค์ดำ-ชุ่มเย็น) ให้นายกฯ ด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]