“เศรษฐา” ดูพัฒนาพื้นที่กาฬสินธุ์ให้เป็นแลนมาร์ก

กาฬสินธุ์ 2 มี.ค.-“เศรษฐา” ดูพัฒนาพื้นที่กาฬสินธุ์ให้เป็นแลนมาร์ก ชาวบ้านอ้อนรักนายกฯ ก่อนถกพัฒนาจังหวัด ชมบริหารจัดการน้ำได้ดีแต่ต้องสอดคล้องภาพใหญ่ พร้อมจัดสรรงบให้ หากเสนอสมเหตุสมผล ไม่ขัดระเบียบราชการ ให้งบศึกษาความคุ้มค่าสร้างสนามบินสารสินธุ์

เมื่อเวลา 13.15 น.  วันที่ 2 มี.ค. ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับฟังการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแลนมาร์ก (Landmark) และจุดแวะพักของจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ บึงอร่าม ตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยนายกฯสวมเสื้อผ้าไหมแพรวาสีเหลือง จากกลุ่มแพรวาโสภารักษ์ ชื่อผ้าตัดชุดลายนาค ใบบ่นช่อสน ย้อมด้วยเปลือกต้นมะหาด ต้นไม้ประจำจังหวัด


เมื่อมาถึงนายกฯ ได้รับฟังรายงานศักยภาพจังหวัดในการสร้างแลนมาร์ก โดยจะมีการสร้างประติมากรรมไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุด มีระเบียงริมน้ำ มีไดโนเสาร์พ่นน้ำ มีจุดจำหน่ายสินค้า ลานกิจกรรมต่างๆเพื่อรองรับ โดยนายกฯได้รับมอบของที่ระลึกเป็นตุ๊กตาไดโนเสาร์ เนื่องจากจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นหนึ่งในแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ และที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งเก็บรวบรวมโครงกระดูกของไดโนเสาร์ที่เจอในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ด้วย

จากนั้นนายกฯ เดินชมบูธกิจกรรมต่างๆ และได้ชิมพุทรานมสด พร้อมชมว่าอร่อย และยังได้ชิมน้ำอ้อย ซึ่งสส.ในพื้นที่ถามด้วยว่า มากาฬสินธุ์ชิมน้ำอ้อยชื่นใจหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ชื่นใจ และนายกฯยังได้ชิมขนมบ้าบิ่น พร้อมอุดหนุนขนมถั่วตัด 20 ถุงไปฝากแม่ และอุดหนุนผ้าไหมแพรวา 2 ผืน 11,000 บาท


ระหว่างเดินทักทายประชาชน และสมาชิก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นายเศรษฐา กล่าวกับ อบจ. ว่า ตนมาวันเสาร์ลำบากหน่อยนะ และก่อนเดินทางไปจุดต่อไปได้มีประชาชนมาสวมกอดและกล่าวว่า รักนายกฯมาก

จากนั้นเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือประเด็นปัญหาและแผนพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โดย นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวรายงานตอนหนึ่งว่า ชาว จ.กาฬสินธุ์ มีความยินดีอย่างยิ่งที่นายกฯ และคณะได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของนายกฯ และรัฐบาลที่มีต่อประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลในส่วนของ จ.กาฬสินธุ์ เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มีผู้ลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือจำนวน 2,400 รายมากเป็นลำดับที่ 24 ของประเทศ การไกลเกลี่ยหนี้นอกระบบของ จ.กาฬสินธุ์ มีผลงานอยู่ที่ลำดับ 10 ของประเทศ การจัดระเบียบสำคัญและปราบปรามผู้อิทธิพลของ จ.กาฬสินธุ์ มีสถานะพื้นที่เฝ้าระวังสีเหลือง มีรายชื่อบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง 60 ราย รวมถึงการดำเนินการเรื่องการป้องกันยาเสพติด

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในโอกาสที่นายกฯ ได้มาตรวจเยี่ยม จ.กาฬสินธุ์ ในวันนี้ ทางจังหวัดได้เสนอโครงการเพื่อขอรับสนับสนุนผลักดันจำนวน 16 โครงการงบประมาณ 2,013,933,000 บาท ประกอบด้วยด้านบริหารจัดการน้ำ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และศูนย์กระจายสินค้า และด้านแพทย์ และสาธารณสุข


จากนั้น นายกฯ ได้มอบนโยบายกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยที่เดินทางมาในวันหยุด แต่ทุกคนทราบดีว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนมีอยู่มาก หากมีโอกาสเราก็ต้องช่วยกันทำงานก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่2 ที่ได้ลงมา จ.กาฬสินธุ์ ครั้งแรกคือหาเสียง ส่วนวันนี้มาดูปัญหาว่าพี่น้องประชาชนว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วศักยภาพของ จ.กาฬสินธุ์ ต้องถูกฉายออกมาอีก ดังนั้นการที่เราลงพื้นที่ครบทุกหน่วยงาน เชื่อว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะเป็นการเริ่มต้นซึ่งการที่รัฐบาลนี้ได้ทำงานมา 6 เดือนแล้ว แม้ว่าจะมาช้าไปนิดหนึ่ง แต่ก็ยืนยันว่าจะมาในทุกๆปีเพื่อมาติดตามผลงานที่เราได้ลงมาแต่ละปี ซึ่งปีนี้ก็มีโครงการอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อมด้านการบริหารจัดการน้ำ เพราะแผนที่จังหวัดเสนอมาไม่ใช่แผนเฉพาะหน้า แต่เป็นแผนทั้งระบบจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน และส่วนท้องถิ่น ทำงานอย่างบูรณาการร่วมกัน ซึ่งโครงการที่ขอในครั้งนี้ต้องสอดคล้องกับการบริหารจัดการน้ำภาพรวมประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่า และไม่ขัดต่อระเบียบภาครัฐ

นายกฯ กล่าวอีกว่า การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการคมนาคมสำหรับการเตรียมความพร้อมในส่วนของถนนหนทางที่มักชำรุดเสียหาย เป็นเรื่องที่ดีที่ต้องมีการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ตลอดจนโครงการแก้ไขปัญหาพังทลาย และป้องกันน้ำท่วม รวมถึงการก่อสร้างสะพานอ่างเก็บน้ำลำปาวที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกสบายขึ้น ซึ่งเรื่องของการคมนาคมเป็นสิ่งสำคัญ หากจะฉายศักยภาพออกมาแต่การคมนาคมไม่ดีก็ไม่มีประโยชน์ ครั้งนี้หากเรามีงบประมาณตรงไหนเราก็พยายามจะทำให้หมด และปีต่อๆ ไปก็จะพยายามจัดสรรให้

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องสาธารณสุขการของบประมาณในการสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ใน 8 โรงพยาบาล ตนให้ความสำคัญกับสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งพบว่าอายุเฉลี่ยของพี่น้องชาวอีสานต่ำกว่าภาคเหนือ เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับระบบสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลใกล้บ้านต่างๆ ระบบการส่งตัวผู้ป่วยเข้าสถานบริการหลักยังมีปัญหาอีกมาก รวมถึง จ.กาฬสินธุ์ ด้วยที่ส่วนใหญ่โรงพยาบาลเป็นศูนย์ส่งตัว แม้จะมีแพทย์เฉพาะทาง แต่ก็ติดขัดเรื่องเครื่องมือ จึงขอให้ทางจังหวัดส่งเรื่องนี้เพื่อพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามหากมีเรื่องอื่นๆ เชื่อว่าในวันนี้ สส.มากันครบทุกพรรค เรามาร่วมกันพัฒนาประเทศ หากมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือซึ่งสมเหตุสมผล รัฐบาลยินดีที่จะตอบสนองให้กับพี่น้องประชาชน ก็ขอฝากผู้ว่าราชการจังหวัดไว้ด้วย

นายกฯ ยังพูดถึงเรื่องปัญหายาเสพติดว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะแม้ว่าจะจับได้เยอะขึ้นแต่ก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป ซึ่งอาจมาจากหลายสาเหตุ ผู้ค้าต้องการเงินเยอะก็เอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อทำเรื่องนี้ขณะเดียวกันก็เกิดจากความต้องการด้วย ซึ่งความต้องการมาจากความไม่สบายใจ ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศไทย ที่มีสถาบันครอบครัวที่แข็งแกร่งมีความรักของคนในครอบครัว ในอดีตปัญหายาเสพติดไม่ค่อยมี แต่ในช่วง 10 ปีหลัง ปัญหายาเสพติดเพิ่มขึ้นเยอะมากคงไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คหรือบังเอิญ เพราะหากไปดูจริงๆมันควบคู่ไปกับเรื่องของหนี้นอกระบบด้วย ซึ่งเรื่องหนี้นอกระบบก็สูงขึ้นมาอย่างมโหฬาร เชื่อว่าท่านที่อยู่ในที่นี้คงรู้ว่าหนี้นอกระบบใช้กันเป็นร้อยเป็นพันทำงานเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หนี้ เพราะมีการเก็บดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ตนจึงเน้นให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ พยายามปัญหานี้เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตนดีใจที่ จ.กาฬสินธุ์ ทำได้เป็นอันดับที่ 10 ของประเทศ แต่ก็ถือว่าจำนวนผู้มาลงทะเบีบนยังน้อยอยู่ ซึ่งก็เข้าใจว่ามีเรื่องผู้มีอิทธิพลต่างๆ ตนขอสั่งการว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด รวมถึงเรื่องความมั่นคง ก็ขอให้จัดการให้ดีจะมีการติดตามงานอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ตัวแทน สส.​ โดย สส. เขต 1 จ.กาฬสินธุ์​ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณนายกฯ ที่คิกออฟให้เริ่มเรื่องยาเสพติด เรื่องคนวิกลจริตมีจำนวนมากในพื้นที่ ขอนายกฯว่า​ในเมื่อมีคนเดินตามหมู่บ้าน 2-3 คน ทรมานชาวบ้าน ขอวิธีกำจัดยาเสพติดให้พ้นไป พร้อมกับยังระบุว่าในฐานะที่เป็น สส. ตัวแทนประชาชนในพื้นที่​ จะทำงานให้เต็มที่​ จะเป็นปากเป็นเสียงแทนพรรคและรัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่​

จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า ตนทราบดีว่า สส. มีความกดดันอย่างมาก ส่วนการผลักดันเรื่องสนามบินได้ให้มีการศึกษาไปแล้ว และได้ให้งบประมาณไปก้อนหนึ่งเพื่อศึกษารูปแบบว่าสามารถทำตรงไหนอย่างไร และคุ้มค่าหรือไม่ ก็รับที่จะดูให้ แต่ก็มีขีดจำกัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีการอนุมัติงบประมาณเพื่อไปศึกษา อย่างน้อยให้โอกาสในพื้นที่ที่จะเกิดขึ้น ชื่อว่าสนามบินสารสินธุ์ คือมหาสารคามบวกกับกาฬสินธุ์ ถ้าท้องถิ่นดี เราก็จะมีความหวัง ยืนยันว่าเราให้โอกาสเต็มที่ในการศึกษาว่าจะสร้าง หรือไม่สร้าง และเรื่องผังเมืองเป็นปัญหาใหญ่ในทุกหวัด พื้นที่สีเหลือง สีแดง ก็ต้องปรับกันไปตามบริบท และโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ซึ่งตนเองได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็จะมีการเปลี่ยนและจะเร่งปรับผังเมืองโดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ทั้งนี้ทางจังหวัดได้มอบพระพุทธสัมฤทธิ์นิรโรคันตราย (หลวงพ่อองค์ดำ-ชุ่มเย็น) ให้นายกฯ ด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.- ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด เผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ หากเหตุการณ์ปะทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]