เบตง 28 ก.พ. – นายกฯ ย้ำ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อต่อยอดขยาย วอนสื่ออย่ามองแต่ปัญหา เร่งดันงานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวยกระดับ เป็นเทศกาลระดับโลก เทียบ “กินเจภูเก็ต” แจงสนามบินเบตง พร้อมเปิดอีกครั้ง หากมีผู้ใช้บริการเพียงพอ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาหลังการรับประทานอาหารกลางวันเดินทางขึ้นมา ชมพิพิธภัณฑ์ดอกไม้เมืองหนาวเบตง จากนั้นนายกให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสรุปภาพรวมการเดินทางเยือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 วันระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ โดยนายกฯ ย้ำว่า เป็นการมาเพื่อหาโอกาส และ สิ่งที่ซ่อนเร้นเพื่อดึงขึ้นมาสร้างมูลค่าเพิ่มไม่อยากให้สื่อมวลชนมองหรือถาม แต่ปัญหาแต่อยากให้มองในลักษณะของการสร้างโอกาสซึ่งในวันครึ่งที่ผ่านมาจากที่ได้เริ่มปฏิบัติภารกิจที่มัสยิดกรือเซะ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของมิตรภาพ และสันติสุข และยังเห็นโอกาสหลายอย่าง ซึ่งในบรรดาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ชาวบ้านนำมาจัดแสดงที่มัสยิดกรือเซะ ล้วนเป็นของดีและมีมูลค่า ทั้งของกินของใช้ และผลิตภัณฑ์ทองเหลือง ซึ่งปัจจุบันคนทำเริ่มมีอายุมากและน้อยถอยลง ตนจึงสั่งการให้ กระทรวงวัฒนธรรมฟื้นฟู เช่นเดียวกันกับงานเทศกาลไหว้เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งเมื่อวานมีโอกาสเดินเยี่ยมชม พบนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะยกระดับงานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว เป็นเทศกาลระดับโลก เหมือนเทศกาลกินเจที่จังหวัดภูเก็ต รวมถึง ในเดือนมีนาคม หรือเมษายน สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม จะเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นการ ตนก็จะนำวงออเครสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา ที่มาเล่นให้ชมในวันนี้ ไปบรรเลยให้ชมที่ทำเนียบรัฐบาล แล้วถือโอกาสพาทัศนศึกษาไปในตัวอีกด้วย
ส่วนเรื่องการขนส่งคมนาคม โดยเฉพาะท่าอากาศยานเบตงที่ในปัจจุบัน แม้จะเป็นสนามบินนานาชาติ แต่ก็ต้องปิดให้บริการ นายเศรษฐา ระบุว่าวันนี้เรามีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และปลัดฯ มาด้วย มีการพูดคุยเรื่องถนน สนามบิน แต่เราต้องเข้าใจในเชิงพาณิชย์ ถ้าจะให้เอกชนเข้ามา ก็ต้องมีดีมานด์ ตนเองมาที่นี่มาเพื่อมาสร้างดีมานด์ มาสร้างให้โลกรู้ว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจังหวัดที่น่าท่องเที่ยว และไม่ต้องห่วง ถ้ามีดีมานด์มา เครื่องบินมาแน่
ส่วนการให้ความมั่นใจเรื่องความมั่นคงกับประชาชนนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ฝ่ายความมั่นคงทำงานมาด้วยดี ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ก็ปัญหาลดลงไปเยอะมาก ไม่มีใครอยากมีปัญหา วันนี้เราต้องพูดเรื่องโอกาสมากกว่า ถ้าเราลืมเรื่องความไม่มั่นคง หรือความทะเลาะเบาะแว้ง และหันมาพูดเรื่องโอกาส เชื่อว่า ทุกคนอยากมีเงินในกระเป๋า ถ้าเศรษฐกิจดี มีความเสมอภาค มีความเท่าเทียม ได้รับการศึกษาที่ถูกต้อง ได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกันทุกคนที่เป็นคนไทย คิดว่าปัญหาต่างๆ คงไม่เกิดขึ้น และก็ต้องมีเรื่องการคมนาคม ถ้าหลายเรื่องดีขึ้น และมีโอกาสขึ้นมา ประชาชนอยากขยายธุรกิจ สิ่งที่เขาต้องการคือเงินทุน รัฐบาลก็ต้องพยายามจัดการ ทั้งธนาคารอิสลาม ให้เข้าใจถึงบริบทการอยู่อาศัยของพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และธนาคารอื่น ๆ ก็ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อรองรับ หากมีการอยากขยายการเพาะพันธุ์ปลานิลน้ำไหล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการเข้าไปช่วยเหลือ รวมถึงกระทรวงการคลังต้องดูแลด้วย .-313-สำนักข่าวไทย