“ปานปรีย์” เยือนเยอรมนี มุ่งส่งเสริมความร่วมมือทุกมิติ

เยอรมนี 22 ก.พ.-รมว.กต. เยือนเยอรมนี มุ่งส่งเสริมความร่วมมือทุกมิติ หวัง เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ พัฒนาภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่ยั่งยืน พร้อมเชื่อมโยงขนส่งทางทะเล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ตามเวลาท้องถิ่นกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงเบอร์ลิน โดยมีกำหนดการจะเข้าร่วมกิจกรรมเสวนาด้านภูมิรัฐศาสตร์ ณ กรุงเบอร์ลิน และร่วมงาน OAV Stiftungsfest ครั้งที่ 123 ณ นครเบรเมิน ระหว่างวันที่ 20 -25 กุมภาพันธ์ 2567

โดยเมื่อมาถึง นายปานปรีย์ ได้เดินทางต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน เพื่อร่วมประชุมมอบนโยบายให้แก่ทีมประเทศไทย โดยได้ย้ำถึงความสำคัญของนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกของรัฐบาล และการบูรณาการทำงานระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมบทบาทไทยในภูมิภาคและระหว่างประเทศ ในโอกาสนี้ ได้รับฟังความคืบหน้าและความท้าทายในการดำเนินงานจากหัวหน้าสำนักงานต่างๆ ประจำกรุงเบอร์ลิน พร้อมหารือแนวทางการทำงานในอนาคต โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อไทยและเยอรมนี


จากนั้น เวลา 16.30 น. ได้เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมกล่าวเปิดงานเสวนาไทยและเยอรมนี มุมมองและโอกาสในอินโด-แปซิฟิก ซึ่งจัดขึ้นโดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน และ มูลนิธิการเมือง Konrad Adenauer Stiftung (KAS) ภายใต้หัวข้อ “เยอรมนีและไทยจะใช้กลยุทธ์ต่างประเทศและความมั่นคงอย่างไร เพื่อมีส่วนร่วมกับอาเซียนและอินโด-แปซิฟิก” 

โดย นายปานปรีย์ ระบุว่า อินโด-แปซิฟิกถือเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดกึ่งกลาง ไทยรู้สึกยินดีที่นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา เยอรมนีให้ความสนใจกับเราเป็นพิเศษ เป็นผลมาจากแนวนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งผลักดันทางการค้า ทำให้ไทยและเยอรมนีกลายเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญระหว่างกัน ซึ่งทั้งสองประเทศเห็นพ้องว่าจะผลักดันเรื่องการเชื่อมโยง และการขนส่งทางทะเลที่ปลอดภัย

นายปานปรีย์ กล่าวว่า วันนี้จึงถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ เพื่อขยายความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทย-เยอรมนีให้กลายเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์  รวมถึงนำพาอินโด-แปซิฟิก ก้าวไปสู่ภูมิภาคที่ยั่งยืนในทุกมิติ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสีเขียวและดิจิทัล ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ ไทยจึงหวังเป็นอย่างว่าจะได้เห็นเยอรมนีเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกให้กลายเป็นภูมิภาคที่ปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ผ่านการหารือทวิภาคีและกรอบในภูมิภาคต่างๆ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง