นายกฯ พร้อมขับเคลื่อนให้ประเทศเป็นศูนย์กลางทุกมิติ

ทำเนียบรัฐบาล 22 ก.พ.-นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์ จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว รักษาพยาบาล การบิน การเงินของเอเชีย เล็งยกระดับรายได้เกษตรกรใน 4 ปี ชี้ ดิจิทัล วอลเล็ตช่วยเหลือประชาชนแบบพุ่งเป้า


 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า ความขัดแย้ง ปัญหาการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บดบังศักยภาพ แสงสว่างของประเทศไทย ตั้งแต่ 6 เดือน รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ความสงบ ความสมัครสมานสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจกันของทุกคน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่จะให้ชาวโลกรู้ว่าแสงสว่างของประเทศไทยเกิดขึ้นแล้ว ทำให้ไทยก้าวเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากเป็นอันดับ 8 ของโลก นำรายได้เข้าสู่ประเทศ 2.3 ล้านล้านบาท และจะโตขึ้นอีกในช่วง 4 ปีข้างหน้าอย่างมโหฬาร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการการท่องเที่ยวทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเมืองหลัก เมืองรองต้องเป็นเมืองท่องเที่ยว ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสร้างจุดแข็งซอฟต์พาวเวอร์ ชวนเชิญนักท่องเที่ยวเข้าประเทศด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งปี เช่น มวยไทย งานศิลปะ คอนเสิร์ต  ยกระดับการเดินทางในภูมิภาคในกลุ่ม CLMV ด้วยการเปิดวีซ่าเพิ่ม ขณะเดียวกันแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว ทั้งขยายเวลาบริการสถานบริการ การอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพื่อให้ประเทศไทยเป็นโฮมสเตย์ของคนทั่วโลก มีร้านอาหารที่พักของดีของเด่นประจำเมือง และจะมีลูกค้าเข้ามาเที่ยวมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นำเงินมาส่งถึงมือทุกคน ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว


“จะจุดพลังประเทศไทยเป็นที่1 ศูนย์กลางการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ หรือ Medical Hub ซึ่งเป็นจุดของประเทศไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยในปี 2566 การท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์และสุขภาพ สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยกว่า 4 หมื่นล้านบาท จึงมีเหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยเป็นเลิศทางการแพทย์สำหรับคนทั่วโลก สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ หากทุกคนช่วยกันโปรโมทการท่องเที่ยวทางการแพทย์ ประสานโรงพยาบาลไทยรับประกันของต่างชาติได้ นอกจากการแพทย์แล้ว ประเทศไทยยังมีชื่อเสียงด้านการดูแลสุขภาพ ดังนั้น จะผลักดันสปาไทย การแพทย์แผนไทย นวดไทย สมุนไพรไทยให้เป็นสินค้าส่งออกไปทั่วโลก ขณะเดียวกันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการ พัฒนาระบบรักษาพยาบาลที่ดี ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ อีกทั้งรัฐบาลจะพัฒนาระบบการใช้ AI เชื่อมฐานข้อมูล เพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ ดูแลความเป็นอยู่ของแพทย์ พยาบาล ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้จะยกระดับเกษตรกรรมในประเทศไทย วางแผนการปลูก เพื่อให้ได้สินค้าเกษตรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยนำความแม่นยำทางการเกษตรมาใช้ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดโลก นอกจากนี้ จะยกระดับเป็นเมืองอาหารเป็นครัวของโลก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมฮาลาล และเพิ่มการท่องเที่ยวในร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลิน โดยจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอาหารของภูมิภาค จะเป็นหนึ่งในปัจจัยปัจจัย4 เป็นครัวของโลก และเกษตรกรไทยจะมีรายได้ขึ้น 3 เท่าใน4 ปีของรัฐบาลนี้

นายกรัฐมนตรี ชี้ถึงจุดแข็งทางภูมิศาสตร์ของประเทศ ว่าประเทศไทยจะเป็นที่ 1 ศูนย์กลางการบิน ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง การขนส่งสินค้าไปยังทั่วโลก จึงต้องลงทุนขยายศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นการขยายรันเวย์ การขยายอาคารผู้โดยสารให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง แต่จะเป็นฮับ(HUB) การบินอย่างเดียวไม่เพียงพอ จำเป็นต้องยกระดับระบบคมนาคม ทั้งถนนสายหลัก สายรอง ขยายทางหลวงมอเตอร์เวย์ พัฒนาระบบรถไฟรางคู่ รถไฟกรุงเทพและภูมิภาค จะมีระยะทางเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ครอบคลุมเส้นทางเกือบ 700 กิโลเมตร เดินหน้ารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และเชื่อมไปยังชายแดนหนองคาย เพื่อขนส่งทั้งคนและสินค้า และยังต้องเชื่อมต่อไปยังท่าเรือน้ำลึกที่แหลมฉบังที่กำลังขยายตัว ที่สำคัญ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์เป็นโครงการสำคัญเชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน จะช่วยลดระยะเวลาการขนส่งสินค้า และความแออัดที่ช่องแคบมะละกา แต่ยังต้องพูดคุยเป็นวงกว้าง พร้อมรับฟังความคิดเห็น ดังนั้น การพัฒนาด้านระบบคมนาคมขนส่งจึงเป็นขุมทรัพย์นำเงินเข้ากระเป๋าของคนไทยทุกคน


“รัฐบาลยังต้องการผลักดัน ให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางยานยนต์แห่งอนาคต ในวันที่อุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่รถ EV ซึ่งถือว่าประเทศไทย ตอบรับเรื่องการใช้รถ EV เป็นอย่างดี รัฐบาลจึงมีเป้าหมายลงทุนแผนการลงทุน 1 ล้านล้านบาทในระยะเวลา 4 ปี ทั้งนี้ ไทยเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจดิจิทัล รัฐบาลต้องการจะพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทค ทั้งพัฒนาคนและดึงดูดนักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาในประเทศไทย เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล รองรับคนไทยที่จะเป็นเศรษฐีเทคโนโลยี

“ที่สำคัญยังจะสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการเงิน โดยจะดึงดูดสถาบันการเงิน กองทุน ธนาคารระดับโลก ให้มาตั้งสำนักงานในประเทศไทย เพราะประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดและจะมี Wall Street ของอาเซียน ดังนั้น จะต้องเตรียมความพร้อมทางด้านกฎหมาย ขณะเดียวกัน ต้องให้ความสำคัญ เรื่องคาร์บอนเครดิต ซึ่งถือเป็นเทรนด์ของสิ่งแวดล้อม มลพิษ และปัญหาโลกร้อน ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และในวันนี้ภูมิภาคนี้ ยังไม่มีผู้นำผู้นำตลาดด้านการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องดึงดูดสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม ในการสร้างตลาดสินทรัพย์รูปแบบใหม่ จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาคได้อย่างแน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางต่าง ๆ ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคน โดยมีเป้าหมายสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจ พร้อมกับการพัฒนาทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาด้านการศึกษา การปรับปรุงการทำงานภาครัฐ พร้อมย้ำว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จะต้องเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของรัฐ ที่ทำให้ รัฐสามารถช่วยเหลือประชาชนแบบพุ่งเป้าได้ในอนาคต รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ให้มีการเลือกเพศสภาพ เลือกประกอบอาชีพได้ เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ ขณะเดียวกันวัฒนธรรมไทยจะต้องเปิดกว้างและต่อยอด บ้านเมืองจะต้องสะอาด ยาเสพติดจะต้องหมดไป พัฒนาเปิดการเรียนสองภาษา ทั้งหมดนี้ประเทศไทย จะยังคงมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ที่มีพลังงานในราคาที่เหมาะสม มีพลังงานสะอาด

“สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด นายกรัฐมนตรีจะทำคนเดียวไม่ได้ ทีมงานจะต้องมาขับเคลื่อน เพื่อให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมจะเดินไปด้วยกัน ส่งต่ออนาคตที่ดีดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ฤดูฝนมา จับตาความพร้อม Cell Broadcast

14 พ.ค. – ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า ปริมาณฝนปีนี้จะมากกว่าค่าปกติ 5% ในระยะนี้ต้องติดตามพายุไซโคลนที่อาจก่อตัวในทะเลอันดามัน ขณะที่ปลายฤดูอาจเจอพายุโซนร้อน 1-2 ลูก ล่าสุดภาครัฐยกระดับการแจ้งเตือนภัย แต่ต้องรอลุ้นว่า Cell Broadcast จะใช้ได้เต็มระบบทั่วประเทศทันฤดูฝนนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]

ศาล รธน.สั่ง “ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ

ศาลรัฐธรรมนูญ 14 พ.ค.- มติศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ สั่ง “พ.ต.อ.ทวี​” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานบอร์ดคดีพิเศษ เหตุสงสัยว่าแทรกแซงรับสอบฮั้วเลือก สว. ส่วน “ภูมิธรรม” ยังรอด ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ถูกร้องที่ 1 และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีผู้ถูกร้องทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการ […]

แก๊งเผานั่งยางหนีขึ้นภูเขา จนท.จัดกำลังเร่งล่า

ตรัง 14 พ.ค. – เกาะติดคดีเผานั่งยาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบกว่า 50 นาย เร่งวางกำลังไล่ล่า 4 มือเผา หลังได้เบาะแสทั้งหมดหนีขึ้นไปบนเขา ที่โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ชุดสืบสวนสอบสวน ภาค 9 ชุดสืบสวนสอบตำรวจภูธรจังหวัดตรัง รวมกว่า 50 นาย พร้อมกับพราน และชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่ ร่วมกันวางแผนติดตาม 4 ผู้ต้องหา คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]