รอด !! “พิธา” ยังเป็นสส.

ศาลรัฐธรรมนูญ 24 ม.ค.-มติศาล รธน. 8:1 “พิธา” ยังมีสถานะเป็น สส. หลังพบไอทีวีหมดสิทธิ์ประกอบกิจการสื่อฯ หลังคืนสัญญาณให้สปน. ไร้พนักงาน ไม่มีรายได้ ปธ.ศาลติงให้สัมภาษณ์ก่อนชี้ขาดไม่เหมาะสม ยันความล่าช้าไม่ได้เกิดจากศาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 เสียง ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไม่มีลักษณะต้องห้าม และสามารถลงสมัครเลือกตั้งสส.ได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็น สส.ของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ หลังกกต.พบการถือครองหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ ของนายพิธา ในฐานะผู้จัดการมรดก โดยถือเป็นลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า บริษัท ไอทีวีฯ ได้ยุติกิจการและอยู่ระหว่างข้อพิพาทคดีกับสำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรี หลังเคยมีสัญญาร่วมกันตั้งแต่ปี 2538 เป็นระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่วันที่  8 มีนาคม 2550 หลังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีบอกเลิกสัญญา ซึ่งบริษัทไอทีวีฯ ได้แจ้งไปยังสำนักงานประกันสังคมแล้วว่า ไม่มีพนักงาน เนื่องจาก ยุติการดำเนินกิจการชั่วคราว ตั้งแต่วันดังกล่าวถึงปัจจุบัน และเมื่อตรวจสอบงบการเงิน รวมถึงเอกสารเงินได้ของบริษัทไอทีวีฯ ที่เคยดำเนินกิจการสื่อโทรทัศน์ โฆษณา พบงบการเงินและรายได้จากธุรกิจสื่อมวลชนของบริษัทไอทีวีฯ เป็น 0 บาท และมีรายได้จากดอกเบี้ยรายรับ


นอกจากนั้นยังพบปรากฏข้อเท็จจริง ตั้งแต่ปี 2560-2565 ที่บริษัทไอทีวีฯ ยุติการดำเนินกิจการตั้งแต่สำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรีบอกเลิกสัญญาไปแล้ว ทำให้คลื่นสัญญาณกลับมาเป็นของสำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรี และสุดท้ายแม้ไอทีวีจะชนะคดีก็ไม่มีผลให้บริษัทไอทีวีฯ ได้รับมอบคลื่นความถี่คืน ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงสรุปได้ว่า บริษัทไอทีวีฯ ไม่มีสิทธิ์ประกอบกิจการสื่อมวลชนตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2550 และไอทีวี ยังคงสถานะนิติบุคคลไว้เพื่อดำเนินคดีในศาลเท่านั้น ทั้งไม่ปรากฏรายได้จากการทำสื่อ แต่มีรายได้จากการลงทุนและดอกเบี้ยรับเท่านั้น ดังนั้น เมื่อวันที่นายพิธาลงสมัครรับเลือกตั้ง บริษัทไอทีวีไม่ได้ประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ การถือหุ้นของนายพิธาจึงไม่มีลักษณะต้องห้าม และสามารถลงสมัครเลือกตั้งได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพสส.ของนายพิธาไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ

นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงสาเหตุความล่าช้าของคดีนี้ว่า ศาลฯ เคยแจ้งคู่ความในคดีนี้ ให้ทราบว่าผู้ถูกร้องหรือนายพิธา ได้ขอขยายเวลาการชี้แจงต่อศาล 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน รวม 60 วัน ทั้งที่คดีดังกล่าวควรเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ 60 วันที่แล้ว ยืนยันว่าศาลไม่ได้ล่าช้าและตำหนิการแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีผ่านสื่อมวลชน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ไม่เหมาะสม เพราะอาจเป็นการชี้นำกดดันศาลได้.-312.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก