ระนอง 23 ม.ค. – การประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดระนอง ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่สองของรัฐบาลนี้ ผ่านไปได้ด้วยดี
แม้จะมีการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนชัดเจนของผู้คัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ โดยจุดแรกได้พบกับนายกรัฐมนตรีขณะลงพื้นที่จริง ที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน เมื่อวานนี้
ต่อเนื่องในวันนี้กับการชุมนุมรอยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จ.ระนอง ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร แต่การที่นายกรัฐมนตรีแสดงท่าทีชัดเจนว่าพร้อมรับฟังข้อเสนอและข้อมูลจากทุกฝ่ายก็ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต่างพอใจ และสามารถจะรอคำตอบจากรัฐบาลได้ ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ตลอดสองวันที่ผ่านมา
สำหรับบรรยากาศการประชุม ครม.สัญจร วันนี้เหมือนกับการสัญจรในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ที่จังหวัดเจ้าภาพจะนำเสนอของดีของเด่นและเอกลักษณ์ต่างๆ ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี
เริ่มตั้งแต่เสื้อผ้าไทยลาย “ทรัพย์รักษ์ระนอง” ซึ่งเป็นผ้าบาติกสีคราม ลวดลายผสมระหว่างลายดอกรักราชกัญญา ผสมลายประแจจีน ภายใต้คอนเซ็ปต์เมืองฝน 8 แดด 4 ที่จังหวัดระนอง
ขณะของดีของเด่นถูกนำเสนอ โดยนายกฯ ได้ชิมมังคุดแช่อิ่มอบแห้ง ดมกลิ่นกะปิของระนอง ว่ามีความหอมแตกต่างจากกะปิในพื้นที่อื่น พร้อมกำชับว่าต้องสร้างมูลค่ากะปิท้องถิ่นให้แตกต่างจากโรงงาน
ไม่เพียงแต่ของกินของใช้ บ่อน้ำพุร้อนระนอง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอันดับต้นๆ ของจังหวัด ก็ไม่พลาดที่ผู้นำประเทศจะเดินทางไปเยือน
ผล ครม. เป็นไปตามคาด 6 อันดามัน ตรัง พังงา กระบี่ ภูเก็ต สตูล และระนอง รับอานิสงส์ทั่วหน้า นายกรัฐมนตรีแถลงเอง ระบุ ครม.สัญจร เห็นชอบโครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จใน 1 ปี 13 โครงการ วงเงิน 350 ล้านบาท และโครงการที่เป็นข้อเสนอเอกชนอีก 5 โครงการ วงเงิน 202 ล้านบาท
ไม่เพียงโครงการต่างๆ จะได้รับอนุมัติ ครม. ที่ระนองครั้งนี้ยังสยบจบประเด็นดาม่ากรณีนักเรียนชาวมอร์แกน เกาะพยาม ต้องลุยน้ำไปเรียน เพราะ ครม. มีมติให้สร้างสะพาน ส่วนดราม่าเล็กๆ ที่เกิดซ้อน กรณีเฮลิคอปเตอร์กระทรวงเกษตรฯ ลงจอดขณะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำกิจกรรมกับน้องๆ จนต้องวิ่งฝุ่นกระจาย ได้รับคำยืนยันจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เจ้ากระทรวงเกษตรฯ ว่าไม่มีความบาดหมางเกิดขึ้น เพราะตนและนายอนุทินต่างเป็นเพื่อนรัก ขออย่าจับมาเป็นประเด็น.-สำนักข่าวไทย