รัฐสภา 5 ม.ค.-พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีมติไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 67 ชี้ทำงบไม่ต่างรัฐบาลชุดที่แล้ว ไม่สะท้อนการแก้ปัญหาวิกฤต สอดไส้งบ ไม่ตรงปก
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงถึงมติวิปฝ่ายค้าน ต่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ว่า พรรคร่วมฝ่านค้านมีมติไม่เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ โดยมองว่าร่างงบประมาณไม่สะท้อนการแก้ปัญหาวิกฤตสำคัญต่างๆ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศอยู่ตลอดเวลา วิกฤตสิ่งแวดล้อม ฝุ่น pm2.5 วิกฤตด้านการศึกษา วิกฤตด้านประชากร และวิกฤตสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งรัฐบาลจัดทำงบประมาณไม่ต่างกับรัฐบาลที่ผ่านมา มีการจัดงบไม่ได้สัดส่วนของวิกฤตปัญหาและ ยังพบงบสอดไส้ไม่ตรงกับแผนงาน รวมถึงงบประมาณที่ควรมี แต่กลับไม่มี งบที่ไม่ควรมี กลับมีอยู่ นอกจากนี้ รัฐบาลยังประมาณการณ์รายได้เกิดจริง โดยมุ่งแต่ใช้เงินนอกงบประมาณ โดยไม่คำนึงถึงภาระทางการคลังในอนาคต
“ตลอดระยะเวลาพิจารณาร่างงบประมาณ 3 วัน โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อภิปรายตั้งคำถามและเสนอแนะรัฐบาล แต่สิ่งที่รัฐมนตรีชี้แจง กลัเป็นคำตอบที่ไม่ตรงคำถาม บิดเบือนข้อมูล และบางคำถามไม่มีคำตอบจากรัฐมนตรี รวมถึงมีคำถามที่ชงกันเองและตอบกันเอง นอกจากนี้ รัฐมนตรีบางกระทรวง ไม่แม้แต่ให้เกียรติเงินภาษีประชาชนด้วยกาลุกขึ้นชี้แจงให้คำตอบแก่สภาผู้แทนราษฎรด้วยซ้ำ” นายชัยธวัช กล่าว
นายชัยธวัช เชื่อว่าการลงคะแนนเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเป็นเอกภาพ แต่ทั้งนี้คาดว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณจะผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ เพราะด้วยจำนวนเสียงของฝ่ายค้าน อาจจะไม่เพียงพอให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณดังกล่าวไม่ผ่าน แต่การลงมติของฝ่ายค้านเป็นการแสดงจุดยืน ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างงบประมาณ จึงหวังว่าร่างงบประมาณแบบนี้จะเป็นฉบับสุดท้าย โดยคาดว่าจะมีการจัดทำร่างงบประมาณประจำปี 2568 ภายในกลางปีนี้ และหวังจะไม่มีข้ออ้างจัดทำงบประมาณไม่สะท้อนกับเป้าหมายนโยบายแบบนี้อีก
นายชัยธวัช ยอมรับว่า การอภิปรายครั้งนี้อาจจไม่ดุเดือด เพราะเป็นการอภิปรายที่เน้นการให้ข้อมูล และให้รอดูการอภิปรายที่ดุเดือดมากกว่านี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม จะมีการนัดหมายประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านในกลางสัปดาห์หน้า เพื่อวางแผนงานและเป้าหมายร่วมกัน เพื่อความเป็นเอกภาพ
นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า งบประมาณ 67 ไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตประเทศได้ และไม่มีจัดเตรียมรับมือวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญ่ หรือ การแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ก็มีมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 67 ตั้งแต่วันนั้นแล้ว และเชื่อว่า สส.ทั้ง 25 คนจะไปในทิศทางเดียวกัน.-318.-สำนักข่าวไทย