พรรคก้าวไกล 30 ธ.ค. – “ศิริกัญญา” ผิดหวัง “รัฐบาล” จัดงบประมาณ 67 ไม่ตอบโจทย์แก้วิกฤติตามที่หาเสียงไว้ เห็นใจต้องใช้หนี้-เงินผ่อน 5.2 แสนล้านบาท และต่อรองหลายฝ่าย ไม่พอใจงบฯ กลาโหมเพิ่ม 2% เอ๊ะ “ภูมิธรรม” นั่ง ปธ.กมธ.งบประมาณ 67 ไม่หยิบอภิปราย ให้โอกาสลองงาน
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของรัฐบาลว่า หลังจากศึกษาร่างงบประมาณปี 67 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณยังไม่ตอบโจทย์วิกฤติต่างๆ ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารได้อ้างถึงวิกฤติ 3 อย่าง ได้แก่ วิกฤติปากท้อง วิกฤติรัฐธรรมนูญ และวิกฤติความขัดแย้ง รวมถึงปัญหาที่สังคมเห็นตรงกันคือ วิกฤติด้านการศึกษา วิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แต่การจัดสรรงบประมาณไม่สะท้อนกำลังอยู่ในวิกฤติดังกล่าว กลับเห็นงบที่ไม่เหมาะสมอีก
สำหรับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราต้องการเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เราไม่เห็นโครงการที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจเลย แม้กระทั่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ก็ไม่อยู่ในร่างงบประมาณ ทั้งนี้ เราต้องไปรอลุ้นพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ ผ่านสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนงบประมาณจัดทำประชามติแก้ไขยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า มีการตั้งงบประมาณทำประชามติไว้ครึ่งประชามติ แน่นอนเรายังไม่รู้แน่ชัดว่าจะมีการทำประชามติที่แน่นอนกี่ครั้ง และเมื่อไร
“พรรคก้าวไกลเข้าใจรัฐบาลต้องรับภาระชำระหนี้จากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ได้แก่ หนี้เงินคงคลัง 1.2 แสนล้านบาท และหนี้ผ่อนชำระเกือบ 4 แสนล้านบาท แต่ส่วนที่ต้องจัดสรรงบประมาณเรากลับไม่เห็นการขับเคลื่อนนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาและนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้เลย” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา ระบุอีกว่า รู้สึกผิดหวังกับการจัดสรรงบประมาณที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ พร้อมตั้งข้อสังเกต 2 ประการ คือ เรื่องระยะเวลาที่ไม่สามารถใส่โครงการใหม่ๆ เข้ามาได้ แต่ต้องยอมรับว่างบประมาณฉบับนี้มีการแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา ขณะเดียวกันยังมองอีกว่าการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาลทำให้รัฐบาลต้องประนีประนอมกับหลายฝ่ายที่ร่วมรัฐบาล ทำให้หลายโครงการที่เป็นเรือธง เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หรือแจกแท็บเล็ต ต้องเปลี่ยนไปอยู่ในมือของรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลแทน จึงไม่สามารถขับเคลื่อนได้ ซึ่งนี่เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากการได้ร่างงบประมาณเพียง 4 วันเท่านั้น
ขณะที่งบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่จัดสรรมานั้นเป็นไปอย่างน่าผิดหวัง ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้มีการหาเสียงเอาไว้ว่าจะตัดลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมลง 10% แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคืองบเพิ่ม 2% ซึ่งส่วนอื่นพอหาเหตุผลได้ เช่น กระทรวงมหาดไทย ที่งบเพิ่มมาจำนวนมาก เพราะมาจากการจัดงบเพื่อการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นต้องขึ้นลงตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันหลายคนรู้สึกคาดหวังว่าในรอบ 9 ปี ที่มีการเปลี่ยนผู้นำรัฐบาล งบประมาณจะถูกจัดสรรแบบใหม่ๆ เพื่อที่จะสามารถทำให้ขับเคลื่อนนโยบายที่หาเสียงไว้ แต่ขึ้นปีที่ 10 เรายังคงเจอการทำงานแบบเดิมๆ
เมื่อถามเกี่ยวกับการที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 สะท้อนว่าไม่ไว้ใจการทำงานของรัฐมนตรีอื่นหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา มองว่าอาจไม่ถึงขนาดนั้น แต่ตั้งข้อสังเกตว่ามีวาระอะไรหรือไม่ เมื่อให้นายภูมิธรรมมาควบคุมด้วยตนเองทั้งที่ไม่ได้รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจการคลัง จึงมองได้ว่าเป็นเป้าหมายทางการเมือง ไม่ใช่เป้าหมายปกติ พร้อมกับระบุว่าจะไม่มีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวไปใช้ในการอภิปราย แต่ไม่ว่าใครจะมาเป็นประธานกรรมาธิการก็ให้โอกาสทดลองในการทำงานก่อน แต่หากมีปัญหาค่อยมาว่ากัน.-318-สำนักข่าวไทย