หนองบัวลำภู 4 ธ.ค.- “ภูมิธรรม” เผย เตรียมประชุมกลุ่ม 5 จังหวัดบ่ายนี้ เน้นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ศูนย์ One Stop Service และขยายรันเวย์ ยืนยัน สร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง ต้องศึกษาให้ชัดเจน รัฐบาลพร้อมทำ หากทุกฝ่ายเห็นชอบ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่จังหวัดหนองบัวลำภูครั้งแรก ตนเองในฐานะผู้รับผิดชอบเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 คือ จังหวัดบึงกาฬ, เลย, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี สำหรับกลุ่มพื้นที่จะเสนอของบประมาณจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจังหวัดละ 100 ล้านนั้น โดยรายละเอียดแต่ละโครงการจะยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (4 ธ.ค.) เพราะช่วงบ่ายวันนี้ (4 ธ.ค.) ตนจะประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในกลุ่มจังหวัด โดยเบื้องต้นคือ จังหวัดหนองบัวลำภู จะผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำระบบรางเชื่อมต่อไปยังอุดรธานี ส่วนที่จังหวัดอุดรธานี จะทำศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรมของเอกชนอยู่ และจะขยายความร่วมมือไปยังจังหวัดหนองคายด้วย ขณะที่ จ.เลยจะขยายรันเวย์สนามบิน รองรับการขนส่ง จ.บึงกาฬ ที่มีสะพานข้ามแม่น้ำโขงอยู่แล้ว จะมีการเจรจาให้เปิดด่านมากขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวและการค้า เพราะฉะนั้นโดยทั้งหมด ของการค้าขาย ทั้งการค้าชายแดน และการค้าผ่านแดน เป็นจุดที่จะเชื่อมสามประเทศเวียดนาม, ลาว, ไทย และต่อไปยังจีน ซึ่งตรงนี้จะสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ เพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่อย่างมาก
ในส่วนของของบประมาณพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วเป็นงบที่ผูกพันไม่ได้ จะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งมีเรื่องที่ยังไม่สามารถทำได้ และอาจสร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งงบมีประมาณ 750 ล้านบาท และงบประมาณทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ ส่วนงบประมาณนอกเหนือจากนี้ก็เป็นงบประจำปีอยู่แล้ว
ส่วนถึงกรณีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขออนุมัติงบประมาณสำหรับการออกแบบกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย นายภูมิธรรม กล่าวว่า คงต้องหารือหลายฝ่าย เป็นเรื่องความคล่องตัวในการอำนวยความสะดวกการท่องเที่ยวและทำให้การท่องเที่ยวสามารถเดินได้ในการการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้ดีขึ้น
“แต่จะมีเรื่องของกลุ่มอนุรักษ์ซึ่งมีความคิดเห็นต่างอยู่หลายเรื่อง เป็นเรื่องที่ต้องระดมความคิดกันเสนอและพิจารณาร่วมกัน การศึกษาเป็นสิ่งดีทำให้เกิดความรอบครอบ เนื่องจากเป็นความขัดแย้งระหว่างความคิดเชิงวัฒนธรรมกับความคิดในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว สองอย่างนี้ไม่ได้ขัดกันทั้งหมด แต่ดูว่าเหมาะสมอย่างไร ต่างประเทศเขาก็ทำได้ ในสังคมไทยก็มีเรื่องของความห่วงใยที่กังวลจะกระทบธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงต้องศึกษาดู”นายภูมิธรรม กล่าว ส่วนโครงการจะเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ถ้าทุกอย่างไม่มีปัญหา และเกิดประโยชน์ ทุกฝ่ายเข้าใจ รัฐบาลนี้ก็พร้อมทำ ย้ำว่าต้องศึกษาให้ชัดเจน.-317.-สำนักข่าวไทย