ตั้งเป้า 4 ปี ดึงบริษัทชั้นนำกว่า 100 แห่ง ลงทุนในไทย

ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ 13 พ.ย.- เลขาฯ บีโอไอ เผย ตลาดอีวีไทยเพิ่มขึ้น 7 เท่ามากสุดในภูมิภาค ชี้ ตั้งเป้า 4 ปี ดึงบริษัทชั้นนำไม่น้อยกว่า 100 แห่ง ลงทุนในไทย ให้เกิดการจ้างงานกว่า 10,000 ตำแหน่ง


เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 พ.ย. 2566 ตามเวลาท้องถิ่นซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ช้ากว่าเวลาประเทศไทย 15 ชั่วโมง นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวถึงกิจกรรมที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา มี 2 ส่วน คือ นายกฯ จะพบปะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเป้าหมายในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล และ อีวี และอีกส่วนคือ ผู้ประกอบการไทยประมาณ 20 คน ที่ร่วมเดินทางมาด้วย โดยมีกิจกรรมให้ผู้ประกอบการไทยพบกับบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ เพื่อสร้างศักยภาพความร่วมมือในอนาคต มีกิจกรรมพาภาคธุรกิจไทยเยี่ยมชมภาคธุรกิจสหรัฐฯ โดยจัดกิจกรรมเชิญบริษัทของสหรัฐฯ กว่า 80 บริษัท มาพบปะพูดคุยกัน เช่น การพบปะของบริษัท 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมอีวี เช่น Tesla ต่อยอดจากที่เคยพบปะกันที่นิวยอร์ก โดยจะมาพูดคุยให้ลึกขึ้นและติดตามผล เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอีวีในภูมิภาค โดยช่วงที่ผ่านมามีบริษัทรายใหม่หลายรายเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เข้ามาตั้งฐานการผลิตส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ

นายนฤตม์ กล่าวว่า ตลาดอีวีในเมืองไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนรถอีวีมากกว่า 6,000 คัน เพิ่มขึ้น 7 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในภูมิภาค เป็นสิ่งที่ทำให้ตลาดไทยเป็นที่ดึงดูดของค่ายรถยนต์อีวีที่ต้องการเข้ามาเปิดตลาดลงทุนในประเทศไทย นอกจากนี้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ที่นายกฯ เป็นประธานยังเห็นชอบมาตรการต่อเนื่องจาก อีวี 3 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่ต้องการให้ไทยเป็นผู้นำของภูมิภาคในการเป็นฐานผลิตอีวีและเป็นท็อปเท็นของโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ไทยสามารถสร้างความมั่นใจดึงนักลงทุนให้มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นได้


นายนฤตม์ กล่าวว่า นายกฯ จะพบปะกับบริษัทเอกชนต่างๆ  ทั้งด้านดิจิทัลจะพบกับบริษัทสำคัญ เช่น บริษัท AWS บริษัท Google และบริษัท ไมโครซอฟต์ โดยบริษัทอเมซอนที่ประกาศร่วมลงทุนในไทยในต้นปีหน้า โดยลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 200,000 ล้านบาท ระยะแรกลงทุนสร้าง data center 3 แห่ง เฟสแรกประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นว่าบริษัทต้องการ่วมทุนรัฐบาลไทยที่สนับสนุน ส่วนบริษัท Google และบริษัทไมโครซอฟต์ เป็นบริษัทที่นายกฯ ได้พบที่นิวยอร์ก และทำงานกันต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้เป็นรูปธรรมและพยายามดึงดูดให้บริษัทเหล่านี้ เข้ามาตั้งฐาน data center และคลาวน์ เซอร์วิสในไทย รวมถึงมาช่วยยกระดับเรื่องดิจิทัลอินฟอร์เมชั่น รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล ซึ่งย้ำว่าไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะดึงบริษัทเหล่านี้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยให้ได้

เลขาฯ บีโอไอ กล่าวว่า กลุ่มด้านอิเล็กทรอนิกส์ นายกฯ จะพบบริษัท ADI บริษัท HP ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีความสนใจในประเทศไทย เพราะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้ายุทธศาสตร์ที่ประเทศทั่วโลกต้องการดึงให้ไปผลิตที่ประเทศตัวเอง โดยเฉพาะสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งที่ผ่านมาไทยเป็นการผลิตกลางน้ำ รัฐบาลจึงมีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการมุ่งยกระดับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มุ่งไปสู่ต้นน้ำมากขึ้น ด้วยการส่งเสริมโรงงานผลิต การออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนายกฯ จะได้พบปะพูดคุยและเชิญชวนให้ขยายฐานการผลิตในไทย

“สำหรับจุดแข็งของไทยที่ทำให้บริษัทเหล่านี้สนใจ เนื่องจากไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมมากที่สุดในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า นิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ สนามบินที่มีคุณภาพ และซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิสก์ที่มีผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 2,000 ราย ที่มีทักษะสูง มีประสบการณ์ทำงานกับบริษัทระดับโลกมาหลาย 10 ปี และพร้อมมาอยู่ในซัพพลายของฐานการผลิตใหม่ ๆ ความต้องการพลังงานสะอาด ความเป็นกลางทางคาร์บอน ไทยสามารถทำให้มั่นใจว่ามีพลังงานสะอาดสามารถป้อนให้กับกำลังการผลิต ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญที่ดึงดูดให้เข้าไปตั้งฐานการผลิตในไทย” เลขาฯ บีโอไอ กล่าว


เลขาฯ บีโอไอ ยังกล่าวถึง ปัญหาค่าแรงของไทย ไม่ส่งผลกระทบหรือความกังวลแก่บริษัทเหล่านี้ เพราะเน้นใช้เทคโลยีขั้นสูงและนวัตกรรม จึงไม่มีผลต่อการตัดสินใจ เรื่องค่าแรงจึงไม่เป็นปัจจัยสำคัญ แต่เรื่องขีดความสามารถขั้นสูงเป็นปัจจัยสำคัญ

“ไทยจึงเตรียมผลิตบุคลากรที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาโปรแกรมต่างๆ การสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางในการจับคู่ความต้องการ และอีกส่วนเปิดช่องให้มีการนำเข้าบุคลากรหลายสาขาจากต่างประเทศ เพื่อมาพัฒนาอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีไทยเป็นศูนย์กลาง เช่น การมีวันสตอปเซอร์วิส อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จึงมีความสำคัญ และเมื่อธุรกิจเหล่านี้มีการขยายฐานการผลิตจะทำให้เกิดการจ้างงาน” เลขาฯบีโอไอ กล่าว

ทั้งนี้ บอร์ดบีโอไอ ตั้งเป้าภายใน 4 ปี จะดึงบริษัทชั้นนำไม่น้อยกว่า 100 บริษัท ไปตั้งในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการจ้างงานที่มีคุณค่าสูงกว่า 10,000 ตำแหน่ง ปัจจุบันมีบริษัทชั้นนำที่ใช้เมืองไทยเป็นฐานมากมาย เช่น agoda ที่มีพนักงานอยู่ 3,000 คน ในประเทศไทย เป็นต่างชาติ 2,000 คน และคนไทย 1,000 คน โดยมีการพัฒนาที่ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีบริษัท บิชชิน ฮิตาชิ ก็มีฐานที่ประเทศไทย

เลขาฯ บีโอไอ กล่าวว่า สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ก็เป็นโปรเจคสำคัญ  นายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและบีโอไอทำงานร่วมกัน เพื่อเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์เป็นโครงการที่ใหญ่มากที่มีทั้งท่าเรือ การคมนาคมขนส่ง รวมถึงพื้นฐานอุตสาหกรรมบริเวณโดยรอบที่จะมารองรับกลุ่มงานอุตสาหกรรมที่มาลงในพื้นที่ตรงนี้ บีโอไอจะมีส่วนเชิญชวนให้นักลงทุน ทั้งมาลงทุนในการก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือ ถนน ระบบโลจิสติกส์ ซึ่งการออกโรดโชว์โครงการแลนด์บริดจ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]

ยักยอกเงินวัด

โกงผ่านวัด… อุดช่องโหว่คอร์รัปชัน

17 พ.ค.- อีกประเด็นสำคัญที่ต้องกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง เกิดขึ้นแทบทุกวงการ ไม่เว้นวัด หลายปีที่ผ่านมา คดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนวัด สะเทือนวงการสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ จะไปพูดคุยเรื่องนี้ กับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) .-สำนักข่าวไทย

ฝากขังทิดแย้ม

ฝากขัง-ค้านประกัน “ทิดแย้ม” และพวก ยักยอกเงินวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พร้อมพวกอีก 2 คน ไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว คดียักยอกเงินวัดเล่นพนันออนไลน์ เมื่อเวลา 10.39 น. พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” และหญิงคนสนิทออกจากห้องควบคุม ขึ้นรถตู้ นำตัวไปฝากขัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน โดยทั้ง 2 มีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ตอบคำถามและให้สัมภาษณ์ใดๆ เมื่อทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเงินจำนวนดังกล่าวนั้นได้นำไปเล่นการพนันหรือไม่ และเงินจำนวนทั้งหมดเป็นเงินของวัดหรือไม่ “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ยกมือแสดงสัญลักษณ์ปฏิเสธไม่ขอพูด และไม่ขอตอบคำถามใดๆ พร้อมกับเดินอย่างสงบนิ่งขึ้นรถตู้ออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะที่การสอบปากคำทั้งคู่ ยังคงให้การภาคเสธ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้คัดค้านการประกันตัว ทั้ง 2 เนื่องจากเป็นคดีเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการทุจริต มูลค่าความเสียหาย จำนวนมาก อีกทั้งหากได้รับการประกันตัวหวั่นผู้ต้องหายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและหลบหนีคดี ซึ่งยากต่อการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีในภายหลัง อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ทนายความพร้อมกับลูกศิษย์ เตรียมคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ยื่นขอประกันตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” เช่นเดียวกับหญิงคนสนิททางญาติก็เตรียมคำร้องพร้อมกับหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวเช่นเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย