“สมศักดิ์” ลุยสุพรรณบุรี-อยุธยา Big Cleaning Day กำจัดผักตบชวา

สุพรรณบุรี, อยุธยา 28 ต.ค. – “รองนายกฯ สมศักดิ์” ลุยสุพรรณบุรี-อยุธยา Big Cleaning Day กำจัดผักตบชวาขวางทางน้ำ โชว์เก็บผักตบเอง พร้อมมอบถุงยังชีพ-สวมบทเชฟปรุงอาหารแจก แนะดันคลองญี่ปุ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชี้ สทนช.ตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ลดผลกระทบประชาชน สั่งทำข้อมูลต้องมีน้ำเท่าไหร่ถึงพอทำเกษตร


วันนี้ (28 ต.ค.66) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และนายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการ สทนช. ได้ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day กำจัดผักตบชวาและวัชพืชกีดขวางทางน้ำ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย และร่วมประชุมติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง

โดยจุดแรก นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังโรงเรียนวัดทรงกระเทียม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day ที่มีนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ให้การต้อนรับ


นายสุรสีห์ กล่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ และมีอุปสรรคจากสิ่งกีดขวางทางน้ำ จึงได้จัดกิจกรรม Big Cleaning Day ในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุกภาคส่วนร่วมสนับสนุนการกำจัดผักตบชวาที่กีดขวางทางน้ำ ในบริเวณคลองญี่ปุ่นเหนือ ตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า ซึ่งมีระยะทางยาว 18 กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จตลอดลำน้ำ ภายในเดือนธันวาคม 2566 สำหรับการดำเนินการในวันนี้ เป็นการดำเนินการระยะที่ 1 จะดำเนินการบริเวณหน้าวัดทรงกระเทียม ระยะทาง 1.28 กิโลเมตร ซึ่งได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือสำหรับดำเนินงานจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชน ที่ร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมในวันนี้

นายสมศักดิ์ กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันเหนื่อยในการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงประสบอุทกภัย ซึ่งเราต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหา โดยเข้าใจความเดือดร้อนของเหตุน้ำท่วมเป็นอย่างดี เพราะอยู่เมืองน้ำ คือ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีปัญหาน้ำท่วมมาโดยตลอด ดังนั้น สทนช. ต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาแบบถาวร เพราะหากเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ จะสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก อย่างปี 2554 สร้างความเสียหายถึง 1.4 ล้านล้านบาท โดยการลงพื้นที่ในวันนี้ ต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกัน พร้อมช่วยกันสนับสนุนข้อมูล เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในทิศทางที่ถูกต้อง อย่างคลองญี่ปุ่น เราก็สามารถช่วยกันส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้

ทั้งนี้ ภายหลังกล่าวเปิดงาน นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่บริเวณคลองญี่ปุ่นเหนือ เพื่อมอบอุปกรณ์ในการกำจัดผักตบชวา พร้อมร่วมเก็บผักตบชวาด้วยตัวเอง ก่อนจะติดตามดูเครื่องจักรขนาดใหญ่กำจัดผักตบชวา


นายสมศักดิ์ ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมีนโยบายตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง เพราะในช่วงฤดูฝน มวลน้ำจะไหลมารวมในพื้นที่ภาคกลาง อย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทาง สทนช. จึงได้ดำเนินการตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด รวมถึง สทนช. ยังมีหน้าที่บูรณาการไม่ให้เกิดน้ำชะลอตัว หรือไม่มีอุปสรรคกีดขวางทางน้ำ เช่น ผักตบชวา จึงมีการจัดกิจกรรมในวันนี้ ส่วนแนวทางการกำจัดผักตบชวาในระยะยาว ก็ได้มีผู้เสนอให้ อบต.แต่ละพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากมีความเข้าใจพื้นที่เป็นอย่างดี แต่ต้องพร้อมใจกันขับเคลื่อนทั่วประเทศด้วย ซึ่งจะเป็นการกระจายอำนาจ ตามแนวนโยบายของรัฐบาล

จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้เดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคลัง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า น้ำที่ท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เราจะแก้ปัญหาอย่างถาวรอย่างไร โดยได้เข้ามาดูการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง ซึ่งกำกับดูแล สทนช. ที่ต้องบูรณาการทุกภาคส่วนให้เกิดการแก้ปัญหาแบบถาวร โดยมั่นใจว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้

นายสมศักดิ์ ยังได้เดินทางต่อไปยังศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงาน โดยมีนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมประชุม

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า จะรับผิดชอบในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลเห็นชอบ ในการรับมือหน้าฝน และหน้าแล้ง ซึ่ง สทนช.ได้วางมาตรการแล้วทั้งหมด 12 มาตรการ เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ โดยจะสามารถช่วยภาคการเกษตรได้ ซึ่งได้มอบแนวนโยบายให้ศึกษารายละเอียดว่า ต้องมีน้ำเท่าไหร่ ถึงจะเพียงพอต่อการทำการเกษตร เพื่อที่จะได้นำข้อมูลทั้งหมดมาบริหารจัดการน้ำได้ เช่น ถ้ามีน้ำ 100% ทำการเกษตรได้เท่าไหร่ หรือถ้ามีน้ำ 80% จะทำการเกษตรได้เท่าไหร่ รวมทั้งต้องแก้ปัญหาให้ถึงต้นเหตุ จึงจะสามารถรับมือกับน้ำได้ นอกจากนี้ ได้มอบ สทนช. ให้สำรวจหาที่ดินสำหรับทำเป็นพื้นที่รับน้ำไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันที่ดินราคาขึ้น และประชาชนไม่ยอมให้เวนคืนด้วย จะได้มีที่ดินรองรับ หากต้องสร้างที่เก็บน้ำเพิ่มเติม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

Hun Sen in vdo call

“ฮุน เซน” ยืนยันไม่หนีออกจากกัมพูชา

พนมเปญ 24 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า ยังอยู่ในกัมพูชา หลังจากมีข่าวว่าเขาหนีออกนอกประเทศไปจีน นายฮุน เซน โพสต์เป็นภาษาเขมรในหน้าเฟซบุ๊กชื่อ Samdech Hun Sen of Cambodia ที่มีผู้ติดตาม 14 ล้านคน และไม่ได้ติดตามใคร เมื่อช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยอ้างว่า หนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่งรายงานว่า เขาเดินทางออกจากกัมพูชาไปจีน เขาขอยืนยันว่า ขณะนี้กำลังประชุมทางวิดีโอกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารในทุกระดับ เพื่อสู้รบกับไทย เขาไม่ได้วิ่งหนี ดังนั้นขอให้เพื่อนร่วมชาติอย่าได้กังวล นายฮุน เซนโพสต์ว่า เขามาประชุมเรื่องนี้ตั้งแต่แม่ทัพภาค 2 ของไทยประกาศจะปิดทางเข้าปราสาทตาเมือนธม พร้อมกับลงภาพตนเองขณะกำลังคุยโทรศัพท์และประชุมทางวิดีโอหลายภาพ.-814.-สำนักข่าวไทย

สมช.ประณามกัมพูชา ย้ำยังไม่ใช่ภาวะสงคราม

24 ก.ค. – สมช. ประณามการกระทำของกัมพูชา ใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาฝั่งไทย โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมย้ำขณะนี้เป็นเพียงการปะทะกัน ยังไม่ใช่ภาวะสงคราม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วันนี้เป็นนัดพิเศษ และเป็นการประชุม ครม.ด้วย โดยได้รับรายงานการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าเป็นการยิงเข้ามาจากทางกัมพูชา และมีการใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย โดยไม่มีเป้าหมายชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 11 คน เป็นพลเรือน 10 คน ทหาร 1 นาย และบาดเจ็บ 28 คน จึงขอประณามการกระทำของกัมพูชาที่ใช้กำลังโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ขณะที่อาวุธหนักบางลูกยิงเข้ามาที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งห่างชายแดนเพียง 3 กิโลเมตร ถือเป็นการใช้กำลังโดยไม่ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ ยืนยันไม่ใช่ภาวะสงคราม เป็นเพียงการปะทะกันเท่านั้น และย้ำว่าไทยใช้สันติวิธี ไม่ประสงค์ใช้ความรุนแรง แต่เป็นการยั่วยุ จึงต้องป้องกันตนเองและประเทศชาติ ซึ่งไทยไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย ทั้งนี้ ได้เตรียมการป้องกันและปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ โดยใช้มาตรการต่างๆ และอำนาจทางการทหารอย่างเหมาะสม ซึ่งหากฉุกเฉินทหารสามารถปฏิบัติการได้ทันที โดยให้ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ […]

ทบ.รายงานยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุปะทะชายแดนกัมพูชา

24 ก.ค.- “กองทัพบก” อัปเดตเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนเสียชีวิต 9 ราย เป็นเด็ก 1 ราย เจ็บ 14 ราย พร้อมประณามกัมพูชา ใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ (24 ก.ค. 68) ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้ ทั้งนี้ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าวอย่างถึงที่สุด -สำนักข่าวไทย

วิกฤติหนัก เมืองน่านจมบาดาล ขยายวงกว้างเกือบ 10 กม.

น่าน 24 ก.ค. – น้ำท่วมตัวเมืองน่านยังวิกฤติหนัก หลังน้ำน่านยังเพิ่มสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 แล้วและขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ยังเร่งช่วยเหลือผู้คน รวมทั้งผู้ป่วยออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย