“สมศักดิ์” ลุยสุพรรณบุรี-อยุธยา Big Cleaning Day กำจัดผักตบชวา

สุพรรณบุรี, อยุธยา 28 ต.ค. – “รองนายกฯ สมศักดิ์” ลุยสุพรรณบุรี-อยุธยา Big Cleaning Day กำจัดผักตบชวาขวางทางน้ำ โชว์เก็บผักตบเอง พร้อมมอบถุงยังชีพ-สวมบทเชฟปรุงอาหารแจก แนะดันคลองญี่ปุ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชี้ สทนช.ตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ลดผลกระทบประชาชน สั่งทำข้อมูลต้องมีน้ำเท่าไหร่ถึงพอทำเกษตร


วันนี้ (28 ต.ค.66) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และนายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการ สทนช. ได้ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day กำจัดผักตบชวาและวัชพืชกีดขวางทางน้ำ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย และร่วมประชุมติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง

โดยจุดแรก นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังโรงเรียนวัดทรงกระเทียม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day ที่มีนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ให้การต้อนรับ


นายสุรสีห์ กล่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ และมีอุปสรรคจากสิ่งกีดขวางทางน้ำ จึงได้จัดกิจกรรม Big Cleaning Day ในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุกภาคส่วนร่วมสนับสนุนการกำจัดผักตบชวาที่กีดขวางทางน้ำ ในบริเวณคลองญี่ปุ่นเหนือ ตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า ซึ่งมีระยะทางยาว 18 กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จตลอดลำน้ำ ภายในเดือนธันวาคม 2566 สำหรับการดำเนินการในวันนี้ เป็นการดำเนินการระยะที่ 1 จะดำเนินการบริเวณหน้าวัดทรงกระเทียม ระยะทาง 1.28 กิโลเมตร ซึ่งได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือสำหรับดำเนินงานจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชน ที่ร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมในวันนี้

นายสมศักดิ์ กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันเหนื่อยในการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงประสบอุทกภัย ซึ่งเราต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหา โดยเข้าใจความเดือดร้อนของเหตุน้ำท่วมเป็นอย่างดี เพราะอยู่เมืองน้ำ คือ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีปัญหาน้ำท่วมมาโดยตลอด ดังนั้น สทนช. ต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาแบบถาวร เพราะหากเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ จะสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก อย่างปี 2554 สร้างความเสียหายถึง 1.4 ล้านล้านบาท โดยการลงพื้นที่ในวันนี้ ต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกัน พร้อมช่วยกันสนับสนุนข้อมูล เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในทิศทางที่ถูกต้อง อย่างคลองญี่ปุ่น เราก็สามารถช่วยกันส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้

ทั้งนี้ ภายหลังกล่าวเปิดงาน นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่บริเวณคลองญี่ปุ่นเหนือ เพื่อมอบอุปกรณ์ในการกำจัดผักตบชวา พร้อมร่วมเก็บผักตบชวาด้วยตัวเอง ก่อนจะติดตามดูเครื่องจักรขนาดใหญ่กำจัดผักตบชวา


นายสมศักดิ์ ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมีนโยบายตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง เพราะในช่วงฤดูฝน มวลน้ำจะไหลมารวมในพื้นที่ภาคกลาง อย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทาง สทนช. จึงได้ดำเนินการตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด รวมถึง สทนช. ยังมีหน้าที่บูรณาการไม่ให้เกิดน้ำชะลอตัว หรือไม่มีอุปสรรคกีดขวางทางน้ำ เช่น ผักตบชวา จึงมีการจัดกิจกรรมในวันนี้ ส่วนแนวทางการกำจัดผักตบชวาในระยะยาว ก็ได้มีผู้เสนอให้ อบต.แต่ละพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากมีความเข้าใจพื้นที่เป็นอย่างดี แต่ต้องพร้อมใจกันขับเคลื่อนทั่วประเทศด้วย ซึ่งจะเป็นการกระจายอำนาจ ตามแนวนโยบายของรัฐบาล

จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้เดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคลัง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า น้ำที่ท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เราจะแก้ปัญหาอย่างถาวรอย่างไร โดยได้เข้ามาดูการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง ซึ่งกำกับดูแล สทนช. ที่ต้องบูรณาการทุกภาคส่วนให้เกิดการแก้ปัญหาแบบถาวร โดยมั่นใจว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้

นายสมศักดิ์ ยังได้เดินทางต่อไปยังศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงาน โดยมีนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมประชุม

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า จะรับผิดชอบในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลเห็นชอบ ในการรับมือหน้าฝน และหน้าแล้ง ซึ่ง สทนช.ได้วางมาตรการแล้วทั้งหมด 12 มาตรการ เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ โดยจะสามารถช่วยภาคการเกษตรได้ ซึ่งได้มอบแนวนโยบายให้ศึกษารายละเอียดว่า ต้องมีน้ำเท่าไหร่ ถึงจะเพียงพอต่อการทำการเกษตร เพื่อที่จะได้นำข้อมูลทั้งหมดมาบริหารจัดการน้ำได้ เช่น ถ้ามีน้ำ 100% ทำการเกษตรได้เท่าไหร่ หรือถ้ามีน้ำ 80% จะทำการเกษตรได้เท่าไหร่ รวมทั้งต้องแก้ปัญหาให้ถึงต้นเหตุ จึงจะสามารถรับมือกับน้ำได้ นอกจากนี้ ได้มอบ สทนช. ให้สำรวจหาที่ดินสำหรับทำเป็นพื้นที่รับน้ำไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันที่ดินราคาขึ้น และประชาชนไม่ยอมให้เวนคืนด้วย จะได้มีที่ดินรองรับ หากต้องสร้างที่เก็บน้ำเพิ่มเติม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]

เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันที

รัฐสภา 4 ก.ย.-เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ ชวน ปชน. โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบาย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณถึงการบรรจุวาระโหวตนายกฯ ไว้ต่อที่ประชุมสภาฯ วันที่ 5 ก.ย. นี้ ว่า เข้าใจว่าอาจจะมีการเสนอให้เลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณา แต่พรรคเพื่อไทยจะขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระและไม่ยอมให้เลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อน อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหากมีการลงมติจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่าตนได้รับการประสานมาจากพรรคประชาชน ให้ขอให้พรรคเพื่อไทยยืนยันต่อการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมสภาฯ ขณะเดียวกันนั้นได้เรียกร้องว่าหาก นายชัยเกษมได้เป็นนายกฯ หลังการแถลงนโยบายแล้วต้องประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ทันที “ตอนนี้มีข้อเสนอแบบนี้หหลังจากที่แถลงนโยบาย เราจะยุบสภาทันที หากพรรคประชาชนไม่อยากให้เกิดปัญหา กรณีที่ชาวบ้านไม่ยอมรับ ต้องทำตามนี้ ส่วนหนึ่งที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อให้นายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีอำนาจยุบสภา หลังจากที่ขณะนี้มีปัญหา” นายวิสุทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ห้องประชุมสภา คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง

รัฐสภา 4 ก.ย.-ห้องประชุมสภาฯ คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง ไม่เว้นโซน “เพื่อไทย” ขณะที่ สส.พรรคประชาชน บอกลำบากใจโหวต ให้ “เสี่ยหนู” แต่จำเป็นเพื่อผ่าทางตัน พร้อมฝากถึง “แพทองธาร” สารตั้งต้นปัญหา ควรรับผิดชอบมากกว่านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาเดือดร้อน โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการเลือกกันในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เดินเข้าห้องประชุมเมื่อเวลา 09.20 น.ได้เดินทักทาย สส.พรรคภูมิใจไทย และมีการถ่ายภาพหมู่ในห้องประชุม จากนั้นได้เดินทักทายพูดคุยกับ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส.พรรคประชาชน ในที่นั่งของพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่นั่งพรรคประชาชน ขณะที่มี สส.ส่วนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทาย จับมือ แสดงความยินดีล่วงหน้าที่นายอนุทิน จะได้รับการโหวตเป็นนายกฯ นอกจากนั้นนายอนุทิน ยังเดินไปทักทายพูดคุยกับ สส.พรรคเพื่อไทย เช่น […]

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย