หลัง 22 ต.ค.อพยพคนไทย พักรอที่ดูไบ ก่อนกลับประเทศ

กระทรวงการต่างประเทศ 18 ต.ค.-กต.แจงคนไทยในอิสราเอลที่ต้องการกลับประเทศ วอล์คอินได้ที่ศูนย์พักพิง เผย หลัง 22 ต.ค.เตรียมอพยพไปพักรอที่ดูไบก่อนกลับไทย การันตี 17 ตัวประกันปลอดภัย


นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าการอพยพคนไทยและแรงงานไทยในอิสราเอล จากเหตุความรุนแรงในตะวันออกกลางว่า ขณะนี้ รัฐบาลพยายามจัดเที่ยวบินเทลอาวีฟ-กรุงเทพฯ ทุกวัน เพื่อให้สามารถอพยพคนไทยได้วันละ 400 คน โดยตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป จะมีการลำเลียงคนไทยที่ต้องการกลับประเทศ ไปเปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบ ซึ่งจะมีเครื่องบินขนาดใหญ่ ที่รัฐบาลจะจ้างเหมาลำเลียงระหว่างเทลอาวีฟมายังดูไบ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้น จะมีสายการบินพาณิชย์ที่ได้ประสานงานกันไว้ ทั้งเครื่องบินกองทัพอากาศ การบินไทย นกแอร์ แอร์เอเชีย และไลออนแอร์ เพื่อรับคนไทยจากดูไบ กลับมายังประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ ได้กำหนดตารางการบินไว้พร้อมแล้ว ว่าสายการบินใด จะทำการบินเมื่อใด ในเวลาใด และมีผู้โดยสายเท่าไร ซึ่งหากมีผู้โดยสารตกหล่น สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอารับเอมิเรตส์ และสถานกงสุลใหญ่นครดูไบ ก็จะเปิดห้องพักไว้รับรอง เพื่ออำนวยความสะดวกคนไทย และทั้งสถานทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ จะอำนวยความสะดวกในการออกวีซ่าเพื่อเข้าประเทศให้ด้วย และยังได้ประสานกับทางการท้องถิ่น ท่าอากาศยาน และโรงแรมพร้อมแล้ว แต่ในระหว่างนี้ทุกวัน ก็จะยังคงมีเที่ยวบินตามปกติ ทั้งของกองทัพอากาศ การบินไทย อิสราเอลแอร์ไลน์ และสไปร์ทเจ็ท เพื่ออพยพคนไทยที่ต้องการกลับประเทศให้รวดเร็วที่สุด

“ตั้งแต่มีการอพยพนั้น สามารถนำคนไทยกลับประเทศได้แล้ว 926 คน จากทั้งหมด 7 เที่ยวบิน โดยยังไม่รวมจำนวนคนไทย และแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาเอง พร้อมยังขอบคุณพี่น้องคนไทย ที่ช่วยคนเคลื่อนย้าย รับคนไทย และแรงงานไทยในอิสราเอล โดยเฉพาะ “พี่แจ๋น” ที่ได้ช่วยกันดูแลคนไทยในอิสราเอล และส่งคนไทยให้ถึงสถานทูต เพื่อเดินทางกลับบ้าน และมั่นใจว่า สิ้นเดือนตุลาคมนี้ หรือต้นเดือนพฤศจิกายน จะสามารถอพยพคนไทยได้ตามเป้าหมาย”นางกาญจนา กล่าว


โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังย้ำด้วยว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ ได้จัดให้คนไทยเข้าศูนย์พักพิง เพื่อรอเดินทางกลับประเทศไทย ที่โรงแรมเดวิดอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทลอาวีฟ และยังมีโรงแรมใกล้เคียงอีก 7 แห่ง เพื่อรอเดินทางขึ้นเครื่องบินกลับประเทศ ซึ่งคนไทยในอิสราเอลที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ ทั้งที่ลงทะเบียนไว้แล้ว หรือไม่ได้ลงทะเบียน สามารถเดินทางไปที่โรงแรมดังกล่าว เพื่อกลับประเทศได้ ซึ่งหากแรงงานไม่มีหนังสือเดินทาง สถานทูตฯ ก็พร้อมออกเอกสารเดินทางชั่วคราวระหว่างพักอยู่ที่ศูนย์พักพิงให้ได้ ซึ่งขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนขอเดินทางกลับประเทศไทยแล้วทั้งสิ้น 8,160 คน และยังไม่ประสงค์เดินทางกลับ 110 คน

ส่วนการอพยพคนไทยใกล้ฉนวนกาซากว่า 5,000 คนนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า คนไทยส่วนใหญ่ได้อพยพออกมาแล้ว แต่อาจจะมีบางส่วนที่ยังไม่สามารถอพยพได้ แต่กระทรวงฯ และสถานทูตฯ ได้พยายามติดตามทุกช่องทาง เพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมถึงการส่งข้อความแจ้งเตือนแก่พลเมืองไทยในพื้นที่ที่ใช้บริการโรมมิ่งในอิสราเอล เพื่อส่งข้อมูลแจ้งเตือน รวมถึงการส่งข้อมูลต่าง ๆ ที่มีผู้ส่ง หรือแจ้งมาตามช่องทางการสื่อสารของกระทรวง เพื่อแจ้งต่อกรมการกงสุล ให้ความช่วยเหลือต่อไป และขอให้คนไทย แรงงานไทย มั่นใจในความปลอดภัยก่อนอพยพมายังศูนย์พักพิง เพราะแม้จะมีผู้โดยสารตกหล่น ก็สามารถนำผู้ที่รอการอพยพขึ้นไปทดแทนได้ และเที่ยวบินก็จะมีทุกวัน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังชี้แจงกรณีที่จำนวนผู้เดินทางกลับในเที่ยวบินต่าง ๆ ที่ลงทะเบียนไว้ แต่ในการเดินทางกลับจริง มีจำนวนไม่ตรงกันว่า มีหลายสาเหตุ เช่น ลงทะเบียนไว้ แต่สละสิทธิ์ หรือไม่สามารเดินทางออกมาจากพื้นที่ได้ หรืออยู่ในพื้นที่อื่นๆ ยืนยันว่า สถานทูตฯ จะติดตามผู้ที่ลงทะเบียนไว้ทุกคน เพื่อให้ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศสามารถกลับบ้านได้


พร้อมกันนี้ ยังชี้แจงถึงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยเหตุใดเที่ยวบินไทยจึงต้องบินอ้อม ไม่บินเส้นทางตรงเข้าสู่อิสราเอลว่า เนื่องจาก บางประเทศไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล ดังนั้น บางประเทศเหล่านั้น ก็จะไม่อนุญาตให้ไทยทำการบินผ่านประเทศนั้นๆ ทำให้ต้องบินอ้อม และกระทรวงการต่างประเทศ ก็กังวลว่า หากขออนุญาตบินผ่านประเทศนั้นๆ แล้ว จะเกิดความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับอนุญาต หรือเกิดความล่าช้า จึงได้ตัดสินใจให้ทำการบินอ้อม 3-4 ชั่วโมง เพื่อความชัวร์ และความแน่ใจ เพื่อไม่ให้คนไทยในอิสราเอลต้องเสี่ยง หรือรอความล่าช้าที่เกิดขึ้น

“เราไม่ได้ขอบินผ่านประเทศที่จะมีความเสี่ยงว่า อาจจะไม่ได้รับอนุญาต หรืออาจจะได้รับอนุญาต แต่ล่าช้า ซึ่งประเทศเหล่านี้ เราไม่ได้ขอบินผ่าน เพราะเราคิดว่า การเสียเวลาอ้อมสัก 3-4 ชั่วโมง ดีกว่าต้องไปขออนุญาตกับประเทศที่ไม่อนุญาตให้บินไปปลายทางสู่อิสราเอล ทำให้ต้องไปหลายประเทศ และต้องขอเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำการบิน อาจต้องใช้เวลา สู้เราเอาให้ชัวร์ๆ ว่า เราขอแล้วเราจะได้แน่ๆ ซึ่งโดยปกติการขออนุญาตทำเส้นทางการบิน ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ และที่ผ่านมาได้เร่งรัดให้ทุกสถานทูตในพื้นที่ ติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศนั้นๆ ดังนั้น เราจึงไม่ได้ขอ เพื่อทำให้เกิดความรวดเร็ว และไม่เสี่ยงที่จะทำให้เกิดความล่าช้า ส่วนประเทศอื่นที่บินได้ ก็อาจจะมีข้อตกลงกัน หรือหากไทยขอ ในห้วงเวลาสงครามนี้ อาจจะได้ก็ได้ แต่เราไม่อยากเสี่ยง และไม่อยากรอ ไม่อยากทำให้คนไทยต้องเสียเวลารอการขออนุมัติต่างๆ ดังนั้น การบินเพิ่ม 3-4 ชั่วโมงจึงไม่ใช่ประเด็น” นางกาญจนา กล่าว

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ส่งผลให้มีจำนวนผู้เสียสะสม 30 ราย บาดเจ็บคงเดิม 16 คน และถูกจับเป็นตัวประกัน 17 คน พร้อมกล่าวถึงการโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนการซา เมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ว่า ถือเป็นการผิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างรุนแรง เนื่องจาก เป้นการโจมตีโรงพยาบาล เพราะตามปกติ จะไม่มีการโจมตีโรงพยาบาล โรงเรียน หรือพลเรือน จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของไทยขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียครั้งนี้ และกระทรวงการต่างประเทศ จะมีการแถลงการณ์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป เนื่องจาก เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สถานการณ์แย่ลงไปมาก เพราะเดิมทีจะมีการหารือระหว่างผู้นำสหรัฐอเมริกา กับผู้นำประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ก็ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังขอให้ประชาชนคนไทยที่พำนักในต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์ในประเทศนั้น ๆ หลังมีการโจมตีโรงพบาบาลในฉนวนกาซา จนเกิดการประท้วงในหลายประเทศว่า มาตรการต่าง ๆ ที่ทางการท้องถิ่นมีรายละเอียดอย่างไร มีการประกาศเตือนการก่อการร้าย การยกระดับความปลอดภัยหรือไม่ และขอให้คนไทย มีเบอร์ติดต่อ หรือช่องทางการติดต่อสถานทูต สถานกงสุลในประเทศนั้น ๆ เพื่อสามารถติดต่อรับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที พร้อมยังแจ้งเตือนประชาชนที่ยังเดินทางไปยังในประเทศพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะกรุงเยรูซาเล็ม เมืองหลวงของอิสราเอล ให้พิจารณางดเว้นการเดินทางไว้ก่อนด้วย เพราะอาจเกิดปัญหาไม่สามารถเดินทางกลับได้

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังชี้แจงย้ำถึงแนวทางการเจรจา เพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันว่า ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทุกระดับ ทั้งระดับผู้นำ รัฐบาล รัฐมนตรี หรือสถานทูต เพื่อเรียกร้อง และยืนยันความปลอดภัยของตัวประกัน และปล่อยตัวผู้ถูกจับทั้งหมด ซึ่งได้รับการยืนยันว่า คนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันทั้งหมด ยังมีความปลอดภัย และทราบว่า ยังไม่มีการสังหารตัวประกัน เพื่อการต่อรองใดๆ แต่ยังไม่ทราบว่า จะมีการปล่อยตัวเมื่อใด และยอมรับว่า ข้อมูลการเจรจาต่างๆ เป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ที่ไม่มีการเปิดเผย แต่ขอให้วางใจได้ว่า ทุกฝ่ายจะดำเนินการอย่างดีที่สุด เพื่อให้คนไทยมีความปลอดภัย และสามารถกลับประเทศได้ และสถานทูตกรุงเทลอาวีฟ ก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย