จี้รัฐบาลแจงแหล่งที่มาเงินดิจิทัลให้ชัดก่อนแจก

รัฐสภา 17 ต.ค.-“สว.เฉลิมชัย”  ชี้นโยบายเงินดิจิทัลสุ่มเสี่ยงขัดรธน. จี้รัฐบาลแจงที่มาของเงินที่จะแจกปชช. เตือนกกต. ผิดกม.สัญญาว่าจะให้ชัด อย่าให้เกิดขึ้นอีกในการเลือกตั้งหน้า    


นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สมาชิกวุฒิสภา(สว.) อภิปรายในรายงานของคณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฎิรูปประเทศ การจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ (ตสร.) โดยอภิปรายด้านการเมือง ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 258 ก (3) ว่า การกำหนดกลไกลที่รับผิดชอบของพรรคการเมือง ในการประกาศโฆษณานโยบายที่กำหนดความรับผิดชอบของการพรรคการเมือง ที่ไม่ได้วิเคราะห์ผลกระทบความคุ้มค่า และความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ซึ่งจากการติดตาม กกต.มีกลไกลอย่างไร เพื่อให้พรรคการเมืองมีความรับผิดชอบต่อการประกาศ  โดยเฉพาะการโฆษณานโยบายแล้วไม่สามารถทำได้ อีกทั้งพบว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมืองประกาศนโยบายประชานิยมแจกเงินประชาชน ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรครวมไทยสร้างชาติ 

“แต่นโยบายที่สร้างความฮือฮาและโดนใจประชาชนมากที่สุด คือ พรรคเพื่อไทย ที่แจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทให้คนอายุ  16 ปีขึ้นไป ในวงเงิน 560,000 ล้านบาท โดยไม่สนใจว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ ทั้งนี้ ถ้าเปิดดูในพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 6 และมาตรา 73 กำหนดไว้ชัดเจนว่าห้ามผู้สมัครหรือผู้ใดจัดทำ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่อาจจะคำนวณเป็นเงินได้ หากฝ่าฝืนโทษจำคุก 1-10  ปี และตัดสิทธิ์การเมือง 20 ปี ดังนั้น การพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีนโยบายนี้ และมีผู้ร้องเรียนไปยัง กกต. แต่ กกต. ตอบกลับมาในทำนองว่าถ้าใช้เงินของรัฐแจกถือว่าไม่ผิด  จึงมองว่าเป็นติดกระดุมเม็ดแรกที่ผิดมหันต์ เพราะกกต.ไม่ได้พิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องมาประกอบ จึงไม่ทราบว่าใช้หลักเกณท์อะไรมาวัดว่าไม่ใช่นโยบายสัญญาว่าจะให้ แจกเงินแล้วไม่ผิด ในอนาคตอาจเกิดปัญหาตามมา มีที่มาของเงินที่มาจากที่ไหน จึงขอแนะนำผู้ร้องให้ไปร้อง ป.ป.ช. เพื่อเอาผิด กกต. จงใจปฏิบัติหน้าที่ใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ นโยบายดิจิทัล 10,000 บาท มีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำผิดขัดรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 และในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล โครงการใดที่ต้องใช้เงินต้องชี้แจงที่มาของรายได้ การใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย แต่ปรากฏว่าไม่ได้มีการชี้แจงแต่อย่างใด ดังนั้น ถือว่าในวันแถลงนโยบายทำผิดมาตรา 62” นายเฉลิมชัย กล่าว


นายเฉลิมชัย กล่าวว่า รัฐบาลก็ให้ข่าวมาโดยตลอด ว่าจะไม่กู้เงินมาใช้ในนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่จะใช้มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.การเงินการคลังที่มอบหมายให้ธนาคารออมสินจ่ายเงินไปก่อนและดำเนินโครงการนี้ แต่เมื่อไปเปิดใน พ.ร.บ.ธนาคารออมสิน พ.ศ.2489 มาตรา 7 ปรากฏว่าโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่ได้อยู่ในหน้าที่อำนาจและขอบเขตของธนาคารออมสิน ส่วนที่นายกรัฐมนตรีกำหนดไมท์ไลน์ว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะเข้าบัญชีประชาชนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 จึงขอถามกลับว่าเอาเงินมาจากไหน เพราะเพิ่งพึ่งจะผ่านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ประมาณเดือนมกราคม กว่าจะประกาศใช้ก็เข้าเดือนเมษายน แสดงว่า ครม.คงจะใช้วิธิการกู้เงินในธนาคารของรัฐหรือธนาคารออมสิน ซึ่งเงินกู้ที่ได้มาต้องเป็นเงินแผ่นดิน “จะใช้วิธีใดต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เคร่งครัด จึงขอเตือนโครงการนี้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมีผู้ร้องเรียนหลายหน่วยงานแล้ว รัฐบาลจะนำเงินงบประมาณมาจากไหน  ทำไมไม่จ่ายเป็นเงินสดเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง และทำไมพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่คิดวิเคราะห์ผลกระทบความคุ้มค่าความเสี่ยง ให้รอบคอบก่อนออกมามาเป็นนโยนบายหาเสียง เพื่อให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ขอฝากไปยัง กกต. ต้องกำหนดกลไกลที่กำหนดความรับผิดชอบของพรรคการเมืองในการประกาศนโยบาย  เพื่อไม่ไห้เกิดความเสียหายในอนาคต โดยเฉพาะโครงการนโยบายดิจิทัล 10,000 บาท เป็นการสัญญาว่าจะให้อย่างเห็นได้ชัด หวังว่ากกต.จะไม่ปล่อยให้นโยบายเช่นนี้ออกมาอีกในการเลือกตั้งครั้งหน้า” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว