fbpx

หลังสอบวินัยคาด “บิ๊กโจ๊ก” ถูกลดบทบาท

รัฐสภา 28 ก.ย.-“พล.ต.ต สุพิศาล” ยินดี “บิ๊กต่อ” นั่งผบ.ตร.ใหม่ ชี้นายกฯ เสนอก็ต้องรับผิดชอบ เชื่อ 3 แคนดิเดตไม่ฟ้อง ไม่มีคลื่นใต้น้ำ ส่วนกรณี “บิ๊กโจ๊ก” ต้องรอผลสอบวินัยให้จบก่อน คาดถูกลดบทบาท อาจถูกย้ายไปจเร


พล.ต.ต สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) มีมติเห็นชอบให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คใหม่ ว่าเมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นคนตัดสินใจเสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรีจองเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ แม้นายกรัฐมนตรีไม่ได้โหวตให้ เพื่อแสดงความเป็นกลาง แต่ถือว่าเป็นการใช้เสียงข้างมากในคณะกรรมการฯ โหวตให้ผ่าน 9:1 

“ผมขอแสดงความยินดีกับผบ.ตร.คนใหม่ด้วยที่ผ่านมติ จะได้ทำงานต่อไป ซึ่งแคนดิเดตทั้ง 4 คน มีคุณสมบัติเหมาะสม เคยผ่านงานป้องกันและปราบปรามมา จะเลือกใครก็ได้ ในหลักของการพิจารณาแล้ว เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้บกพร่องในการพิจารณาเสนอชื่อ แต่ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าเหตุผลที่เลือกมีอะไรบ้าง แต่เสียดายที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบ” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว


พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า จากที่ติดตาม ทราบว่าแยกวงเคลียร์กันก่อนโหวต ซึ่งถือเป็นเทคนิคของประธานในที่ประชุม คงต้องทำความเข้าใจแจ้งหลักการและเหตุผล ทำให้ผ่านออกมา ถือว่าผ่านระบบการคัดสรรอย่างครบถ้วนและคงเป็นเรื่องของการทำงานต่อไป ส่วนผู้ที่มีส่วนได้เสียนั้น ตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม เฉพาะมาตรา 78 และ 87 ที่จะร้องต่อคณะกรรมการคุ้มครองพิทักษ์คุณธรรมเพื่อให้ได้สิทธิ์ดังกล่าว ว่าตัวเองมีสิทธิ์อย่างไร แต่คิดว่าเรื่องดังกล่าว คงกลายเป็นคลื่นสงบไป

“คิดว่าเรื่องการร้องเรียนคงต้องจบลง เพราะแต่ละคนมีวินัย จึงคิดว่าในเรื่องของการร้องเรียนก็คงต้องจบลง เพราะสิ้นสุดด้วยการแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องของการแต่งตั้งระดับล่างลงมา ว่ากฎหมายฉบับนี้เกิดความเป็นธรรมจริงหรือไม่ ซึ่งอยากจะฝากไปยังผบ. ตร.ใหม่ให้กระจายอำนาจการแต่งตั้งให้ครบถ้วน โดยเฉพาะการแต่งตั้งในจังหวัดหรือกองบัญชาการต่าง ๆ ขอให้ทุกหน่วยมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนของตัวเองมาทำงาน จะดีกว่าที่จะถูกสั่งหรือแบ่งปันยอด หรือโควต้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าทำได้ถือเป็นเหตุผลที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์ดังกล่าว จากการที่หน่วยงานของจังหวัดเอง หรือกองบัญชาการเองได้แต่งตั้งคนที่เห็นว่าเหมาะสมมากที่สุด” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่มีรายงานว่าที่ผ่านมาพล.ต.อ.ต่อศักดิ์มีชื่อแคนดิเดตอันดับ1 มาตลอด ในขณะที่มีกรณีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รองผบ.ตร.เกิดขึ้นในช่วงนี้พอดี ดูเหมือนเป็นการเตะตัดขากันหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ใครมีหน้าที่อะไรก็จะบอกคำตอบอย่างชัดเจนว่า ในหน้าที่ที่ผ่านงานมานั้นเกี่ยวกับอะไร ถึงจะมีความเร็วในการขึ้นสู่ตำแหน่งมากที่สุดเท่าที่มีในประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั่นคือสิ่งที่จะเป็นคำตอบชัดเจน


“เห็นนำประวัติพล.ต.อ.ต่อศักดิ์มานำเสนอเยอะแยะไปหมด นั่นก็เป็นคำตอบ ผมคงไม่ตอบว่าอะไร แต่ก็ยินดีด้วยกับท่าน ส่วนอนาคตข้างหน้าท่านจะทำอย่างไร ให้สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คือสังคมที่ตำรวจกำลังว้าวุ่นในขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาของคดีที่เกิดขึ้นกับข้าราชการตำรวจ จะแก้ไขอย่างไร เพื่อไม่ให้ตำรวจ “เน่า” หรือเป็นที่ติฉินนินทาของประชาชนมากมาย คงต้องบังคับใช้กฎหมายให้เป็นธรรม และ มีคุณธรรมมากที่สุด และให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการตำรวจที่มีอยู่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีคลื่นใต้น้ำหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า คิดว่าคลื่นใต้น้ำคงหมดไปแล้ว เพราะขนาดนายกรัฐมนตรียังถูกแรงกระแทก จนต้องออกมติแบบว่า ยอมที่จะทิ้งนาทีสุดท้ายเพื่อให้มีมตินี้ และลงไปเคลียร์ปัญหาด้วยตัวเอง คิดว่าแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีเองก็เลือกผบ.ตร..คนนี้มา คิดว่าแรงกระแทกดังกล่าวคงไม่สะเทือน

เมื่อถามย้ำว่าผบ. ตร.คนใหม่จะสามารถทำงานกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้หรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า หลังจากนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ต้องรอให้พ้นวินัยจากการสอบสวนกรณีที่ถูกกล่าวหาก่อน ซึ่งการสอบสวนคงเสร็จรวดเร็วภายใน 10 วัน เพราะมีก.ตร. 2 คนเข้าไปสอบ ซึ่งจะเป็นผลตามกฎหมาย ทางวินัย ว่าจะสามารถโยกย้ายพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากตำแหน่งนี้หรือไม่ หรือถ้าไม่ได้ก็ต้องดำรงตำแหน่งรองผบ. ตร.ไป แต่อาจจะถูกลดหน้าที่หรือบทบาทลง จากงานประจำคืองานสืบสวนสอบสวนที่ทำอยู่ และอาจจะถูกย้ายไปดูในงานอื่นหรือย้ายข้ามหน่วย เป็นเรื่องของบุญพาวาสนาส่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะโดนย้ายไปอยู่ในส่วนของจเรตำรวจ

ส่วนกรณีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่าหากเปิดข้อมูลบางอย่างออกมาจะตายทั้งสตช. พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มี ซึ่งคิดว่ามีจริง ๆ เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการทำงาน และพบว่า ข้าราชการตำรวจในองค์กร ใครมีบทบาทไปเกี่ยวพันยุ่งเกี่ยวกับทุนสีเทา ยาเสพติด ค้ามนุษย์ หรือแรงงานข้ามชาติต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเห็นภาพนี้เกี่ยวข้องแม้กระทั่งเว็บการพนันที่ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือบัญชีม้าต่าง ๆ เชื่อว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีข้อมูลอยู่ในมือ แต่ไม่ได้ส่งเข้าไปในสำนวนสอบสวน เป็นข้อมูลที่รับผิดชอบสืบสอนสอบสวนในอดีต ก็เหมือนกับที่บอกว่า”อย่ามาเล่นมากนะ มีไม้ตีกลับด้วย ถ้าขุดผม ผมก็ขุดคุณมีแค่นั้นล่ะครับ”.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด