“ชัยธวัช” นำทัพก้าวไกลเดินหน้า 4 ยุทธศาสตร์ 2 ภารกิจ

ดินแดง 24 ก.ย. – “ชัยธวัช” เดินหน้า 4 ยุทธศาสตร์ 2 ภารกิจ นำทัพ “ก้าวไกล” เร่งขยายฐานสมาชิก ทำงานให้เข้มแข็งขึ้น ย้ำการเมืองหลังจากนี้เป็นการต่อสู้ของการเมืองชนชั้นนำการเลือกตั้ง-การเมืองภาคประชาชน บอกปัญหาการเมืองไทยแก้ไม่ได้ เพราะอนุญาตให้มีการรัฐประหาร ไม่ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง มองกลับถ้าโพสต์เฟซบุ๊กแบบที่ผู้มีอำนาจไม่อยากเห็น อาจจะต้องติดคุกเป็นสิบปี หรืออาจถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต


นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวบนเวทีในกิจกรรม “ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ว่า นี่คือประชุมสมาชิกพรรคของพรรคก้าวไกลที่ใหญ่ที่สุดที่ทำมา ซึ่งจะเป็นทิศทางที่สำคัญที่ทำให้พรรคก้าวไกลมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด

วันนี้ตนมายืนแทน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แต่ตนอยากจะประกาศในฐานะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า แม้ว่าหัวหน้าพรรคก้าวไกลจะเปลี่ยนไป แต่ว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลจะไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเป็น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คนเดิม วันนี้ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ จึงอยากพูดถึงเส้นทางทางการเมืองของพรรคและบทใหม่ของการเมืองไทย


มีหลายคนที่บอกว่า มีการเปลี่ยนจากระบอบเผด็จการ สู่ระบอบประชาธิปไตย ตนคิดว่า ก็คงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเราเห็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่เคารพเสียงของประชาชน และปัญหาการเมืองไทย ประการที่ 2 คือ รัฐรวมศูนย์ เป็นระบบปิดกั้นการเมืองไทย เต็มไปด้วยการทุจริต ไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน ซึ่งเรื่องการกระจายอำนาจรัฐบาลนี้ คือ การกระจายอำนาจแบบผู้ว่า CEO และเราเห็นทุนผูกขาดแล้ว รวมถึงปัญหาการเมืองเรื่องนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน ที่กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย ความเสมอภาคต่อกฎหมายไม่มีอยู่จริง ระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มีไว้เพื่อพิทักษ์รักษารับใช้คนบางกลุ่ม ไม่ได้มีเป้าหมายพิทักษ์คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของทุกคน และถ้าต้องการความเป็นธรรมในประเทศนี้ อย่าหาความยุติธรรมแบบสากล แต่จงสยบยอม ยอมรับ ในแบบอภิสิทธิ์ชนของไทย เมื่อยอมรับก้มหัว ท่านจะได้ความกรุณาปรานี

“ซึ่งปัญหาเหล่านี้ของการเมืองไทย เราแก้ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาการเมืองไทยเป็นการเมืองของชนชั้นนำ ที่อนุญาตให้มีการรัฐประหารได้ตลอดเวลา ถ้าเอารถถังมายึดอำนาจ ไม่ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง แต่ถ้าโพสต์เฟซบุ๊กแบบที่ผู้มีอำนาจไม่อยากเห็น ไม่อยากได้ยิน อาจจะต้องติดคุกเป็นสิบปี หรือไม่ก็อาจจะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า การเมืองไทยคือการเมืองที่อนุญาตให้ไปเลือกตั้งได้เป็นพักๆ แต่ไม่ยอมให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาขน แบบนี้ตนขอเรียกว่า ‘ระบอบประชาธิปไตยอันมีประชาชนเป็นไม้ประดับ’ และการเมืองของชนชั้นนำเป็นการเมืองที่อนุญาตให้แข่งขันกันได้ในระบบการเลือกตั้ง เป็นการแข่งขันกันไปมีอำนาจ และผลัดกันไปแบ่งสันปันส่วนในตำแหน่งและเก้าอี้ แต่การเมืองชนชั้นนำไม่ได้แข่งขันไปเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไทยแบบเดิมๆ


“หลายคนอาจจะบอกว่า อย่าคิดอะไรมาก เรามาอาศัยเขาอยู่ ดังนั้น จงเชื่อว่าประชาชนไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง จนกว่าเจ้าของบ้านตัวจริงจะอนุญาต” นายชัยธวัช กล่าว

ดังนั้น สิ่งที่ตนอยากจะบอก คือ การพยายามออกจากการเมืองของชนชั้นนำแบบเดิม กลายเป็นโจทย์สำคัญของยุคสมัยที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไปแล้ว หลังวิกฤติต้มยำกุ้ง มีความพยายามปฏิรูปสังคมไทยครั้งใหญ่ มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การต่อสู้ของชนชั้นนำทางการเมือง 2 กลุ่ม ทำให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ หลายคนล้มตาย หลายคนถูกดำเนินคดี แต่ก็มีอีกสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น ทำให้เกิดสำนึกใหม่ในหมู่ประชาชน ประชาชนจำนวนมากต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และต้องการให้เกิดการปฏิรูปประเทศ นี่จึงเป็นสำนึกใหม่ที่เกิดขึ้นมา และเมื่อต่อสู้กันมาเกือบ 20 ปี ก็กลับมาจับมือกัน และพวกเขาค้นพบอันตรายจากชนชั้นนำ คือ สำนึกใหม่

ทั้งนี้ ภัยคุกคามการเมืองชนชั้นนำ คือ การเมืองของประชาชน ดังนั้น ตนอยากจะบอกว่า ในสถานการณ์ในปัจจุบัน สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านจากเผด็จการประชาธิปไตย แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านของชนชั้นนำแบบจารีตกับชนชั้นนำแบบเลือกตั้ง เปลี่ยนผ่านการต่อสู้เป็นการเมืองของชนชั้นนำแบบการเลือกตั้ง กับการเมืองของประชาชน และนี่คือรากฐานทางการเมืองของรัฐบาลปัจจุบัน จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเมืองไทยบทใหม่นับจากนี้ต่อไป

นายชัยธวัช ยังกล่าวอีกว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล อยากจะบอกว่า เป้าหมายสำคัญของพรรคก้าวไกล คือ เราต้องผลักดัน ต้องเปลี่ยนแปลง สิ่งที่การเมืองของชนชั้นนำบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นสิ่งที่สังคมไทยปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป ภายใต้เป้าหมายนี้ พรรคก้าวไกลจะมียุทธศาสตร์สำคัญ 4 ด้าน มีภารกิจเฉพาะหน้า 2 ภารกิจ คือ สร้างพรรคก้าวไกลให้เข้มแข็ง เป็นสถาบันทางการเมืองจริงๆ ให้ได้ และงานในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น จึงอยากเชิญชวนให้ช่วยกันขยายสมาชิกพรรค ช่วยกันขยายการมีส่วนร่วมของประชาชน และช่วยกันปักธงทางความคิด ทำพรรคก้าวไกลให้พร้อมกันเปลี่ยนแปลงเมื่อช่วงของการเปลี่ยนแปลงมาถึง

ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ ฝ่ายค้านในสภาฯ ที่จะต้องทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร ตนในฐานะหัวหน้าพรรคนใหม่ ให้สัญญาว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารอย่างตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใครอย่างที่เคยพิสูจน์ ดุดันด้วยเนื้อหา

ยุทธศาสตร์ด้านที่ 3 คือ ฝ่ายค้านเชิงรุก เรื่องนี้ตนขออนุญาตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล มาอธิบาย

ยุทธศาสตร์ที่ 4 คือ ตรึงพื้นที่เก่า รุกพื้นที่ใหม่ พื้นที่ไหนประชาชนให้ความไว้วางใจ ก็จะต้องเร่งทำงานเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า เราทำงานไม่เหมือนใคร สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างไร นี่คือสิ่งที่ต้องช่วยกันทำ ส่วนพื้นที่ไหนที่ยังไม่ชนะการเลือกตั้ง ก็ขอเชิญชวนให้ทำพรรคให้เข้มแข็งขึ้น และช่วยกันเฟ้นหาสภาผู้แทนราษฎรของทุกคน

โดยหลังจากนี้ พรรคก้าวไกลจะสร้างกลไกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสรรหา ท้องถิ่นทุกระดับ เป้าหมายไม่ใช่การสร้างหัวคะแนนในการเลือกตั้งใหญ่ แต่ต้องการผลักดันการกระจายอำนาจในการรวมศูนย์

และภารกิจสุดท้าย คือ ร่วมกันผลักดันให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชน จึงอยากให้ช่วยกันรณรงค์เรียกร้องทำประชามติว่าต้องการให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับหรือไม่ และ ส.ส.ร. ต้องมาจากประชาชนทั้งหมด

นายชัยธวัช ยังกล่าวอีกว่า ที่ตนพูดมาทั้งหมด ตนทราบดีว่า หลายคนเสียใจ หลายคนสิ้นหวัง หลายคนเสียน้ำตา เพราะพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมา แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ตนอยากจะบอกว่า นับจากนี้ขอให้เอาน้ำตา เอาความเสียใจไว้ข้างหลัง และไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจอีกต่อไป วันนี้พวกเราช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงมากขนาดไหน ดังนั้นจึงต้องจับมือสร้างความเปลี่ยนแปลง บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน”​ เข้า ก.มหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ

ก.มหาดไทย 26 ก.ย.-“อนุทิน”​ เข้ากระทรวงมหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ บอก​พักร้อนไป 2 เดือน มีความพยายามใช้อำนาจการเมืองโยกย้ายข้าราชการ ย้ำ​ถ้าวันนั้นไม่จากไป​ คงไม่มีวันนี้ที่กลับมา​ ขอ​ยึดหลักซื่อสัตย์-สุจริต ไม่เกรงกลัวอำนาจใด พร้อมรักษาความสัมพั​นธ์ ​สนับสนุนงานกัน​ ก่อนทิ้งท้ายเนื้อเพลง​ “บอกที่แล้วก็แล้วไป” เมื่อเวลา 14.50 น. นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย​ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายศักดิ์ดา​ วิเชียรศิลป์​ และนางสาวศศิธร​ กิตติธรกุล​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ากระทรวงมหาดไทยวันแรก หลังเปลี่ยนรัฐบาลนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ​ เพื่อมอบนโยบาย​ โดยมีนายอรรถษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ ​นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า​ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้เรารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้​ และตั้งใจไว้ว่าจะทำงานสนองพระเดช​ พระคุณอย่างสุดความสามารถร่วมกับพวกท่าน เหนือสิ่งอื่นใดตนมีความยินดี​ ดีใจที่ได้กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งในกระทรวงมหาดไทยแห่งนี้ “ในขณะที่ตนพักร้อนไป 2 เดือนกว่า ได้ทราบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการ […]

เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล-สน.สามเสน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน คาดวันนี้ต้องเทอีกประมาณ 200 คันรถโม่ปูน จึงจะได้ความสูงของปูนในหลุมตามแผนที่วางไว้ .-สำนักข่าวไทย

จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]