รัฐสภา 20 ก.ย.-“อมรัตน์” รับสุดทนถูกโจมตีเสียหาย ตกเป็นเหยื่อมายาวนาน ยันไม่ได้คุกคาม ทำอย่างมีสติ พร้อมรับผลที่ตามมา
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าว่าหาว่า คุกคามผู้อื่นจากการเดินทางไปที่ทำงานและบ้านพักของผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ปีใหม่ ปีใหม่” ว่า ทำไปเพราะตกเป็นเหยื่อ ขออภัยที่ทำให้สังคมในโลกโซเชียล เกิดความรู้สึกในทางลบ ยินดีน้อมรับบทลงโทษต่างๆ ที่จะตามมาทั้งทางสังคมและกฎหมาย และส่วนตัวตัวจะดำเนินการทางกฎหมายด้วยเช่นกัน
“ขอบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากความเหลืออดจากการเป็นผู้ถูกกระทำตลอดมาต่อเนื่องยาวนาน บุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อจริง ใช้พื้นที่ในสังคมโซเชียลปั่นกระแสข่าวเท็จ ข่าวปลอม ด่าทอ โจมตีคนอื่น ใส่ร้ายป้ายสีอย่างไม่มีเหตุผล จุดที่ตนรู้สึกทนไม่ไหว คือการนำภาพไปตัดต่อในทางเสียๆ หายๆ เช่น นำภาพไปตัดต่อกับรูป “กำนันนก” ทั้งหมดถือว่าเป็นความผิดฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” นางอมรัตน์ กล่าว
นางอมรัตน์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นเหยื่อต่อเนื่องมายาวนาน ก็มีความรู้สึก และพอตนได้ทราบว่าบุคคลนี้น่าจะทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ก็ได้เช็กไปทางที่ทำงานว่าเป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้จริงหรือไม่ ซึ่งผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็ขอหลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
“พอดีทางผ่านของบริษัท อยู่บนเส้นทางกลับบ้าน จึงแวะและติดต่อแลกบัตรเข้าบริษัทอย่างถูกต้องโดยได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้บริหารของบริษัท และได้มีการพูดคุย และยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับพนักงานของบริษัทและได้มีการทำโทษตักเตือนไปแล้ว ตนได้ทราบ ก็สบายใจ คิดว่าไม่ใช่การข่มขู่คุกคามอะไร เพราะมีการติดต่อไปอย่างถูกต้องและได้รับการต้อนรับ อย่างดีเรื่องก็จบแค่นั้น” นางอมรัตน์ กล่าว
นางอมรัตน์ กล่าวว่า ส่วนการที่ตนโพสต์ลงโซเชียล คิดว่านอกจากมาตรการทางกฏหมายแล้ว ควรมีมาตรการทางสังคมด้วย เพราะเป็นบุคคลที่ไม่มีตัวตน สร้างความเสียหายให้สังคม และกระทบกับคนจำนวนมาก ซึ่งหลายคนก็ไม่มีปัญญาฟ้องหมิ่นประมาท
ทั้งนี้ ในส่วนของตน ถ้ามีส่วนไหนที่จะผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ก็ยินดีที่จะต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ขอชี้แจงว่า การเปิดเผยข้อมูลนั้นอยู่ในกรอบที่คิดว่า ไม่เข้าข่ายกฎหมาย PDPA เพราะไม่ได้บอกชื่อจริง นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน ทะเบียนรถ บ้านเลขที่ ที่อยู่ อันนี้ขอให้ไปว่ากันในชั้นศาล ย้ำตนคือเหยื่อผู้ถูกกระทำ ต้องปกป้องตัวเอง หลังจากนี้สังคมจะตัดสินอย่างไร ตนยินดีน้อมรับ
นางอมรัตน์ ยังกล่าวย้ำว่า ตนไม่ใช่เหยื่อเพียงคนเดียว จึงต้องปกป้องตัวเองและเหยื่อคนอื่นๆ ด้วย เพราะบัญชีนี้มีการกระทำในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน แต่หากวิธีการผิดไป ตนก็ขออภัย และพร้อมรับผิดชอบ ซึ่งตนมีประสบการณ์ถูกคุกคามมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ตนได้ติดต่อไปทางบริษัท เขาอย่างถูกต้องและไม่ได้ใช้คำพูด การกระทำที่เป็นการคุกคาม หรือใช้อำนาจกดดันอะไร
ส่วนที่รองประธานสภาฯ ระบุว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และอาจจะมีการพิจารณาปลดจากตำแหน่งที่ปรึกษารองประธานสภาฯ นางอมรัตน์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เจอกัน ออกหรือไม่ออก อยู่ที่คนแต่งตั้ง แต่หากจะให้ออก ก็ไม่ติดอะไร เพราะอยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานได้ทั้งนั้น
เมื่อถามว่า ได้มีการคุยกับทางพรรคก้าวไกลบ้างหรือไม่ว่าขัดกับจริยธรรมหรือไม่ นางอมรัตน์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย เพราะเรื่องเพิ่งเกิดเมื่อวาน ไม่มีปัญหาในการให้ตรวจสอบ ยืนยันทำไปด้วยสติ และสิ่งที่ทำก็คิดว่าคุ้มค่า ในการเอาคนที่อยู่ในเงามืด มาส่องแสงให้คนได้เห็น ทำหน้าที่เป็นไฟฉาย ให้ได้เห็นว่าใครเป็นใคร จะได้ป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำในแบบเดิมอีก.-สำนักข่าวไทย