ศาล รธน.ตีตกคำร้อง “เนตร นาคสุข” ขอความเป็นธรรม

ศาลรัฐธรรมนูญ 12 ก.ย. – ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง “เนตร นาคสุข” ขอความเป็นธรรม ถูกชี้ผิดอาญา-วินัยร้ายแรง กรณีไม่สั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา”


วันนี้ (12 ก.ย.66) เว็บไซต์สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เผยแพร่คำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ในคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 โดยขอให้เพิกถอนรายงานผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563 และเพิกถอนกระบวนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

ซึ่งศาลฯ เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏว่าการกระทำของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ และ ป.ป.ช. เป็นการใช้อำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่หากมีผลกระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของตน นายเนตร สามารถใช้สิทธิในกระบวนการยุติธรรมต่อศาลอื่นได้ เป็นกรณีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้กำหนดกระบวนการร้อง หรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 47 (2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้น นายเนตร จึงไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นที่นายเนตร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 มีทั้งสิ้น 6 ประเด็น 1. การพิจารณาสั่งคดีของนายเนตร ในคดีจราจรที่ 632/255 เป็นความเห็นและการพิจารณาสั่งคดีโดยชอบด้วยกฎหมาย 2. ความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของนายเนตร ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 มาตรา 26 มาตรา 213 และมาตรา 248 3. การกระทำของ ป.ป.ช. ที่ไต่สวนข้อเท็จจริงและแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายเนตร ว่าการกระทำของนายเนตร มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรงซ้ำอีก เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 และมาตรา 213

4. การกระทำของ ป.ป.ช. ที่ไต่สวนข้อเท็จจริงและแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายเนตร ว่าการกระทำของนายเนตร มีมูลความผิดทางอาญา เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 มาตรา 26 มาตรา 213 และมาตรา 248 5. ให้เพิกถอนรายงานผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ดังกล่าวทั้งหมด และ 6. ให้เพิกถอนกระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.ทั้งหมด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-อากาศร้อนในตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง