“เศรษฐา” ชี้จำต้องกลืนเลือด เพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว

พรรคเพื่อไทย 21 ส.ค.- “เศรษฐา” โชว์สปีด วงประชุม สส.เพื่อไทย หลังถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ พรุ่งนี้ ชี้ การเมืองต้องอยู่กับความเป็นจริง เพื่อไทยไม่ได้แลนด์สไลด์ มีความเป็นจำต้องกลืนเลือด ลืมวาทกรรม 2 ลุง-มีลุง ไม่มีเรา เพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ยอมรับ “เจ็บ” ถูกโซเชียลด้อยค่าเพื่อไทย แต่สังคมเป็นจริงประชาชนรอรัฐบาลอยู่ เสียดาย “ณัฐวุฒิ-ทัศนีย์-ปกป้อง” ลาออกเพื่อไทย เพื่อรักษาอุดมการณ์ ด้าน“แพทองธาร” เปรย ของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดคือการกลับประเทศของพ่อ ให้กำลังใจ สส. สู้ไปข้างหน้าพร้อมกัน เผย ใครไปรอรับ “ทักษิณ” พรุ่งนี้คงไม่ได้พบเพราะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทันที


การประชุม สส. พรรคเพื่อไทยวันนี้ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ รวมเสียงได้ 11 พรรค 314 เสียง ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้ที่นั่งทั้งหมด 17 ตำแหน่ง บวกตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยแบ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ 8 ตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วย รวมกลับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 9 ตำแหน่ง ซึ่งวันพรุ่งนี้ที่ประชุมรัฐสภา จะมีวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเพียงสาระเดียวเท่านั้น จึงกำชับให้ สส. ของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดไปประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ตั้งแต่ 9.30 น. และบุคคลที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา คือ นายเศรษฐา ทวีสิน โดยตนเองจะเป็นผู้เสนอต่อที่ประชุม

จากนั้นนายเศรษฐา ได้ขึ้นเปิดใจ และแสดงความรู้สึกกับ สส. ก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเองรู้สึกภาคภูมิใจที่เข้ามาสู่การเมือง ภายใต้การเชิญของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เดินเข้ามาคนเดียว ได้รับการต้อนรับจากทุกคนอย่างอบอุ่น ได้รับการช่วยเหลือจากทุกคน พร้อมขอบคุณ สส. โดนตั้งแต่วันแรกเข้ามามีความประหม่า ไม่แน่ใจ มีกังวลอยู่มากมาย แต่มีคนมาช่วยติว มาให้คำแนะนำหลายคน 1 ในนั้นที่รู้สึกซึ้งใจ ประทับใจ คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รวมถึง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็มีส่วนช่วยให้ขึ้นปราศรัยหาเสียงได้ วันนี้ผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจน เราได้ 141 เสียง ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง สิ่งที่พูดไประหว่างการเลือกตั้ง ชัดเจนว่า “คำพูดเป็นนาย อยู่บนบรรทัดฐานที่ต้องได้แลนด์สไลด์ ซึ่งเมื่อวานนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกคนของพรรคเพื่อไทย ที่ได้พูดไปเกี่ยวกับเราต้องกลืนเลือด เรื่องที่เราต้องพาพรรคเพื่อไทยเดินไปข้างหน้า เรื่องที่ช่วยเหลือประชาชน มันไม่เป็นการโกหกประชาชน แต่เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับความจริง ที่ 9 ปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่ได้ถืออำนาจรัฐในมือ เพราะเป็นฝ่ายค้าน วันนี้เป็นที่ประจักษ์ดีว่า ประชาชน มาตรฐานความเป็นอยู่ได้ตกต่ำลงไป”


นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า วันนี้เรามีความจำเป็นต้องลืมวาทกรรมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 2 ลุง หรือ มีลุง ไม่มีเรา หรืออะไรก็ตาม วันนี้คณิตศาสตร์พื้นฐานชัดเจนว่าเราต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ที่ผ่านมาตนเองได้พบปะสมาชิก และ สส. ของพรรคหลายคน ได้รับทราบถึงความต้องการ ความไม่ต้องการ และได้อธิบายด้วยใจจริง ไม่มีการเสแสร้งถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องที่มีความจำเป็นในพรรค ที่เราต้องจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยโดยเร็วที่สุด

นายเศรษฐา ยังกล่าวเรื่องที่ใช้วาทกรรม การใช้โซเชียลมีเดียด้อยค่าพรรคเพื่อไทย “ส่วนตัวผมเองก็เจ็บ เจ็บพอกับพวกท่านทุกคน แต่เราอยู่ในสังคมของความเป็นจริง ยังมีเกษตรกรอีกนับ 10 ล้านคน ที่คอยการจัดตั้งรัฐบาล คอยนโยบายที่ดีของพรรคเพื่อไทย ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต การเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร 3 เท่าภายใน 4 ปี สิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีรัฐบาลภายใต้แกนนำนของพรรคเพื่อไทย“ หลังที่นายเศรษฐา พูดประโยคนี้จบ ก็ได้รับเสียงปรบมือจาก สส.

นายเศรษฐา ยังระบุว่า วันนี้ต้องขอให้ทุกคนอยู่กับความเป็นจริง ต้องกราบขอร้องขอให้ สส. ทุกคน เมื่อลงพื้นที่ให้อธิบายกับประชาชนในพื้นที่ถึงความจำเป็นความมุ่งมั่น ความจริงใจ ว่า พวกเราทุกคนตั้งใจจะทำให้เดินไปข้างหน้าให้ได้ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด


นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ ที่รัฐสภาอันทรงเกียรติจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ตนเองรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายจากทุกคน โดยจะพยายามเต็มที่สุดความสามารถ ที่จะนำรัฐบาลของประชาชนภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย แก้ไขทุกปัญหาด้วยความตั้งใจจริง ไม่ลืมความเหน็ดเหนื่อย ไม่ลืมพรรคพวกเพื่อนฝูงไม่ว่าจะเป็นนายณัฐวุฒิ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายปกป้อง ชานันท์ ที่จำใจต้องเดินออกจากพรรคเพื่อไทยไป ด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า ด้วยความปรารถนาดีจากพรรคเพื่อไทย ไม่ทรยศต่อมิตรภาพที่เรามีอยู่ ไม่มีการคว้างหินกลับมาใส่บ้านที่เคยอยู่ แต่เป็นความจำเป็นของพวกเขาที่มีจุดยืน โดยเชื่อว่าทั้ง 3 คน และอีกหลายคน ความเข้าใจถึงความจำเป็นที่พวกเราต้องเดินไปทางนี้ ต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่หวังว่าหากได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา จะนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ จะทำให้ทั้ง 3 คน ในช่วงที่นายเศรษฐาพูดประโยคนี้ นายเศรษฐานิ่งและก้มหน้าจากไมค์เล็กน้อย ก่อนพูดต่อว่า มีความภาคภูมิใจในการอยู่พรรคเพื่อไทย และทันทีที่นายเศรษฐาพูดจบ แกนนำ และ สส. ได้ลุกขึ้นปรบมือให้กับนายเศรษฐา

จากนั้น นางสาวแพทองธาร ได้กล่าวว่า ขอส่งกำลังใจให้ทุกคนวันนี้เป็นวันเกิดของตนเอง รู้สึกมีความสุข ที่มาอยู่ที่นี่ ได้ฉลองวันเกิด ได้เห็นทุกคนที่อยู่ที่นี่ ที่นี่เหมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของตนเอง เพราะเวลาที่ปัญหา หรือมีเรื่องที่ไม่สบายใจ แล้วเราถูกห้อมล้อมด้วยคนที่รัก และเข้าใจเรา นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด พร้อมอยากให้ทุกคนมั่นใจ ว่า บ้านหลังนี้ยังเป็นบ้านของทุกคน เป็นบ้านที่เข้าใจซึ่งกันและกัน ยอมรับในสิ่งที่บางทีเห็นต่างบ้าง เห็นเหมือนบ้าง แต่เมื่อกลับมาแล้วจะคุยกันด้วยความเข้าใจ และจากก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกันอย่างเข้มแข็ง พร้อมขอบคุณผู้ใหญ่ที่ทำงานอย่างหนักตลอดมา รับกระแสกดดันอย่างมากมาย จึงขอให้กำลังใจอย่างใจจริง พร้อมขอบคุณ สส. ทุกคนที่ลงพื้นที่อธิบายความตั้งใจของตนเอง ของพรรค ให้ประชาชนได้เข้าใจว่า ประเทศเราต้องไปต่อ และพรรคเพื่อไทยจะทำให้ชีวิตของพวกเขากลับมากินดีอยู่ดีอีกครั้ง

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า จะไม่พูดถึงวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) คงไม่ได้ เพราะทุกคนคงรอฟังอยู่ และวันนี้เป็นวันเกิดของตนเอง มีความแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือ ตื่นมาแล้วลืมไปว่าเป็นวันเกิดตัวเอง เพราะวันพรุ่งนี้ช่างเป็นของขวัญที่ดีที่สุด ก่อนจะถามว่า มีใครอยากไปรับนายทักษิณ แต่เข้าใจว่า ทุกคนจะทำตามหน้าที่ของตนเอง และเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใจไปให้ เพราะถือเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนรัก ส่วนคนที่จะไปรออาจจะไม่ได้พูดคุย และจะไม่ได้เจอเป็นการส่วนตัว เพราะเมื่อเดินทางมาถึงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อ พร้อมขอให้ทุกคนทำหน้าที่ในสภาให้เต็มที่ และตนเองจะคอยอัพเดท เพราะรู้ว่าทุกคนเป็นห่วง และส่งกำลังใจให้ครอบครัวตนเอง ขอสัญญาว่าจะไม่ใทำให้ทุกคนกังวลใจ พร้อมขอบคุณทุกคนที่อดทนมาร่วมกันมาถึงทุกวันนี้ และขอให้ถึงหน้าต่อ มีกำลังใจเต็มเปี่ยม สู้ด้วยกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และไปข้างหน้าพร้อมพร้อมกัน

ช่วงท้ายนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทน แต่งกลอนและอ่านกลอนอวยพรวันเกิดนางสาวแพทองธาร ว่า เหมือนสายธารสามัคคีพรรคเพื่อไทย แพทองธารสดใสสโมสร คล้ายวันเกิดคุณอุ๊งอิ๊งออนซอน มิสั่นคลอนความรักตลอดไป พร้อมกันนี้ นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ สส. แพร่ เป็นตัวแทนมอบภาพวาดเหมือนให้นางสาวแพทองธาร .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”