“เศรษฐา” ชี้จำต้องกลืนเลือด เพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว

พรรคเพื่อไทย 21 ส.ค.- “เศรษฐา” โชว์สปีด วงประชุม สส.เพื่อไทย หลังถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ พรุ่งนี้ ชี้ การเมืองต้องอยู่กับความเป็นจริง เพื่อไทยไม่ได้แลนด์สไลด์ มีความเป็นจำต้องกลืนเลือด ลืมวาทกรรม 2 ลุง-มีลุง ไม่มีเรา เพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ยอมรับ “เจ็บ” ถูกโซเชียลด้อยค่าเพื่อไทย แต่สังคมเป็นจริงประชาชนรอรัฐบาลอยู่ เสียดาย “ณัฐวุฒิ-ทัศนีย์-ปกป้อง” ลาออกเพื่อไทย เพื่อรักษาอุดมการณ์ ด้าน“แพทองธาร” เปรย ของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดคือการกลับประเทศของพ่อ ให้กำลังใจ สส. สู้ไปข้างหน้าพร้อมกัน เผย ใครไปรอรับ “ทักษิณ” พรุ่งนี้คงไม่ได้พบเพราะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทันที


การประชุม สส. พรรคเพื่อไทยวันนี้ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ รวมเสียงได้ 11 พรรค 314 เสียง ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้ที่นั่งทั้งหมด 17 ตำแหน่ง บวกตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยแบ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ 8 ตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วย รวมกลับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 9 ตำแหน่ง ซึ่งวันพรุ่งนี้ที่ประชุมรัฐสภา จะมีวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเพียงสาระเดียวเท่านั้น จึงกำชับให้ สส. ของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดไปประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ตั้งแต่ 9.30 น. และบุคคลที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา คือ นายเศรษฐา ทวีสิน โดยตนเองจะเป็นผู้เสนอต่อที่ประชุม

จากนั้นนายเศรษฐา ได้ขึ้นเปิดใจ และแสดงความรู้สึกกับ สส. ก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเองรู้สึกภาคภูมิใจที่เข้ามาสู่การเมือง ภายใต้การเชิญของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เดินเข้ามาคนเดียว ได้รับการต้อนรับจากทุกคนอย่างอบอุ่น ได้รับการช่วยเหลือจากทุกคน พร้อมขอบคุณ สส. โดนตั้งแต่วันแรกเข้ามามีความประหม่า ไม่แน่ใจ มีกังวลอยู่มากมาย แต่มีคนมาช่วยติว มาให้คำแนะนำหลายคน 1 ในนั้นที่รู้สึกซึ้งใจ ประทับใจ คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รวมถึง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็มีส่วนช่วยให้ขึ้นปราศรัยหาเสียงได้ วันนี้ผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจน เราได้ 141 เสียง ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง สิ่งที่พูดไประหว่างการเลือกตั้ง ชัดเจนว่า “คำพูดเป็นนาย อยู่บนบรรทัดฐานที่ต้องได้แลนด์สไลด์ ซึ่งเมื่อวานนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกคนของพรรคเพื่อไทย ที่ได้พูดไปเกี่ยวกับเราต้องกลืนเลือด เรื่องที่เราต้องพาพรรคเพื่อไทยเดินไปข้างหน้า เรื่องที่ช่วยเหลือประชาชน มันไม่เป็นการโกหกประชาชน แต่เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับความจริง ที่ 9 ปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่ได้ถืออำนาจรัฐในมือ เพราะเป็นฝ่ายค้าน วันนี้เป็นที่ประจักษ์ดีว่า ประชาชน มาตรฐานความเป็นอยู่ได้ตกต่ำลงไป”


นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า วันนี้เรามีความจำเป็นต้องลืมวาทกรรมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 2 ลุง หรือ มีลุง ไม่มีเรา หรืออะไรก็ตาม วันนี้คณิตศาสตร์พื้นฐานชัดเจนว่าเราต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ที่ผ่านมาตนเองได้พบปะสมาชิก และ สส. ของพรรคหลายคน ได้รับทราบถึงความต้องการ ความไม่ต้องการ และได้อธิบายด้วยใจจริง ไม่มีการเสแสร้งถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องที่มีความจำเป็นในพรรค ที่เราต้องจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยโดยเร็วที่สุด

นายเศรษฐา ยังกล่าวเรื่องที่ใช้วาทกรรม การใช้โซเชียลมีเดียด้อยค่าพรรคเพื่อไทย “ส่วนตัวผมเองก็เจ็บ เจ็บพอกับพวกท่านทุกคน แต่เราอยู่ในสังคมของความเป็นจริง ยังมีเกษตรกรอีกนับ 10 ล้านคน ที่คอยการจัดตั้งรัฐบาล คอยนโยบายที่ดีของพรรคเพื่อไทย ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต การเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร 3 เท่าภายใน 4 ปี สิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีรัฐบาลภายใต้แกนนำนของพรรคเพื่อไทย“ หลังที่นายเศรษฐา พูดประโยคนี้จบ ก็ได้รับเสียงปรบมือจาก สส.

นายเศรษฐา ยังระบุว่า วันนี้ต้องขอให้ทุกคนอยู่กับความเป็นจริง ต้องกราบขอร้องขอให้ สส. ทุกคน เมื่อลงพื้นที่ให้อธิบายกับประชาชนในพื้นที่ถึงความจำเป็นความมุ่งมั่น ความจริงใจ ว่า พวกเราทุกคนตั้งใจจะทำให้เดินไปข้างหน้าให้ได้ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด


นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ ที่รัฐสภาอันทรงเกียรติจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ตนเองรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายจากทุกคน โดยจะพยายามเต็มที่สุดความสามารถ ที่จะนำรัฐบาลของประชาชนภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย แก้ไขทุกปัญหาด้วยความตั้งใจจริง ไม่ลืมความเหน็ดเหนื่อย ไม่ลืมพรรคพวกเพื่อนฝูงไม่ว่าจะเป็นนายณัฐวุฒิ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายปกป้อง ชานันท์ ที่จำใจต้องเดินออกจากพรรคเพื่อไทยไป ด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า ด้วยความปรารถนาดีจากพรรคเพื่อไทย ไม่ทรยศต่อมิตรภาพที่เรามีอยู่ ไม่มีการคว้างหินกลับมาใส่บ้านที่เคยอยู่ แต่เป็นความจำเป็นของพวกเขาที่มีจุดยืน โดยเชื่อว่าทั้ง 3 คน และอีกหลายคน ความเข้าใจถึงความจำเป็นที่พวกเราต้องเดินไปทางนี้ ต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่หวังว่าหากได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา จะนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ จะทำให้ทั้ง 3 คน ในช่วงที่นายเศรษฐาพูดประโยคนี้ นายเศรษฐานิ่งและก้มหน้าจากไมค์เล็กน้อย ก่อนพูดต่อว่า มีความภาคภูมิใจในการอยู่พรรคเพื่อไทย และทันทีที่นายเศรษฐาพูดจบ แกนนำ และ สส. ได้ลุกขึ้นปรบมือให้กับนายเศรษฐา

จากนั้น นางสาวแพทองธาร ได้กล่าวว่า ขอส่งกำลังใจให้ทุกคนวันนี้เป็นวันเกิดของตนเอง รู้สึกมีความสุข ที่มาอยู่ที่นี่ ได้ฉลองวันเกิด ได้เห็นทุกคนที่อยู่ที่นี่ ที่นี่เหมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของตนเอง เพราะเวลาที่ปัญหา หรือมีเรื่องที่ไม่สบายใจ แล้วเราถูกห้อมล้อมด้วยคนที่รัก และเข้าใจเรา นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด พร้อมอยากให้ทุกคนมั่นใจ ว่า บ้านหลังนี้ยังเป็นบ้านของทุกคน เป็นบ้านที่เข้าใจซึ่งกันและกัน ยอมรับในสิ่งที่บางทีเห็นต่างบ้าง เห็นเหมือนบ้าง แต่เมื่อกลับมาแล้วจะคุยกันด้วยความเข้าใจ และจากก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกันอย่างเข้มแข็ง พร้อมขอบคุณผู้ใหญ่ที่ทำงานอย่างหนักตลอดมา รับกระแสกดดันอย่างมากมาย จึงขอให้กำลังใจอย่างใจจริง พร้อมขอบคุณ สส. ทุกคนที่ลงพื้นที่อธิบายความตั้งใจของตนเอง ของพรรค ให้ประชาชนได้เข้าใจว่า ประเทศเราต้องไปต่อ และพรรคเพื่อไทยจะทำให้ชีวิตของพวกเขากลับมากินดีอยู่ดีอีกครั้ง

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า จะไม่พูดถึงวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) คงไม่ได้ เพราะทุกคนคงรอฟังอยู่ และวันนี้เป็นวันเกิดของตนเอง มีความแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือ ตื่นมาแล้วลืมไปว่าเป็นวันเกิดตัวเอง เพราะวันพรุ่งนี้ช่างเป็นของขวัญที่ดีที่สุด ก่อนจะถามว่า มีใครอยากไปรับนายทักษิณ แต่เข้าใจว่า ทุกคนจะทำตามหน้าที่ของตนเอง และเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใจไปให้ เพราะถือเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนรัก ส่วนคนที่จะไปรออาจจะไม่ได้พูดคุย และจะไม่ได้เจอเป็นการส่วนตัว เพราะเมื่อเดินทางมาถึงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อ พร้อมขอให้ทุกคนทำหน้าที่ในสภาให้เต็มที่ และตนเองจะคอยอัพเดท เพราะรู้ว่าทุกคนเป็นห่วง และส่งกำลังใจให้ครอบครัวตนเอง ขอสัญญาว่าจะไม่ใทำให้ทุกคนกังวลใจ พร้อมขอบคุณทุกคนที่อดทนมาร่วมกันมาถึงทุกวันนี้ และขอให้ถึงหน้าต่อ มีกำลังใจเต็มเปี่ยม สู้ด้วยกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และไปข้างหน้าพร้อมพร้อมกัน

ช่วงท้ายนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทน แต่งกลอนและอ่านกลอนอวยพรวันเกิดนางสาวแพทองธาร ว่า เหมือนสายธารสามัคคีพรรคเพื่อไทย แพทองธารสดใสสโมสร คล้ายวันเกิดคุณอุ๊งอิ๊งออนซอน มิสั่นคลอนความรักตลอดไป พร้อมกันนี้ นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ สส. แพร่ เป็นตัวแทนมอบภาพวาดเหมือนให้นางสาวแพทองธาร .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]