พรรคก้าวไกล 20 ส.ค. – “วิโรจน์” บอกการจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้อาการ “โคม่า” คาดเดาวันโหวตนายกฯ ยาก จะรอดก็ได้ จะตายก็ได้ รับเห็นใจ “เศรษฐา” ถูกขุดคุณสมบัติยับ ยัน “ทักษิณ” กลับบ้านไม่เกี่ยวการเมือง แต่เป็นเรื่องความชอบธรรม ย้ำอะไรที่มั่นใจก็เคยถูกหลอกมานักต่อนักแล้ว
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในการโหวตนายกรัฐมนตรีว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังชุลมุนอยู่ ถ้าเราสังเกตกันก็มีพรรครวมไทยสร้างชาติออกมาประกาศว่ายินดีร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แต่สังเกตหรือไม่ พรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่มีแถลงการณ์ใดๆ อย่างเป็นทางการ ดังนั้น สะท้อนว่าการคุยกันเรื่องแบบนี้ ทุกคนทราบดีว่าเป็นการคุยในวงประชุมปิดอยู่แล้ว และขอร้องกันว่าอย่าเพิ่งพูดให้แกนนำเป็นคนแถลงอย่างเป็นทางการก่อน แต่แค่นี้ยังควบคุมกันไม่ได้เลย
“สะท้อนถึงอำนาจการต่อรองที่ค่อนข้างเบาบางหรือมีความจำกัดของพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่เหมือนกัน ก็คิดเช่นนั้นได้ ดังนั้น สถานการณ์ยังมีความชุลมุน ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่ขอร้องกันว่าอย่าเพิ่งพูดก่อนนะ ยังทำไม่ได้” นายวิโรจน์ กล่าว
ส่วนในวันที่ 22 ส.ค.นี้ จะได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันเป็นรายชั่วโมง วันนี้แสดงว่าการเจรจาน่าจะยังอยู่ในลักษณะสับสนอลหม่านกันอยู่ มีการโยนหินถามทางกันไป
เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่าจะรอดหรือไม่ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ นายวิโรจน์ ร้องโห พร้อมกล่าวว่า รอดไม่รอดยังไม่รู้ แต่สถานการณ์ตอนนี้คือโคม่า
“จะรอดก็อาจจะรอด จะตายก็อาจจะตาย มันตอบไม่ได้ ตอนนี้ไม่มีหมอดูคนไหนกล้าแทงว่าแม่นหรอกครับ ไม่ได้หมายความว่าตาย หมายความว่าอาจจะรอดก็ได้ หรืออาจจะตายก็ได้ คาดการณ์ได้ยากมาก” นายวิโรจน์ กล่าว
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ถูกโจมตีเรื่องคุณสมบัติต่อเนื่อง น่าจะเป็นปัญหาที่ทำให้โหวตไม่ได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนเห็นใจนายเศรษฐาอย่างมาก เพราะเรารู้ว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมจะหาเรื่องในการทำลายแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเป็นของคนที่กลุ่มอำนาจนิยม อำนาจเก่า ศักดินาทหารต้องการ ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายเศรษฐา เอาเป็นว่าหากนายเศรษฐาเคลียร์ประเด็นนี้ได้ ก็จะเจอประเด็นที่ 2-3 ตามมา ตนคิดว่า ต้องให้กำลังใจนายเศรษฐา
เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับไทยวันเดียวกันกับวันโหวตนายกรัฐมนตรี เป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องสู้ให้ได้ใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า ไม่เกี่ยวกัน ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าการกลับมาของนายทักษิณเป็นสิ่งที่ชอบธรรมและควรจะกลับมาได้ ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ามองว่าเป็นคนละเรื่องกันเลย ในทางการเมืองใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า หลายคนมองว่าเกี่ยวข้องกัน ก็เป็นการส่งสัญญาณเหมือนว่าต้องเอาให้ได้ แต่สำหรับตน อะไรที่แน่ก็ไม่เคยแน่ อะไรที่มั่นใจก็เคยถูกหลอกมานักต่อนักแล้ว เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าจะทำให้ได้ แต่จะได้จริงหรือไม่ ที่ผ่านมาถ้าได้จริง ก็คงไม่ถูกหลอกถูกลวงกันมา
ทั้งนี้ ตนไม่สามารถตอบได้ว่านายทักษิณจะกลับมาจริงหรือไม่ เนื่องจากต้องยอมรับว่าสถานการณ์ตอนนี้ชุลมุน วันนี้สถานการณ์ดินฟ้าอากาศอาจจะกลับได้ แต่อีก 2-3 วัน อาจจะกลับไม่ได้ พูดยาก ต้องดูกันวันต่อวัน อาจจะต้องลุ้นกันจนถึงคืนวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งเป็นคืนพญาหมาหอน
ทั้งนี้ ยังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะดันนายเศรษฐาเป็นแคนดิเดตหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถตอบแทนได้ ส่วนควรจะมีการแถลงจับมือกันหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า วันนี้พี่น้องประชาชนต้องการความชัดเจน ปกติความชัดเจนต้องมาจากพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ตอนนี้ความชัดเจนกลายเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
ส่วนเรียกว่าเป็นความเหนียมใช่หรือไม่ที่ยังไม่กล้าประกาศ นายวิโรจน์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เหนียมแล้ว ยุคนี้ตนว่าเขาพยายามที่จะเดินเกม เล่น เกม แต่ตนคิดว่าต้องเลิก เพราะยุคนี้สมัยนี้ประชาชนเขามองออก ในการร่วมกันตามหลักคณิตศาสตร์การเมือง ได้ 260 กว่าเสียง ซึ่งนักข่าวรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่มีเสถียรภาพ สุดท้ายจะต้องรวมพรรครวมไทยสร้างชาติหรือพลังประชารัฐมาทีหลัง เพียงแต่จะใช้เทคนิคอย่างไรในการดึงเข้ามา
“ตนว่าเปิดมาเถอะ ไม่มีอะไรที่จะเสียหายไปมากกว่านี้แล้ว พรรคเพื่อไทยต่างหากที่ควรเปิด เพราะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า หนังเรื่องนี้สปอยจนเขารู้ฉากจบกันหมดแล้วว่าพระเอกจะไปจับมือกับใคร พระรองอยู่ที่ไหน พระเอกจะอยู่ที่ไหน นางเอกจะเป็นอย่างไร นางรองจะไปอยู่กับใคร เขารู้กันหมดแล้ว เพียงแต่ว่าทำไมไม่ยอมเฉลยก็ไม่รู้ จะได้จบจบสักที.-สำนักข่าวไทย